xs
xsm
sm
md
lg

สนช. แจ้งเกิด “อุทยานนวัตกรรม” ครม. อนุมัติจัดสร้างแห่งแรกในเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจำลองอุทยานนวัตกรรมที่จะจัดสร้างในพื้นที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมของไทย (ภาพจาก สนช.)
สนช. - ครม. อนุมัติงบ 316 ล้านบาท เตรียมสร้าง "อุทยานนวัตกรรม" ของไทย แห่งแรกในเอเชีย ผอ.สนช. เผยสร้างในพื้นที่ของกระทรวงวิทย์ฯ จุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงได้ทุกสถาบันหลักทั้งมหาวิทยาลัยและองค์กรด้านการเงิน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 53 พร้อมตั้งเป้าดันให้เป็น “หนึ่งอุทยาน หลายสำนักงาน" เอกชนในอุทยานสามารถผุดหน้าร้านขึ้นได้ทันทีที่ฮ่องกง-สิงคโปร์

ดร. ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติได้นำเสนอการจัดตั้ง อุทยานนวัตกรรม (Innovation Park) ภายใต้กรอบวงเงิน 316 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาระบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยจะเป็นศูนย์บริการให้ความช่วยเหลือแก่ภาคเอกชนด้านการดำเนินธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ ส่งเสริมความร่วมมือและร่วมดำเนินการระหว่างภาคีนวัตกรรม ทั้งในภาคการผลิต ภาคการเงินการลงทุน และภาคการศึกษาและวิจัย

ดร. ศุภชัย กล่าวต่อไปว่า อุทยานนวัตกรรมที่ สนช. กำลังดำเนินการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จภายในปี 2553 นี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนไทย ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินงานของ สนช. และภาคีนวัตกรรมอื่นๆ ได้เริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบนวัตกรรมให้เห็นเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้นบ้างแล้ว แต่การดำเนินงานยังขาดสถานที่ตั้งของกิจกรรมนวัตกรรม ซึ่งอุทยานนวัตกรรมที่จัดตั้งนี้ มีพื้นที่สำหรับให้เอกชนใช้สอยได้รวม 10,000 ตารางเมตร และมีข้อได้เปรียบในการดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการที่เตรียมไว้

เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่ภายในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการเชื่อมต่อของแกนนวัตกรรม ทั้งในด้านความรู้และความคิดสร้างสรรค์ ใน 3 มหาวิทยาลัยหลัก ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งด้านธุรกิจและการเงิน เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และบริษัทร่วมทุน สตางค์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง สนช. ม.มหิดล และ เอสเอ็มอี แบงค์ ทั้งนี้ อุทยานนวัตกรรมจะเป็นพื้นที่บริการเพื่อการสร้างนวัตกรรมมูลค่า โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ สนช. เพื่อรองรับกิจกรรมการติดต่อและความร่วมมือระหว่างภาคีนวัตกรรมที่เกิดขึ้น”

“แนวคิดสำคัญในการจัดตั้งอุทยานนวัตกรรมนี้ นอกจากการเชื่อมโยงเคือข่ายให้มีการทำงานร่วมกันแล้ว ยังมีแนวคิดในการสร้างให้เกิด “หนึ่งอุทยาน หลายสำนักงาน (one park, multiple location)” ซึ่งหมายถึงผู้ประกอบการไทยที่ใช้บริการอุทยานนวัตกรรม จะมีบริษัทสาขาย่อยที่คล้ายๆ กับ “หน้าร้าน” เกิดขึ้นทันทีที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการนำผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยบริการภายในอุทยานนวัตกรรม จะให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างภาคเอกชน สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยและสถาบันการเงินการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมฐานความรู้ และจะส่งผลประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับชาติ โดยผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายนวัตกรรมทั้งภายในประเทศและจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการทำงานในลักษณะที่เน้นการร่วมรังสรรค์และร่วมดำเนินการ ระหว่างผู้ให้บริการคือ สนช. กับผู้รับบริการคือผู้ประกอบการไทย รวมทั้งการสร้างให้เกิดธุรกิจนวัตกรรมจากภูมิปัญญาที่มีอยู่มากมายในประเทศ” ดร. ศุภชัยฯ กล่าวทิ้งท้าย

ขณะนี้ สนช. ได้มุ่งเป้าไปที่การพัฒนานวัตกรรมยุทธศาสตร์ที่เป็นอุตสาหกรรมเพื่ออนาคตหรืออุตสาหกรรมคลื่นลูกใหม่ (new wave industries) ของประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ในวงเงินงบประมาณ 1,800 ล้านบาท และธุรกิจเกษตรอินทรีย์ วงเงินงบประมาณ 4,300 ล้านบาท ซึ่งโครงการนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ทั้งสองโครงการ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ในขณะเดียวกัน สนช. ยังได้เน้นการพัฒนานวัตกรรมรายอุตสาหกรรมในสามสาขา ได้แก่ ธุรกิจชีวภาพ (bio-business) อุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ (eco-industry) และการออกแบบและแก้ไขปัญหา (design and solutions) ที่ผ่านมา สนช. ได้ริเริ่ม พัฒนาและสนับสนุนโครงการนวัตกรรมไปแล้วกว่า 300 โครงการ เป็นวงเงินสนับสนุนกว่า 300 ล้านบาท มีมูลค่าการลงทุนจากภาคเอกชนกว่า 7,000 ล้านบาท
ภาพจำลองอุทยานนวัตกรรม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 (ภาพจาก สนช.)
กำลังโหลดความคิดเห็น