อยากได้งบเพิ่ม เริ่มต้นประหยัดกันก่อนดีไหม

∞ สวีดัส สวัสดีเจ้าค่า หนูไซน์มารายงานตัวกันแล้วหลังจากไม่ได้เจอะเจอกันนานร่วมสัปดาห์ แต่ว่ามันคันๆ ปากยังไงชอบกล แม้จะมีกรณี "วิศาล-ชูวิทย์" มาให้เสียวสันหลังกันบ้าง แต่หนูไซน์ก็ขอเดินหน้าขุดคุ้ย เอ๊ย! รายงานความเป็นไปในโลกวิทยาศาสตร์ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ทราบกันอย่างต่อเนื่องเจ้าค่า ∞

∞ เผยภาพแรกของดาวเทียม "ธีออส" ออกมาแล้ว แต่เดิมกำหนดไว้ว่าจะบันทึกภาพ "บางกอก" กับ "เมืองภูเก็ต" แต่บังเอิญว่าเมฆปกคลุมเมืองหลวงจนบันทึกภาพไม่ได้ พอกระจอกข่าวพลั้งถามว่า "ดาวเทียมใช้ประโยชน์ไม่ได้ในช่วงหน้าฝนใช่ไหม?" เท่าน้นแหละ "ผู้บริหารจิสต์ดา" แทบจะลุกขึ้นมาฟันศอก แต่ก็หาเหตุผลตอบกลับมาจนได้...

...พร้อมวอนให้มอง "ดวงตาของชาติ" นี้ (ไม่รู้มืดบอดด้วยหรือเปล่า) ในแง่ดีบ้าง เพราะใช้เงินภาษีของประชาชนทุกคน ทุกคนเป็นเจ้าของและใช้ประโยชน์ได้ เอ...จริงหรือเปล่าเจ้าค่ะ ถ้า "หนูไซน์" อยากได้ภาพถ่ายดาวเทียมบ้าง จะให้ได้หรือเปล่าน้อ...∞

∞ มีคำแนะนำจากเวทีสัมมนาพลังงานทางเลือกสำหรับภาคขนส่งว่า ถ้าจะให้ "เอทานอล" ได้เกิด ก็ควรขึ้นราคา "แอลพีจี" เพราะหากสูสีกันตัว-ตัวแล้ว "พลังงานแอลกอฮอล์" สู้พลังงานชนิดอื่นได้สบาย แต่พอ "ก๊าซหุงต้ม" ถูกอุ้มด้วยภาษีเพื่อประโชน์ของผู้ใช้งานกลุ่มหนึ่งเท่านั้น พลังงานจาก "อ้อย" และ "มันสำปะหลัง" เลยดับสนิทไปเลยเจ้าค่า ∞

∞ ประกาศแล้วสำหรับรางวัลโนเบลในหลายสาขา อย่างฟิสิกส์ก็ยกให้ "3 ญี่ปุ่น" ในฐานะผู้พัฒนาทฤษฎีพื้นฐานที่จะช่วยอธิบายว่า ทำไมเอกภพถึงเต้มไปด้วยสสาร ทั้งที่ควรจะมีปฏิสสารในปริมาณเท่าๆ กัน และหักล้างกลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์เหมือนก่อนเกิด "บิกแบง" (--" เริ่มยากล่ะ) แต่ไม่วายนักวิทย์จากอิตาลีต้องออกโรงค้านว่า ไฉน...เพื่อนร่วมชาติที่อุตส่าห์พัฒนาทฤษฎีที่ใกล้เคียงกันถึงไม่ได้ครองรางวัลบ้าง ...

