xs
xsm
sm
md
lg

คำโจมตีเพื่อนเก่าๆ และการเมืองเก่าๆ

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ท่านผู้อ่านที่เคารพ เพื่อนผู้หวังดีจากต่างจังหวัดโทร.มาบอกว่า 2 วันที่แล้ว ผมถูกโจมตีโดยวิทยุชุมชนที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ ในรายการของคุณชูพงษ์ ถี่ถ้วน

ผู้เล่าบอกว่า ผมเคยไปขอความรู้เรื่องยางพาราจากคุณชูพงษ์ เพื่อจะเอาไปอาศัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หากินค่านายหน้า ความข้อนี้เท็จครึ่งและจริงครึ่ง ส่วนที่จริงครึ่งนั้นก็ยังต้องอธิบายให้จบว่า พลเอกชวลิตเป็นคนเชิญคุณชูพงษ์กับผู้รู้เรื่องยางอีกท่านหนึ่งมาพบผม ในฐานะที่เป็นมือเรื่องยางของพรรคความหวังใหม่

ส่วนเรื่องผมจะไปเอาค่านายหน้าจากพลเอกชวลิตหรือเอาพลเอกชวลิตไปหากินค่านายหน้านั้นผิดทั้งหมด เรื่องจริงมีอยู่ว่า ผมมีเพื่อนชื่อ ดร.ลี ผู้เป็นทายาทคนโตของ “เต็ก บี ฮั้ง” ราชายางประเทศไทย ลีจบปริญญาเอกฟิสิกส์ จากอิมพีเรียล คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน และเป็นอดีตแชมเปี้ยนแบดมินตันโทมัสคลับอีกด้วย เขาก็เลยไม่สนใจธุรกิจของบิดา ปล่อยให้น้องๆ บริหารจนเกิดปัญหา

ลีอยากพบนายกฯ ชวลิต เพื่อขอความร่วมมือทางนโยบาย ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาของเขาและปัญหายางในประเทศไทย ไม่ว่าในเรื่องค้าขายกับจีน หรือความเสียเปรียบมาเลเซียกับสิงคโปร์ ผมบอกลีให้สถานทูตสิงคโปร์เป็นผู้ทำนัดหมาย แล้วผมจะพาไปพบเอง

ผมเป็นคนรู้น้อย จึงศึกษาเรื่องยางต่อจากตำราและเอกสารต่างๆ รวมทั้งพาดร.ลีไปพบกับผู้รู้รายอื่นๆ เช่น ดร.ณรงค์ เพชรประเสริฐ จากสำนักเศรษฐศาสตร์การเมืองจุฬาฯ เป็นต้น ที่ผมสรุปได้ ปัญหาสวนยางก็เหมือนกับปัญหาอื่นๆ คือ ผู้มีส่วนได้เสียที่แท้จริง หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Stakeholder ตกเป็นเบี้ยล่างของนายทุน รัฐ และนโยบายหรือความไม่มีนโยบายของรัฐบาล

เดี๋ยวนี้ ผมยังมีความรู้สึกที่ดีต่อคุณชูพงษ์ ไม่ว่าคุณชูพงษ์จะอยู่ฝ่ายไหน ถึงคุณชูพงษ์จะโจมตีผมจริง ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องขอกันกินหรือเป็นค่าบูชาครูเสียก็แล้วกัน คุณชูพงษ์ อาจจะเข้าใจผิดว่า ผมก็คงเหมือนคนอื่นๆ ที่รายล้อมอาศัยพลเอกชวลิตเป็นเครื่องมือหากิน

ไหนๆ ก็พูดแล้ว ผมขอพูดถึงความสัมพันธ์ของพลเอกชวลิตกับผม ผมกับดร.ลี

พลเอกชวลิตกับผมนั้นรู้จักกันมาตั้งแต่เป็นหนุ่ม ผมกับดร.ลีก็เช่นกัน การที่ผมจะพาลีไปพบพลเอกชวลิตนั้นง่ายมาก แต่ผมอยากทำให้มันยากขึ้น เพราะอยากเห็นคนต่างประเทศเขาเคารพตำแหน่งและสถาบันนายกรัฐมนตรีของไทย

