∞ สวัสดีวันเสาร์กลับมา "เม้าท์กระจาย" กับ "ไซน์กระซิบ" เป็นประจำทุกสัปดาห์ สัปดาห์นี้ก็เริ่มเปิดประตูให้สู่ชม "มหกรรมวิทย์ 51" อย่างไม่เป็นทางการกันแล้ว เรียกว่าเปิดงานตีคู่กับงานระดับโลกอย่าง "ปักกิ่งเกมส์" กันเลยทีเดียว ∞
∞ เลื่อนจนนาทีสุดท้ายกันทีเดียวสำหรับ "ธีออส" ดาวเทียมดวงแรกของรัฐบาลไทย หลังจากเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งมีสัญญาณว่า "ขึ้นแน่" 6 ส.ค.นี้ โดยนัดแนะผู้สื่อข่าวไปร่วมเป็นสักขีพยานกันไกลถึงสถานีรับสัญญาณศรีราชาโน่น แต่พอถึงวันจริงก็ต้องเปิดบ้านที่บางเขนแถลงข่าวกันด่วนว่าเลื่อน ทั้งๆ ที่ดาวเทียมจ่ออยู่ปลายจรวดซึ่งเติมเชื้อเพลิงเตรียมทะยานขึ้นสู่วงโคจรแล้วเชียว ∞
∞ เหตุผลที่ยังส่ง "ธีออส" ขึ้นสู่วงโคจรไม่ได้นั้น "ดร.ธงชัย จารุพพัฒน์" ก็นำแถลงเพราะ "ปัญหาเดิมๆ" ในเรื่อง "ดรอปโซน" ที่คาซัคสถานซึ่งยอมให้ชื้นส่วนของจรวดท่อนแรกตกในอาณาเขตได้เกิดเปลี่ยนใจกะทันทัน ในแบบที่ผู้บริหาร สทอภ.ก็รู้เรื่องเมื่อค่ำก่อนวันยิงดาวเทียมแค่ 1 วัน ก็นึกว่าจะแก้ปัญหาไปได้หลังเจรจาให้ชิ้นส่วนตกที่ "อุซเบกิสถาน" อยู่นานแต่ก็มีท่าทีไม่ยอมท่าเดียว ตอนนี้ถ้ายังส่งดาวเทียมไม่ได้ก็คงได้แต่หาทางเรียกร้องค่าปรับวันละ 600,000 ให้ได้ตามสัญญา ก็ไม่รู้จะเสียค่าโง่กันอีกหรือเปล่า ∞
∞ ระหว่างที่รัฐมนตรีพลังงานอาเซียนมาร่วมประชุมกันที่ประเทศไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤติภาวะโลกร้อนในช่วงนี้ เหล่าอาสาสมัครกรีนพีซเขาก็ไม่ยอมว่างเว้นจากการทำกิจกรรมรณรงค์เช่นกัน ไม่ว่าจะเดินขบวน ล่ารายชื่อผู้ที่ไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, แถลงข่าว, ส่งข้อความและยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีเรียกร้องหยุดถ่านหิน-ไม่เอานิวเคลียร์ ∞
∞ แต่สงสัยกรีนพีซคงลืมเสียสนิทว่ากำลังพูดเรื่องพลังงานและภาวะโลกร้อนอยู่ในวันแถลงข่าว "อาเซียน ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน" ที่โรงแรมอโนมา พอดี "หนูไซน์" ได้ยินนักวิชาการจากมูลนิธินโยบายสุขภาวะ "ศุภกิจ นันทะวรการ" ที่มาร่วมแถลงด้วยคุยกับสื่อมวลชนตอนงานเลิกแล้วว่า "ที่จริงวันนี้เราไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์เย็นขนาดนี้ก็ได้" อันที่จริง "คุณศุภกิจ" ก็น่าจะบอกกรีนพีซหรือเจ้าหน้าที่ของโรงแรมตั้งแต่งานเริ่มนะเจ้าคะ ∞
