ข้าราชการกระทรวงวิทย์ฯ โวยลั่นถูกนักการเมืองล้วงลูก สั่งหาเงิน 100 ล้านทำ “นิทรรศการโลกร้อน” ต้นปีหน้า ต้องโยกงบข้ามกรมวุ่น บีบ “ปลัด” สนอง ไม่งั้นเก้าอี้สะเทือน ล่าสุดไล่บี้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจัดโปรแกรมทัวร์นอกสนองตัณหาลูกน้องกลางเดือนหน้า
วานนี้ (7 พ.ย.) แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ในกระทรวงได้เกิดปัญหาการล้วงลูกจากนักการเมืองอย่างหนัก ล่าสุดได้เข้ามาล้วงลูกในโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ หลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการนิทรรศการโลกร้อน ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน ก.พ.2552 ซึ่งฝ่ายการเมืองได้มอบหมายให้สำนักงานรัฐมนตรีเป็นแกนหลักและให้อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการ ทำให้เกิดข้อสงสัยในหมู่ข้าราชการว่าทำไมจึงต้องมอบหมายให้บุคคลภายนอกมาดำเนินการ ที่สำคัญโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณมากว่า 100 ล้านบาท แต่สำนักงานรัฐมนตรีไม่สามารถหางบประมาณดังกล่าวได้
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ล่าสุดจึงเกิดปัญหาการโยกงบประมาณของหน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น จากโครงการศึกษาถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างเครื่องจักรด้วยวิศวกรรมย้อนรอย สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน 30 ล้านบาท และ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติอีกประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้มีข้าราชการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกดดันให้ปลัดกระทรวงฯ ลงนามเพื่อโยกงบดังกล่าว ไม่เช่นนั้นเช่นนั้นจะกระทบต่อตำแหน่งได้
“ไม่เพียงเท่านี้ สำนักงานรัฐมนตรียังได้ล้วงลูกการทำงานของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กรณีเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ระหว่างวันที่ 13-21 ธ.ค.51 และ แต่มีปัญหาอยู่ว่าคนที่ไปนั้น เป็นข้าราชการ 10 กว่าคน สื่อมวลชน 6 แห่ง ที่สำคัญทีมรัฐมนตรีกว่า 10 คน และทีมงานรัฐมนตรีบอกมาว่าต้องการเดินทางไปประเทศเยอรมันเพื่อศึกษาเรื่องไบโอดีเซลต่อ งานนี้ ปส.เป็นกังวลมากเพราะเป็นเจ้าภาพแต่ไม่มีงบประมาณ ไม่ทราบมาก่อนว่าจะต้องมีกำหนดการเดินทางเพิ่ม จึงเกิดปัญหามากมาย และยังไม่ทราบว่าจะหางบประมาณที่ไหนมารองรับ” แหล่งข่าวกล่าว
วานนี้ (7 พ.ย.) แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ในกระทรวงได้เกิดปัญหาการล้วงลูกจากนักการเมืองอย่างหนัก ล่าสุดได้เข้ามาล้วงลูกในโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ หลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการนิทรรศการโลกร้อน ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน ก.พ.2552 ซึ่งฝ่ายการเมืองได้มอบหมายให้สำนักงานรัฐมนตรีเป็นแกนหลักและให้อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการ ทำให้เกิดข้อสงสัยในหมู่ข้าราชการว่าทำไมจึงต้องมอบหมายให้บุคคลภายนอกมาดำเนินการ ที่สำคัญโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณมากว่า 100 ล้านบาท แต่สำนักงานรัฐมนตรีไม่สามารถหางบประมาณดังกล่าวได้
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ล่าสุดจึงเกิดปัญหาการโยกงบประมาณของหน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น จากโครงการศึกษาถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างเครื่องจักรด้วยวิศวกรรมย้อนรอย สำนักงานปลัดกระทรวง จำนวน 30 ล้านบาท และ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนแห่งชาติอีกประมาณ 50 ล้านบาท ทั้งนี้มีข้าราชการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกดดันให้ปลัดกระทรวงฯ ลงนามเพื่อโยกงบดังกล่าว ไม่เช่นนั้นเช่นนั้นจะกระทบต่อตำแหน่งได้
“ไม่เพียงเท่านี้ สำนักงานรัฐมนตรียังได้ล้วงลูกการทำงานของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กรณีเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ระหว่างวันที่ 13-21 ธ.ค.51 และ แต่มีปัญหาอยู่ว่าคนที่ไปนั้น เป็นข้าราชการ 10 กว่าคน สื่อมวลชน 6 แห่ง ที่สำคัญทีมรัฐมนตรีกว่า 10 คน และทีมงานรัฐมนตรีบอกมาว่าต้องการเดินทางไปประเทศเยอรมันเพื่อศึกษาเรื่องไบโอดีเซลต่อ งานนี้ ปส.เป็นกังวลมากเพราะเป็นเจ้าภาพแต่ไม่มีงบประมาณ ไม่ทราบมาก่อนว่าจะต้องมีกำหนดการเดินทางเพิ่ม จึงเกิดปัญหามากมาย และยังไม่ทราบว่าจะหางบประมาณที่ไหนมารองรับ” แหล่งข่าวกล่าว