สวทช. - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อ “บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร” ให้แก่ค่ายวิทยาศาสตร์ถาวร สวทช. พร้อมเปิดโอกาสเด็กและเยาวชนสนใจวิทย์ฯ ร่วมกิจกรรมต้นปี 2552 นี้
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2551 ณ อุทยานวิทยาศ่าสตร์ประเทศไทย รังสิตปทุมธานี รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ทาง สวทช.ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้ทรงพระราชทานชื่อ “บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร” (Sirindhorn Scinece Home) ให้กับค่ายวิทยาศาสตร์ถาวร หรือ Permanent Science Camp ซึ่ง สวทช./กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้รับอนุมติจากคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2547 ให้จัดสร้างขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ฝึกทักษะ และพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้แก่เด็กและเยาวชนทั้งที่มีความสนใจและมีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินไปอย่างครบวงจร ตั้งแต่การกระตุ้นความสนใจ การสร้างเครือข่ายกับครูและอาจารย์ทั่วประเทศ ที่ต้องการพัฒนาความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชน รวมถึงการค้นหาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การส่งเสริมเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนถึงการพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเชิงลึก โดยมีนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำและปรึกษาเด็กและเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร มีเป้าหมายรองรับเด็กและเยาวชน 3 ประเภท อันได้แก่ ประเภทแรกคือ เด็กและเยาวชนทั่วไปที่สนใจค้นคว้าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลนี โดยเข้าร่วมใน นิทรรศการ หรือกิจกรรมที่โครงการค่ายวิทยาศาสตร์ถาวรจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี จำนวน ประมาณ 1,000 คนต่อปี ประเภทที่ 2 คือ เด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการทดลองปฏิบัติงานฝึกทักษะ เป็นระยะ จำนวน 2,600 คนต่อปี และประเภทที่ 3 คือ เด็กและเยาวชนที่มีอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเข้าปฎิบัติงานวิจัยในห้องปฏิบัติการกับนักวิจัยี่เลี้ยงตลอดปี จำนวน 100 คนต่อปี นอกจากนี้ โครงการค่ายวิทยาศาสตร์ถาวร ยังจะทำหน้าที่เป็นศูนย์เครือข่ายครูและอาจารย์ที่มีความสนใจในการพัฒนาความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชน เพื่อฝึกฝน เพิ่มพูน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างกลุ่มครูและอาจารย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปขยายผลในวงกว้าง ทั้งนี้ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จะมีกำหนดเปิดดำเนินการให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมได้ประมาณต้นเดือนมกราคม 2552 รศ. ดร.ศักรินทร์ กล่าว.
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2551 ณ อุทยานวิทยาศ่าสตร์ประเทศไทย รังสิตปทุมธานี รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ทาง สวทช.ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้ทรงพระราชทานชื่อ “บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร” (Sirindhorn Scinece Home) ให้กับค่ายวิทยาศาสตร์ถาวร หรือ Permanent Science Camp ซึ่ง สวทช./กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้รับอนุมติจากคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2547 ให้จัดสร้างขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ฝึกทักษะ และพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้แก่เด็กและเยาวชนทั้งที่มีความสนใจและมีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดำเนินไปอย่างครบวงจร ตั้งแต่การกระตุ้นความสนใจ การสร้างเครือข่ายกับครูและอาจารย์ทั่วประเทศ ที่ต้องการพัฒนาความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชน รวมถึงการค้นหาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การส่งเสริมเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จนถึงการพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเชิงลึก โดยมีนักวิทยาศาสตร์พี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำและปรึกษาเด็กและเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร มีเป้าหมายรองรับเด็กและเยาวชน 3 ประเภท อันได้แก่ ประเภทแรกคือ เด็กและเยาวชนทั่วไปที่สนใจค้นคว้าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลนี โดยเข้าร่วมใน นิทรรศการ หรือกิจกรรมที่โครงการค่ายวิทยาศาสตร์ถาวรจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี จำนวน ประมาณ 1,000 คนต่อปี ประเภทที่ 2 คือ เด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการทดลองปฏิบัติงานฝึกทักษะ เป็นระยะ จำนวน 2,600 คนต่อปี และประเภทที่ 3 คือ เด็กและเยาวชนที่มีอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเข้าปฎิบัติงานวิจัยในห้องปฏิบัติการกับนักวิจัยี่เลี้ยงตลอดปี จำนวน 100 คนต่อปี นอกจากนี้ โครงการค่ายวิทยาศาสตร์ถาวร ยังจะทำหน้าที่เป็นศูนย์เครือข่ายครูและอาจารย์ที่มีความสนใจในการพัฒนาความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเด็กและเยาวชน เพื่อฝึกฝน เพิ่มพูน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างกลุ่มครูและอาจารย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปขยายผลในวงกว้าง ทั้งนี้ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จะมีกำหนดเปิดดำเนินการให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมได้ประมาณต้นเดือนมกราคม 2552 รศ. ดร.ศักรินทร์ กล่าว.