...แต่คงไม่ฉาวเท่า "สาขาแพทย์" ที่มอบให้ "นักวิทย์แดนน้ำหอม" ในฐานะผู้ พบไวรัส "เอชไอวี" แต่ฟากสหรัฐฯ ก็มีผลงานโดดเด่นไม่แพ้กัน ทำไม...ถึงชวดรางวัลไปซะงั้น แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกเจ้าค่าที่ "รางวัลอันทรงเกียรติ" นี้ถูกตั้งข้อกังขา เพราะในอดีตก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย แม้กระทั่งคำครหาว่า "ขโมยผลงาน" กันเลยทีเดียว เอ...แต่ก็อดคิดไม่ได้นะว่า ถ้า "พี่กัน" ไม่พลาดรางวัลเนี่ย จะมีเสียง "โวยวาย" ดังเท่านี้ไหมเอ่ย ∞

∞ ที่แน่ๆ นักวิทย์โนเบลปีนี้ที่เป็นขวัญใจนักวิทย์ไทยต้องยกให้ "ศ.นพ.ฮารัลด์ ซัวร์ เฮาเซ่น" ที่ค้นพบไวรัสต้นตอมะเร็งปากมดลูก อันนำมาสู่การผลิตวัคซีนป้องกันได้ในที่สุด เพราะเคยได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาสาธารณสุข มาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2548 และยังไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน ได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษา สวทช. มาร่วม 2 ปีแล้วด้วย...

..."ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์" นักวิทย์อันดับต้นๆ ของไทยเลยอดภาคภูมิใจด้วยไม่ได้เลยเจ้าค่า แถมยังฟุ้งอีกว่า "แสดงว่ารางวัลของไทยก็มีมาตรฐานระดับสากล" เพราะ ศ.เฮาเซ่น นับเป็นคนที่ 2 แล้วที่ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลก่อน แล้วไปคว้าโนเบลมาครองได้อีก งานนี้ "อ.ยงยุทธ" เลยขอฟันธงซะเลยว่า นักวิทย์รางวัลเจ้าฟ้ามหิดลคนต่อๆ ไป ก็น่าจะมีโอกาสลุ้นโนเบลไม่น้อยกว่าใคร ∞

∞ ประจวบเหมาะกับบรรยากาศเทศกาลโนเบลพอดี ช่วงนี้วงการวิทย์บ้านเราก็มอบรางวัลกันหลายเวที ล่าสุดที่เพิ่งประกาศไปหมาดๆ วานนี้ก็รางวัล "นักเทคโนโลยีดีเด่น" และ "นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่" หนูไซน์ก็ขอปรบมือดังๆ ให้นักวิจัยทุกท่านที่ได้รับรางวัลในปีนี้ด้วยเจ้าค่า ...

...แต่ที่หน้าชื่นกว่าใครๆ เห็นจะเป็น "รศ.ดร.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา" ผอ.เอ็มเทค ที่ผู้ใต้บังคับบัญชารับรางวัลพร้อมกันถึง 12 คน เพราะอยู่ทีมเดียวกันนั่นเองเจ้าค่า แถมผลงานพลาสติกใสคลุมโรงเรือนที่คิดค้นขึ้นมายังมีประโยชน์มหาศาลต่อเกษตรกรและประเทศไทย เพราะช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพของผลผลิต และลดใช้สารเคมีได้มากโขแบบไม่ต้องพึ่งพา "จีเอ็มโอ" กันเลยเจ้าค่า ∞

∞ ส่วนเวทีของรุ่นเล็กอย่าง "รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย" ก็มีผลงานน่าชื่นชมไม่น้อยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าวัวจากยางธรรมชาติเอย เครื่องเตือนภัยแก๊สแอลพีจีรั่วเอย หรือจะเป็นอัญมณีเทียมจากทรายท้องถิ่น ผลงานน้องๆ ภาควิชาฟิสิกส์ มรภ.นครปฐม ที่เกิดปิ๊งไอเดียนี้จากที่พี่ไทยต้องนำเข้าแก้วของต่างชาติ ทั้งที่ในบ้านตัวเองก็มีทราย เหมือนกัน เลยเสกสรรค์ให้เป็นอัญมณีส่งไปตีตลาดเมืองนอกบ้างสิ เลยคว้าชนะเลิศในสาขาวิทยาศาสตร์มาการันตีความสามารถจนได้ ∞

∞ นักวิทย์รุ่นเยาว์ชั้น ม.ปลาย เตรียมแจ้งเกิดในวงการ (วิทย์) กันอีกแล้ว เพราะ สวทช. จับมือ อสมท. ผุดโครงการใหม่เอาใจเด็กวิทย์วัยโจ๋ด้วยการผสานเกมโชว์สุดฮิตเข้ากับวิทย์และเทคโน จนเกิดเป็นเรียลลิตี้วิทยาศาสตร์ครั้งแรกของเมืองไทย "Clever Camp" หรือ "ศึกอัจฉริยะนักวิทยาศาสตร์" ...