มีคนนินทาว่าร้ายหรือวิจารณ์พลเอกชวลิตในทางลบทั้งในที่ลับและที่แจ้งมากมาย แต่พลเอกชวลิตที่เป็นกัลยาณมิตรของผม ไม่ว่าเรื่องใดที่เราคิด ปรึกษาหารือร่วมกันทำ ผมรับรองได้ว่าไม่มีเรื่องใดที่ไม่สุจริตหรือผิดจริยธรรม ล้วนเป็นแต่เรื่องที่รับใช้สังคม ประเทศชาติและเพื่อนมนุษย์ทั้งสิ้น เช่น เรื่องการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประเทศเพื่อนบ้าน คือ เขมร ลาว และเวียดนาม เป็นต้น ซึ่งหลายๆ ครั้งความจำเป็นและเร่งรัดของเวลา ก็ทำให้ต้องข้ามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบราชการอยู่บ้าง ไม่มีครั้งใดที่พลเอกชวลิตจะเรียกหรือรับผลประโยชน์ใดๆ ผมรับประกันได้

ผมเอาใจช่วยแต่มิได้เข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคความหวังใหม่ของพลเอกชวลิต มิไยที่จะถูกรบเร้าหรือเชื้อเชิญกี่ครั้ง ครั้งหนึ่งพลเอกชวลิตเชิญผมไปที่สภาผู้แทนราษฎรและบอกผมว่าตนจะอายุครบ 68 แล้ว และกำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อไรผมจะมาช่วยทำงานเสียที ปล่อยให้เพื่อนว้าเหว่ทำงานอยู่ภายใต้วงล้อมของคนแปลกหน้า-ต่างอุดมการณ์ทั้งสิ้น ผมไม่อาจเล่าคำตอบของผมให้ผู้อ่านได้จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพลเอกชวลิตเสียก่อน

แต่เรื่องที่ผมจะเล่าได้เลย คือความขอบคุณในความไว้วางใจที่พลเอกชวลิตให้ต่อผม รุ่งเช้าวันหนึ่งที่หนองคาย ก่อนที่พลเอกชวลิตจะลาออกจากนายกรัฐมนตรีนานพอสมควร ผมได้รับโทรศัพท์บอกว่า “อาจารย์ผมจะลาออกแล้ว” ผมบอกว่า “ช้าก่อน ผมจะลงไปคุยด้วย” เรื่องที่เราคุยกันเรื่องหนึ่ง ก็คือทำอย่างไรจะป้องกันมิให้คนหากินกับค่าเงินบาทที่กำลังจะถล่ม และหาคนหรือพรรคที่จะฉลาดและกล้าหาญพอที่รับมือวิกฤตรวมทั้งไอเอ็มเอฟได้ด้วย เรื่องนี้พลเอกชวลิตเป็นผู้ที่เสียสละและมีจิตใจรักชาติยิ่ง ใครก็ตามที่กล่าวหาและเข้าใจว่า พลเอกชวลิตได้ประโยชน์จากการลดค่าเงินบาท ผมว่าเป็นความเข้าใจผิด เช่นเดียวกัน ผมกับครอบครัวซึ่งรู้และมีความรู้เรื่องนี้ แถมยังมีบัญชีเงินออมน้อยๆ เหลืออยู่ในต่างประเทศเป็นเครื่องมืออยู่แล้ว ต่างก็ยอมเป็นคนโง่ ไม่ได้ประโยชน์สักสตางค์แดงเดียว ถ้าผมจะหาเงินคงจะรวยกว่าค่านายหน้าค้ายางที่คุณชูพงษ์สงสัยหลายแสนเท่า

ที่ผมเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังนี้ ไม่มีความประสงค์จะคุยโม้ แต่มีความต้องการจะจูงท่านผู้อ่านให้เห็นถึงความเชื่อมโยงว่า ประเทศชาติและรัฐบาลของพลเอกชวลิตต้องตกอยู่ในวิกฤตกลายเป็นเหยื่อของสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ก็เพราะพรรคการเมืองที่พลเอกชวลิตตั้งขึ้นเป็นพรรคชั่วคราว เมืองไทยไม่มีพรรคการเมืองที่แท้จริง มีแต่พรรคชั่วคราวที่หัวหน้าตั้งจึงไม่ยั่งยืน จึงไม่สามารถสร้างนโยบายที่ต่อเนื่อง เข้มแข็ง ยืดหยุ่นและถูกต้อง ตั้งอยู่บนปัญหาและผลประโยชน์ของ Stakeholder หรือประชาชนผู้เกี่ยวข้อง ดังเช่น ตัวอย่างเรื่องยางพารานี้ เพราะเมื่อทักษิณขึ้นมาเป็นรัฐบาล ดร.ณรงค์ เพชรประเสริฐ อุตส่าห์ฝันหวานเข้าไปช่วย ในที่สุดเรื่องภาคียาง 3 ประเทศ เรื่องนิคมเมืองยางพารา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคำคุยและวิธีการพร่าเวลาและผลาญงบประมาณของบ้านเมืองทั้งสิ้น