∞ พูดถึงเรื่องรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมแล้วก็อดนึกถึง WWF บ้างไม่ได้ เพราะในวันสัมมนาเรื่องการเสนอพื้นที่ชุ่มน้ำของไทยอีก 20 แห่งใหม่ให้เป็น "แรมซาร์ไซต์" ซึ่งจะเป็นการการันตีความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำในระดับโลกและนำไปสู่การบริหารจัดการที่ได้ประโยชน์ทั้งคนและสิ่งแวดล้อมนั้น ผู้บริหาร WWF ประเทศไทยก็ชี้แจงแนวทางการทำงานขององค์กรว่าเน้นร่วมมือพัฒนาสิ่งแวดล้อมกับภาครัฐมากกว่าจะอยู่คนละด้าน และไม่ประท้วงเหมือนบางองค์กรอนุรักษ์เขียวบางแห่ง ได้ยินอย่างนี้คงมีหลายคนสะดุ้ง ∞
∞ ยินดีด้วยกับ "มิตรผล" และ "ไบโอเทค" ที่ร่วมวิจัยพัฒนาจนได้ "ชุดตรวจโรคใบขาวในอ้อย" ออกมาช่วยเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้เพิ่มผลผลิตและลดการสูญเสียลงได้ในภาวะที่พืชชนิดนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างสูงทั้งในภาคอาหารและพลังงาน แถมชุดตรวจของไทยรายนี้มีสิทธิ์ "โกอินเตอร์" ด้วยนะเจ้าคะ เพราะนักวิจัยเขายืนยันว่าเป็นชุดตรวจโรคในอ้อยชุดแรกของโลกเชียวนะเจ้าค่า ∞
∞ แต่ระหว่างแถลงข่าวความสำเร็จ พิธีกรของงานทำเอาผู้บริหารและนักข่าวอึ้งเล็กน้อยที่ไปแนะนำ "ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ" ว่าเป็น "ผอ.ไบโอเทค" ทั้งที่เปลี่ยน ผอ.คนใหม่มาหลายเดือนแล้ว ดร.มรกต ก็เลยต้องรีบออกตัวแก้ไขตำแหน่งให้ถูกต้อง พร้อมแซวว่า "ผอ.ตัวจริง" เพิ่งเดินออกจากห้องไปเมื่อกี้นี้เอง ก็ยังดีที่พิธีกรไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของไบโอเทค ไม่งั้นอาจถูก "อดีต ผอ." จับไปตีก้นได้นะเจ้าคะ ∞
∞ ได้ผู้อำนวยการคนใหม่กันแล้วสำหรับ "นาโนเทค" ที่วาระสองนี้ได้ "นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล" ผู้เชี่ยวชาญไบโอเทคมาเป็นผู้นำองค์กร ส่วนอนาคต "ศูนย์เทคโนโลยีจิ๋ว" นี้จะเน้นไปทางด้านชีวภาพหรือการแพทย์เป็นหลักหรือไม่? ผู้บริหารคนใหม่ก็ตอบชัดเจนว่าคงเน้นมากขึ้นแต่ก็ยังอยู่สัดส่วนที่เท่าๆ กับการพัฒนาทางด้านอื่น ทั้งอิเล็กทรอนิกส์และวัสดุศาสตร์ และยังบอกอีกว่าการรับหน้าที่ใหม่นี้ไม่ได้เปลี่ยนสาขาความถนัดไปมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็ทำงานวิจัยที่เข้าข่าย "นาโนเทคโนโลยี" อยู่แล้ว ∞
∞ ใครที่รู้ตัวว่าชอบจ่ายตลาดและหิ้วถุงก๊อบแก๊บมากมาย พอกลับถึงบ้านก็เอาอาหารที่ซื้อมาเก็บใส่ไว้ในตู้เย็นทั้งถุงก๊อบแก๊บ "ดร.จิรพล สินธุนาวา" เตือนมาว่าเพราะเหตุนี้นี่แหละทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ และทำให้โลกร้อนโดยไม่รู้ตัว ก็เพราะถุงก๊อบแก๊บมากมายในตู้เย็นเป็นตัวขวางกั้นความเย็นที่ส่งไปถึงอาหารอย่างไรละเจ้าคะ ∞
