xs
xsm
sm
md
lg

นักวิทย์ไทยชี้โนเบลแพทย์ปีนี้ไม่ค่อยสวย เพราะประเด็นขัดแย้ง HIV

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล (ภาพจากแฟ้ม)
"นพ.ประเสริฐ" ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาระบุ ทีมวิจัยฝรั่งเศสพบ เชื้อเอชไอวีก่อน แต่สหรัฐฯ ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ก้าวหน้าขึ้นมาก พร้อมบอกโนเบลแพทย์ปีนี้ ไม่ค่อยสวยงามเท่าที่ควร

กลายเป็นประเด็นในวงการนักวิทยาศาสตร์ไปทันที เมื่อครึ่งหนึ่งของรางวัลโนเบลสาขาสรีรศาสตร์หรือการแพทย์ในปีนี้มอบให้แก่ ฟรังซัวร์ แบร์เร-ซีนอยซี (Francoise Barre-Sinoussi) และ ลุค มองตากนิแยร์ (Luc Montagnier) จากสถาบันปาสเตอร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ค้นพบไวรัสเอชไอวี (HIV) โดยปราศจากโรเบิร์ต กัลโล (Robert Gallo) นักวิจัยของสถาบันไวรัสวิทยามนุษย์ มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ (Institute for Human Virology at the University of Maryland) สหรัฐฯ ค้นที่พบเชื้อเอชไอวีร่วมกับทั้งสอง

ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง ศ.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และนายกสมาคมไวรัสวิทยา (ประเทศไทย) เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว

"ตามที่ทราบกันโดยทั่วไป ทีมนักวิจัยฝรั่งเศสเป็นผู้ที่แยกเชื้อเอชไอวีได้ก่อนเป็นทีมแรก และได้มีการส่งตัวอย่างไปยืนยันผลในห้องแล็บของสหรัฐฯ และหลังจากนั้นไม่นานก็ปรากฏว่านักวิจัยสหรัฐฯ ก็แยกเชื้อเอชไอวีได้เช่นเดียวกัน แต่เป็นที่สงสัยกันว่าเชื้อที่นักวิจัยสหรัฐฯ แยกได้นั้นอาจเป็นเชื้อที่ส่งมาจากฝรั่งเศส" นพ.ประเสริฐเล่า

ทั้งนี้ นพ.ประเสริฐ กล่าวว่า คนในวงการส่วนมาก เชื่อกันว่าทีมของสหรัฐฯ ไม่ตรงไปตรงมา ตอนหลังสหรัฐฯ ก็เลยต้องออกมาชี้แจง โดยระบุว่าตัวอย่างที่พวกเขาใช้ทดลองนั้นมีการปนเปื้อนตัวอย่างของทางนักวิจัยฝรั่งเศส แต่ก็มีเกิดปัญหาการฟ้องร้อง และอ้างสิทธิกัน ในการเป็นผู้ค้นพบคนแรก และจบลงด้วยความร่วมมือวิจัยกันระหว่าง 2 ประเทศ

"การได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้นพบคนแรก มันเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจ ของนักวิทยาศาสตร์ผู้นั้น และนอกเหนือจากนั้น ก็มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะหลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ค้นพบ อันนำไปสู่การพัฒนาสิ่งอื่นๆ ต่อไป เช่น การตรวจวินิจฉัย ซึ่งเมื่อประชาชนรู้กันแล้วว่าอะไรเป็นสาเหตุของโรค ความต้องการที่จะตรวจเลือดก็มีมากขึ้น" นพ.ประเสริฐอธิบาย

อย่างไรก็ตาม ในการมอบรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ปีนี้ให้แก่ 2 นักวิจัยฝรั่งเศส ในฐานะผู้ค้นพบเชื้อเอชไอวีเป็นคนแรก โดยไร้เงาของกัลโลใ นฐานะผู้ค้นพบร่วมนั้น นพ.ประเสริฐ แสดงความเห็นว่า หากจะมอบให้ เพราะค้นพบเป็นคนแรก ก็ต้องยอมรับว่าเป็นทีมวิจัยของฝรั่งเศส

"แต่ในระยะหลังๆ ก็เป็นที่ยอมรับกันว่า ทีมวิจัยของสหรัฐฯ มีบทบาทอย่างยิ่งที่ทำให้งานวิจัยในเรื่องนี้ก้าวหน้าขึ้นมาก ดังนั้นเขาก็น่าจะได้รับเครดิตนี้ด้วยเหมือนกัน" นพ.ประเสริฐ แสดงความเห็น

"ฝ่ายนักวิจัยสหรัฐฯ ก็มีบทบาทในเรื่องนี้อย่างมาก ทว่ากลับไม่ได้รับรางวัลร่วมกัน  แต่หากจะให้รางวัลแก่เขา เขาก็ไม่ใช่ผู้ที่ค้นพบคนแรก ดังนั้นไม่ว่าจะกรณีใด โดยส่วนตัวก็คิดว่ารางวัลโนเบลในปีนี้ไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่" ความเห็นของ นพ.ประเสริฐ

นอกจากนี้ นพ.ประเสริฐ ยังเคยเป็นลูกศิษย์ของ ศ.นพ.ฮารัลด์ ซัวร์ เฮาเซ่น (Professor Harald Zur Hausen) วัย 72 ปี จากศูนย์วิจัยมะเร็ง เมืองไฮเดลเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี อีกหนึ่งผู้ที่ได้รับโนเบลสาขาการแพทย์ในปีนี้ด้วย

"ศ.เฮาเซ่น เป็นบุคคลที่น่ารัก และน่ายกย่องมาก เป็นแม่แบบของนักวิทยาศาสตร์ที่มีความพยายามในการแก้ปัญหา ซึ่งท่านสนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น และศึกษาวิจัยเรื่องนี้มายาวนานจนในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ ซึ่งก็สมควรได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งท่านก็มาเมืองไทยบ่อยครั้ง และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับ สวทช. ด้วย" นพ.ประเสริฐ กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น