xs
xsm
sm
md
lg

Josiah Willard Gibbs (1)

เผยแพร่:   โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

ภาพแกะทองสัมฤทธิ์ของ Josiah Willard Gibbs ที่มหาวิทยาลัย
Josiah Willard Gibbs เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2382 (รัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ในครอบครัวที่มีการศึกษาดีและสูง Gibbs เป็นลูกคนสุดท้องและเป็นลูกชายคนเดียวของ Josiah Gibbs กับ Mary Anna (ถึงพ่อกับลูกจะมีชื่อเหมือนกัน แต่ Gibbs ก็ไม่ใช้คำว่า Jr. ตามท้าย) Gibbs มีพี่สาว 3 คน และสนิทสนมกับพี่สาวมาก บิดาของ Gibbs สำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Yale ในเมือง New Haven และได้ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์วรรณคดีที่มหาวิทยาลัยที่ตนสำเร็จการศึกษา ส่วนมารดาสนใจวรรณคดีและปักษีวิทยา

ในสมัยก่อนเกิดสงครามกลางเมือง นิสิตมหาวิทยาลัย Yale บางคนเวลาไปโรงเรียนต้องพกปืน และในโรงเรียนมีทุจริตการโกงข้อสอบเนืองๆ เพราะโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมีเหตุการณ์วุ่นวายบ่อย ดังนั้น มารดาของ Gibbs จึงให้ Gibbs เรียนหนังสือที่บ้าน และเมื่อ Gibbs สำเร็จการศึกษาที่ Hopkins School แม่ก็ได้จัดส่ง Gibbs วัย 15 ปี เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Yale เพราะ Gibbs ทำคะแนนคณิตศาสตร์และละตินได้ดี เขาจึงตัดสินใจเรียนวิศวกรรมศาสตร์ และสำเร็จปริญญาตรีเมื่ออายุได้ 19 ปี ด้วยคะแนนเกือบดีเยี่ยม จากนั้นก็ได้หางานทำเป็นครูสอนละตินและวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Yale อยู่ 3 ปี จึงกลับไปเรียนต่อ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมศาสตร์เป็นคนแรกของอเมริกาด้วยวิทยานิพนธ์เรื่อง On the Form of the Teeth of Wheels in Speer Gearing

ในขณะที่ Gibbs กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกนั้น บิดาได้เสียชีวิตลง แต่ก็ได้ทิ้งมรดกไว้มาก ทายาทของตระกูลมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องทำงานตลอดชีวิต เมื่อสำเร็จการศึกษา Gibbs ได้งานเป็นครูสอนวิชา Steam Turbine ที่ Yale และได้ประดิษฐ์เบรกรถไฟ ซึ่งได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์เลขที่ 53971 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2409 ในสมัยนั้นประเพณีที่นิยมปฏิบัติสำหรับคนที่เพิ่งจบปริญญาเอก คือ การฝึกงานในมหาวิทยาลัยกับอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ดังนั้น Gibbs จึงเดินทางไป Paris และได้พบกับ Louiville ที่มหาวิทยาลัย Sorbonne และขณะอยู่ที่ Paris Gibbs ได้เริ่มป่วยเป็นวัณโรค สุขภาพของเขาอ่อนแอลง Gibbs จึงได้พักรักษาตัวจนหาย จากนั้นก็ได้เดินทางไปเยอรมนี เพื่อฟังคำบรรยายของ Kundt และ Weierstrasse ที่มหาวิทยาลัย Berlin แล้วไปฟัง Kirchoff, Cantor, Bunsen และ Helmholtz สอนฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัย Heidelberg ด้วย

ในปี 2412 เมื่อ Gibbs เดินทางกลับอเมริกา เขามีความรู้และความเข้าใจวิทยาศาสตร์ดีขึ้นมาก จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ฟิสิกส์ทฤษฎีคนแรกของอเมริกา เมื่ออายุ 32 ปี แต่ไม่มีเงินเดือนให้ เพราะ Gibbs ยังไม่มีผลงานวิจัยด้านฟิสิกส์เลย และมหาวิทยาลัยได้ให้ Gibbs สังกัดอยู่ที่ภาควิชา Philosophy and the Arts เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2414 อีก 2 ปีต่อมา เมื่อ Bowdoen College ที่รัฐ Maine ต้องการตัว Gibbs จึงเสนอให้เงินเดือน เหตุการณ์ได้บีบบังคับมหาวิทยาลัย Yale ให้ต้องเสนอเงินเดือนแก่ Gibbs แต่เมื่อเงินมิได้เป็นเรื่องสลักสำคัญ และ Gibbs ต้องการอยู่ใกล้ครอบครัว เขาจึงตัดสินทำงานต่อที่ Yale

เมื่ออายุ 34 ปี Gibbs ได้ตีพิมพ์งานวิจัยด้านฟิสิกส์ทฤษฎีที่สำคัญ คือ เรื่อง Mathematical Theory of Thermodynamics ใน Transactions of the Connecticut Academy of Arts and Sciences และอีก 2 ปีต่อมา Gibbs ก็ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ On the Equilibrium of Heterogeneous Substances ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกรู้จัก Gibbs มากที่สุด เพราะ Gibbs ได้เสนอความคิดเรื่อง free energy และ chemical potential เพื่ออธิบายปรากฏการณ์เคมีกายภาพ โดยนำคณิตศาสตร์ของวิชา Statistical Mechanics มาใช้ใน chemical thermodynamics หนังสือเล่มนี้ ยังมีการอธิบายความหมายของ ensemble และ Gibbs’ phase rule ด้วย

ในด้านบุคลิกภาพ Gibbs เป็นคนที่มีบุคลิกดี รูปร่างผอมและสูงปานกลาง ชอบเดินเร็ว และก้าวเท้ายาว เวลาจะออกนอกบ้าน Gibbs จะแต่งตัวเรียบร้อย และใส่หมวก การมีผิวพรรณสะอาด ตาสีฟ้า หน้าผากเถิก และจมูกโด่ง ทำให้เวลายิ้มดูจริงใจ ตามปกติ Gibbs ไม่ชอบอ่านงานวิจัยของคนอื่น แต่ชอบหาคำตอบเองตามลำพัง

ในด้านความเป็นครู Gibbs สอนหนังสือไม่ดีนัก เพราะไม่ชอบการอารัมภบท ทำให้นิสิตไม่รู้เรื่อง ไม่ชอบเข้าห้องทดลอง และไม่ชอบอ่านงานเขียนของตนเอง ตลอดชีวิต Gibbs เขียนตำรา 20 เล่ม และเขียนงานวิจัยประมาณ 100 เรื่อง

สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.
ชีวิตนิสิตมหาวิทยาลัยที่ Yale เมื่อ 150 ปีก่อน ดุเดือด และรุนแรงบ้าง เพราะนิสิตบางคนพกปืน
วิทยานิพนธ์ของ Gibbs ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
กำลังโหลดความคิดเห็น