∞ ต่อมาก็มักกลายเป็นถังหมักผลิตก๊าซมีเทนด้วยการที่พวกเราชอบเอาถุงก๊อบแก๊บมาใส่ขยะและเศษอาหาร พร้อมมัดปากถุงแน่นหนาจนอากาศผ่านเข้าไปไม่ได้ ก่อนโยนลงยังขยะของเทศบาล สุดท้ายบั้นปลายชีวิตของถุงก๊อบแก๊บก็ตกอยู่ในสภาพขยะอายุยืนหลายร้อยปีอยู่บนโลกนี้อีกด้วยเจ้าค่า...เอ้า! คุณพ่อบ้าน คุณแม่บ้าน ทราบแล้วเปลี่ยน เปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ ลดใช้ถุงพลาสติก และหยิบอาหารออกจากถุงก๊อบแก๊บทุกครั้งเมื่อต้องการนำเข้าตู้เย็นนะเจ้าคะ ∞
∞ มีเสียงส่งสารมาจาก "ศูนย์รวมตะวัน" ที่เมืองกาญจน์ ว่าพฤติกรรม "กิน-ใช้" ของคนเมืองนั้นส่งผลต่อระบบนิเวศน์และป่าใหญ่ในชนบท ตลอดจนข้อพิพาทระหว่าง "ช้าง" กับ "คน" ที่แย่งชิงพื้นที่ทำกินระหว่างกัน เหตุผลนั้น "ดร.ศันสนีย์ กีรติวิริยาภรณ์" ระบุว่าเพราะพฤติกรรมการบริโภคทรัพยากรของคนในเมืองทำให้ชาวบ้านต้องเข้าไปฉกชิงทรัพยากรจากป่า บางครั้งก็ถาง บางครั้งก็เผา เป็นเหตุให้พี่ช้างไม่สามารถหากินได้ ประจวบเหมาะกับพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้านมีของกินอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่ากล้วย อ้อย ไม้ผลต่างๆ ช้างที่ไหนจะกลับไปอดอยากอยู่ในป่า ∞
∞ แนวทางหนึ่งที่ "ดร.ศันสนีย์" แนะนำคนเมืองคือหยุดบริโภค "ผักหวาน" และ "หน่อไม้" เพราะสำหรับผักหวานนั้นเกิดได้ปีละครั้งจากการเผาป่า ชาวบ้านที่ต้องเผาป่าเพื่อเอาผักหวานมาขายคนเมือง ส่วนหน่อไม้ก็เป็นการทำลายโอกาสของต้นไผ่เกิดใหม่ที่จะเติบโตต่อไป แม้จะดูห่างไกลและเชื่อมโยงได้ยาก แต่ถ้านึกให้ดีเราก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เลย ∞
∞ "เซิร์น" กำหนดเดินเครื่องเร่งอนุภาคเพื่อไขปริศนาจักรวาลแล้ว เป็นวันที่ 10 ก.ย. นี้ เตรียมลุ้นการทดลองอันเป็นที่สุดของมนุษยชาติ ซึ่งเป็นการเดินเครื่องเร่งอนุภาคที่ทรงพลังยิ่งกว่าเครื่องเร่งอนุภาคที่มนุษย์เคยมีมาถึง 7 เท่า มีแม่เหล็กซูเปอร์คอนดัคเตอร์ขนาดยักษ์ถึง 1,600 ตัว และการทดลองจะทำภายใต้สภาวะอันเย็นยะเยือกยิ่งกว่าอวกาศห้วงลึกด้วยอุณภูมิที่เหนือกว่า "ศูนย์องศาสัมบูรณ์" เพียง 1.9 เคลวินหรือ -271 องศาเซลเซียส ∞
∞ เม้าท์มาพอประมาณถึงเวลา "หนูไซน์" ขอตัวไปดู "โอลิมปิก" เอ้ย...ไปเดินชมงาน "มหกรรมวิทย์ 51" ที่ ไบเทค บางนา แล้วเจ้าค่ะ แต่สำหรับใครที่มีเรื่องอยากเม้าท์ก็เช่นเคยส่งข้อความมาที่ Scigossip@gmail.com เจ้าค่า ∞