∞ สวัสดีวันเสาร์สุดท้ายของเดือนเจ้าค่า แม้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในบ้านเรา กำลังร้อนระอุ แต่หนูไซน์ก็ขอปลีกเวลา มารายงานความเคลื่อนไหวในวงการวิทย์ ให้ทราบกันถ้วนหน้าเช่นเคยเจ้าค่า ∞
∞ นึกว่าเจ้าชายสายเสมอจะมีอยู่แต่เฉพาะที่กระทรวงวิทย์เท่านั้น ที่ไหนได้ในงานเลี้ยงต้อนรับนักเรียนโอลิมปิกวิชาการ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ รมช.กระทรวงศึกษาฯ "บุญลือ ประเสริฐโสภา" มาเป็นประธานเปิดงาน บ้างก็เอ่ยปากถามถึงว่าอยู่ไหนแล้ว เพราะเลยเวลามาเกือบชั่วโมง เลยมีเสียงตอบว่าถ้าเป็น "รัฐมนตรีช่วย...คนนี้" ให้ทำใจได้ เพราะว่าสายเป็นประจำทุกงานเจ้าค่า
∞ แต่ผลการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการปีนี้สำเร็จเกินคาดไม่แพ้นักกีฬาไทยที่ไปแข่งโอลิมปิกที่ปักกิ่ง เพราะเด็กไทยของเราคว้าเหรียญรางวัลกลับมาชื่นชมกันได้ทุกคน แถมปีนี้ยังคว้ามาได้ 11 เหรียญทอง กับ 10 เหรียญเงิน และอีก 2 เหรียญทองแดง นับว่าคว้าทองมาได้มากสุดในประวัติศาสตร์การร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการของไทยเลยทีเดียว ส่วนคะแนนวิชา "คณิต-คอม" ยังสูงติดอันดับท็อป 10 ของโลกอีกด้วย
เสร็จภารกิจพิชิตเหรียญโอลิมปิก (วิชาการ) แล้วน้องๆ ยืนยันกันเป็นมั่นเหมาะว่าจะตั้งใจศึกษาหาความรู้และนำมาช่วยกู้ชาติ เอ๊ย! พัฒนาประเทศชาติอย่างแน่นอน เพราะเห็นตัวอย่างประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาต่างก็ให้ความสำคัญกับศาสตร์ที่ชื่อว่า "วิทยาศาสตร์" กันทั้งนั้น (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ นะเจ้าคะ ไม่ใช่หมอ วิศวะ อย่างที่คนไทยนิยมกัน) เพราะฉะนั้นถ้าจะพัฒนาประเทศไทย ก็ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ในประเทศด้วยเช่นกัน...หนูไซน์และแฟนๆ ทางบ้านขอปรบมือให้ดังๆ เลยเจ้าค่า (แปะๆๆๆ) ∞
∞ ที่น่าปรบมือดังๆ ให้อีกคนก็เห็นจะเป็น "น้องมิ่ง" น.ส.จักรี์รดา อัตตรัถยา ที่แม้ "พิการทางหู" มาแต่กำเนิด แต่ก็ใช้ "ดวงตา" 1 คู่ที่มีอยู่ บวกกับความพยายามอย่างมุ่งมั่น จนสำเร็จผลสูงสุดทางการศึกษาอย่างน่าชื่นชม ที่สามารถคว้าวิทยาศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้วจามจุรีมาครองได้อย่างงดงาม
และยังได้รับทุน ก.พ. จากการสอบแข่งขันกับคนปกติ ได้ไปศึกษาต่อด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่สหรัฐฯ เน้นใช้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอน เพื่อเตรียมกลับมาเป็นนักวิจัยอยู่ที่ศูนย์ซินโครตรอนฯ เมืองโคราช แม้แต่ "รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ" ผอ.ศูนฯ ยังปลื้มน้องมิ่งมากๆ ถึงกับเอ่ยปาก เรื่องความบกพร่องทางร่างกายถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หากเทียบกับความสามารถอันเหลือล้นของน้องมิ่ง และเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานวิจัยในอนาคตอย่างแน่นอน
ฟากน้องมิ่งก็บอก กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องจากครอบครัวไปอยู่ต่างแดนเพียงลำพัง แต่เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศชาติ น้องมิ่งก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเจ้าค่า...เอ้า! หนูไซน์ขอเอาใจช่วยให้น้องมิ่งสำเร็จด๊อกเตอร์กลับมาไวๆ นะเจ้าคะ ∞
∞ "เมกา เคลเวอร์" ลาจอปุ๊ป สวทช. ก็ส่ง "สพันซ์ ฟองน้ำอัจฉริยะ ฉลาดสุดสุด" ออกอากาศต่อทันที แถมคราวนี้ยังแอบอินเทรนด์ซะด้วย เพราะเป็นรายการนำเข้าจากเกาหลีใต้ในขณะที่ K POP และกระแส "เกาหลีฟีเวอร์" กำลังระบาดในเมืองไทย