... น้องๆ ที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 6 ทีม เตรียมเก็บกระเป๋าเข้าบ้านวิทย์สิริธรกันปลายเดือน ต.ค. นี้ ส่วนคุณผู้ชมทั้งหลายที่รอลุ้นหน้าจอ ต้องอดใจรอกันหน่อย เพราะกว่ารายการนี้จะเริ่มออนแอร์ ก็ปาเข้าไปปลายเดือน พ.ย. โน่น ∞

∞ ในระหว่างนั่งเป็นประธานแถลงข่าว Clever Camp "ทั่นรัฐมนตรี" ยกเอาพี่ยุ่นกะพี่กิมจิมาชูโรงพร้อมบอกว่าประเทศอื่นๆ ที่เขาล้ำหน้าไปไกลโลด เพราะทุ่มไม่อั้นให้กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่สงสัยจะทำยังไงดีล่ะ เพราะพี่ไทยก็แค่เจียดงบมาให้ "กระทรวงเกรด C" ไม่เท่าไหร่เอง...

...ทันใดนั้นก็มีเสียงกระซิบกระซาบลอยมากระทบโสตหนูไซน์ว่า "ก็แค่เอาเงินที่ไปจ้างพีอาร์เอเจนซีมาเพิ่มงบวิจัยให้กระทรวง แค่นี้ก็วิจัยเพิ่มได้หลายโปรเจคต์แล้ว" แต่ไม่รู้เสียงกระซิบจะดังพอให้ทั่นรัฐมนตรีวุฒิพงศ์ได้ยินรึเปล่า หนูไซน์ก็ขอกระซิบต่อตรงนี้เลยเจ้าค่า ∞

∞ ไม่รู้ว่าช้าเกินไปหรือเปล่าที่ "ศูนย์สื่อสารวิทย์" จัดวงเสวนาเรื่อง "แอลเอชซี" ในแง่มุมที่สื่อน้อย-ใหญ่ นำเสนอกันไปหมดแล้ว แต่ "หนูไซน์ฯ" ก็ขอปรบมือให้ที่อุตส่าห์ระดม "หัวกะทิ" มาถกกันเรื่อง "เครื่องเร่งอนุภาคยักษ์" แม้ประเด็นจะดู "เดิมๆ" ก็ตามที...

...ก่อนหน้านี้ "หนูไซน์" เคยตั้งข้อสังเกตว่า "ศูนย์สื่อสารวิทย์" จะคงความเป็น "หน่วยงานกลาง" ที่ให้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ทั้งใน "แง่บวก" และ "แง่ลบ" ได้หรือไม่ แต่ยิ่งนานวันไป "ภาระหน้าที่" ของศูนย์ดูใกล้จะกลายเป็นอีก "หน่วยพีอาร์" ของ "สำนักวิจัย" ย่านรังสิตก็ไม่ปาน แม้แต่ชื่อหน่วยงานก็ยังต้องพ่วงท้ายหน่วยงานต้นสังกัด แล้วอย่างนี้จะเป็น "องค์กรอิสระ" สมกับ "ปรัชญาของหน่วยงาน" ที่ประเทศเจริญแล้วเขามีกันหรือเปล่านะเจ้าค่ะ ∞

∞ เม้าท์กันหอมปากหอมคอแล้วก็ต้องของอำลาแฟนๆ เอาไว้เท่านี้ก่อน แล้วเสาร์หน้าจะมากระซิบให้อ่านกันใหม่ รึใครจะกระซิบล่วงหน้ามาก่อนก็ได้ที่นี่เลย scigossip@gamil.com เจ้าค่า ∞