ตราบใดที่ระบบพรรคการเมืองและการเลือกตั้งของเรายังเป็นอยู่อย่างนี้ ตราบนั้น ประชาชนก็จะหลงว่าโครงการหาเสียงคือนโยบาย ในขณะที่นโยบายที่แท้จริง อันมาจากความต้องการของประชาชนที่อยากได้สิ่งพึงปรารถนาที่ยังไม่มี หรือต้องการกำจัดสิ่งที่มิพึงปรารถนาที่มีอยู่กลาดเกลื่อนไม่มีวันเกิดขึ้นได้ เพราะพรรคการเมืองต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาต่างก็เพื่อรับใช้ประโยชน์ของหัวหน้าแล้วรุ่งโรจน์ หรืออับเฉาลงตามบารมีของหัวหน้า หาได้ขึ้นกับการมีส่วนร่วมที่แท้จริงของประชาชนหรือนโยบายที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางไม่

กลับมาเล่าเรื่องดร.ลี ความเป็นพิเศษไม่เหมือนใครของเขาก็คือ เขาทำตัวเหมือนมนุษย์สายฟ้า หายตัวไปที่นั่น โผล่ไปที่นี่รอบโลก ผมเคยยั่วเขาว่า สารภาพมาดีๆ ว่าเป็นเคจีบี/ซีไอเอ หรือเอ็ม 6 กันแน่ เขาหัวร่อร่า ตอบว่าสูงกว่านั้น และผมก็เห็นว่าเขาบินสูงจริงๆ รู้จักผู้นำประเทศต่างๆ ไม่น้อย และได้รับมรดกเกียรติยศจากพ่อที่รัฐบาลจีนมอบให้เป็นอย่างมาก ถ้าหากไทยอยากจะให้จีนช่วยซื้อยางพาราในราคาและเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม ผมเชื่อว่า ลี เป็นคนหนึ่งที่จะช่วยได้

ที่สำคัญกว่า ลีรู้จักหัวหน้าซีไอเอที่รับผิดชอบเมืองไทยในอดีตและปัจจุบันทุกคนชนิดโทรศัพท์ถึงได้ทุกเวลา ผมมีความรู้เรื่องราชการลับประเทศต่างๆ รวมทั้งอเมริกาพอสมควร ยังอดแปลกใจและวัดไม่ได้ว่า เอะนี่อะไร แต่ที่แน่ก็คือลีเป็นเพื่อนรักของผม แต่เขาไม่มีหวังที่จะได้ความลับอะไรจากผม ผมเสียอีกได้จากเขาในบางเรื่องที่สำคัญจากอเมริกา ทั้งนี้เพราะเขาเป็นเพื่อนซี้จริงๆ กับศาสตราจารย์ทอมสัน จากเฟรสเชอร์สกูล ออฟ ดิโปลมาซี อันโด่งดัง เขาเคยเป็นผู้อำนวยการของสถาบันการต่างประเทศของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในนครวอชิงตัน ดี.ซี. และเป็นบรมครูของ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ซึ่งมีเรื่องประหลาดๆ ของดร.สุรเกียรติ์เล่าผ่านมาให้ผมฟังเสมอๆ ทอมสัน เมื่อก่อนก็เป็นชายธรรมดาๆ หนุ่ม ฉลาดลึกล้ำ ประสบความสำเร็จและรุ่งโรจน์ มีพ่อตาซึ่งเป็นอภิมหายักษ์ในการต่างประเทศของอเมริกา แต่จู่ๆ เขาก็หรี่ลงๆ เพราะเขาค้นพบว่า ความสุขที่แท้จริงของเขาอยู่ที่ลูกศิษย์และเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ชาย หนังสือที่เป็นเหมือนคำสารภาพของเขาขายดีมาก

วันนี้ผมขอจบแค่นี้ และคราวหน้าจะโยงเรื่องนี้ไปสู่เรื่องพรรคหัวหน้าตั้งพังการเมืองไทย เพื่อจะให้ข้อคิดเรื่องการเมืองใหม่-การเมืองเก่า
กำลังโหลดความคิดเห็น