งานนี้แว่วว่า "ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน" ผอ.สวทช. หวังจะให้ "ดารากิมจิ" ที่เป็นตัวชูโรงในรายการช่วยเรียกเรตติ้งเพิ่มจากกลุ่มผู้ชมที่เป็นแฟนซีรีส์เกาหลีให้อีกทางหนึ่งด้วยเจ้าค่า แต่ท่าน ผอ. ก็มั่นใจว่าหลังจากนั้นเนื้อหาสาระที่น่าสนใจในรายการจะเป็นสิ่งดึงดูดผู้ชมให้นั่งเฝ้าติดหนึบอยู่หน้าจอได้โดยไม่ต้องง้อดาราเจ้าค่า ∞
∞ เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Science Film Festival ของ สวทช. ซึ่งปีนี้มีหัวข้อท้าทายใหม่ให้ทั้งว่าที่นักนิเทศน์และนักวิทยาศาสตร์ช่วยกันคิดสื่อวิทยาศาสตร์ที่จะบอกเล่าเรื่อง "วัสดุรักษ์โลก" งานนี้แถลงข่าว "อย่างหรู" ที่ศูนย์การออกแบบ "ทีซีดีซี" พร้อมมอบทุนสนับสนุนการทำสื่อแก่นักศึกษา 20 กลุ่ม ท่ามกลางเสียงดนตรีบรรเลงอันไพเราะเพราะพริ้ง
สำหรับผลงานของนักศึกษาที่ "เวิร์คๆ" ทางผู้ใหญ่เขาจะเอาไปเผยแพร่ต่อ อย่างน้อยๆ ก็รับประกันได้ว่ามีเวที "เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์" รองรับผลงาน "วัยโจ๋" หนึ่งเวทีแล้วเจ้าค่า ∞
∞ เดี๋ยวนี้นึกจะกิน "ก๋วยเตี๋ยว" ร้านไหนคงต้องคิดหน้าคิดหลังให้แน่ใจเสียก่อน เพราะในชามก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดอาจมีภัยร้ายสารพัดแฝงอยู่ ตั้งแต่หม้อก๋วยเตี๋ยวปนเปื้อนสารตะกั่ว ไปจนถึงเครื่องปรุงต่างๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานและมีสารพิษปะปนอย่างพริกป่น-ถั่วป่น ล่าสุดวันก่อนนักวิจัย สกว. ออกมาเผยว่าในเส้นก๋วยเตี๋ยวเต็มไปด้วย สารกันบูด-น้ำมันทอดซ้ำ-อัลฟาท็อกซิน และอีกสารพัดสารเคมีที่ยังไม่รู้แน่ชัด
แต่ก็อย่างที่มีผู้อ่านหลายคนแสดงความเห็นมาว่า จะโทษแต่ร้านก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะเป็นแค่ปลายทางก่อนถึงปากผู้บริโภคเท่านั้น และก๋วยเตี๋ยวยังถูกจัดให้เป็น 1 ในอาหารยอดฮิตของคนไทยที่หากินได้แทบทุกที่เวลาหิว พ่อแม่พี่น้องทางบ้านรวมทั้งหนูไซน์เองด้วยก็อยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายช่วยกันแก้ไขด่วนเจ้าค่า ∞
∞ เก็บตกจากงานสัปดาห์วิทย์ที่ท้องฟ้าจำลองวันสุดท้าย (24 ส.ค.) บรรยากาศยังไม่ถึงกับเงียบเหงาซะทีเดียว เพราะยังมีเยาวชนและพ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสนใจจูงลูกจูงหลานมาแสวงหาความรู้นอกตำราอย่างต่อเนื่อง แต่ไหงในห้องบรรยายพิเศษหัวเรื่องน่าสนใจอย่าง "ผู้ปกครองกับการส่งเสริมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ด้วยตนเองที่บ้าน" กลับเงียบเหงาอย่างไม่น่าเชื่อ รึว่าอยู่มุมลึกเกินไปจนคนเข้าไม่ถึง แต่ "อ.สุรัชน์ อินทสังข์" ที่มาเป็นวิทยากรก็ยังแสดงสปิริต แม้มีผู้ปกครองเข้าฟังแค่ 2-3 คน ก็ยังคงบรรยายได้อรรถรสเหมือนมีคนฟังนั่งอยู่เต็มห้องยังไงยังงั้นเลย
ส่วน 2 นักเรียนเจ้าของเหรียญโอลิมปิก (วิชาการ) รุ่นก่อนๆ "อำนวย-รณชัย" ที่มีเหยี่ยวข่าวกระซิบมาว่า 2 หนุ่มแสดง "สปิริต" อย่างเต็มที่เช่นกัน ในการเป็นวิทยากรภายในงาน "สัปดาห์วิทย์" ที่ท้องฟ้าจำลองเช่นกัน แม้มีเยาวชนเข้ามาดูการทดลองเพียง 3 คน เรียกว่าคุ้มกับ "เบี้ยเลี้ยง" ที่ได้รับ...พวกผู้ใหญ่ๆ ทั้งหลายที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน จะดูไว้เป็นตัวอย่างและปฏิบัติตามก็ไม่เสียหายนะเจ้าคะ ∞
∞ หนูไซน์คงต้องหยุดเม้าท์ไว้เพียงเท่านี้ก่อน เพราะมีภารกิจเพื่อประเทศชาติรออยู่เบื้องหน้า แล้วจะกลับมาพบกับแฟนๆ ใหม่ในสัปดาห์หน้าเหมือนเดิมเจ้าค่า แต่ถ้าอยากเม้าท์กันก่อนก็ส่งมาได้เลยที่ scigossip@gmail.com ทุกเวลาเจ้าค่า ∞