กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ - เครือข่ายชุมชนมากกว่า 700 คนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ร่วมกับกรีนพีซ และลูกเรือเรนโบว์วอร์ริเออร์ทำการแปรอักษรขนาดใหญ่ข้อความว่า “หยุดถ่านหิน!” ณ พื้นที่ชายหาดทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้เสนอให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 4,000 เมกะวัตต์ในพื้นที่ และถึงขณะนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จอันเนื่องมาจากการคัดค้านอย่างแข็งขันโดยชุมชน
นายธารา บัวคำศรี ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การจากไปของเจริญ วัดอักษร ผู้กล้าแห่งประจวบคีรีขันธ์และผู้นำชุมชนต่อต้านถ่านหินที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย โดยน้ำมือของกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นในปี 2547 ได้เพิ่มแรงขับเคลื่อนในการคัดค้านถ่านหินโดยชุมชนซึ่งรับรู้อย่างถ่องแท้ว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากมลพิษและภาวะโลกร้อนที่เกิดจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทางออกที่แท้จริงของความมั่นคงด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการใช้ระบบพลังงานหมุนเวียนที่กระจายศูนย์ ปลอดภัย ราคาถูกและมีความยั่งยืนและการใช้มาตรฐานประสิทธิภาพทางพลังงานที่ก้าวหน้า
ก่อนการแปรอักษร กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี และกลุ่มรักษ์บ้านเกิดอ่าวน้อยได้ร่วมกันต้อนรับการเดินทางมาถึงของเรือเรนโบว์วอร์ริเออร์ซึ่งทำการรณรงค์หยุดถ่านหินก้าวสู่การปฏิวัติพลังงานในประเทศไทยตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมนี้ เครือข่ายชุมชนทั้ง 5 ได้สนับสนุนข้อเรียกร้องของกรีนพีซที่มีถึงกระทรวงพลังงานในการยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน นิวเคลียร์และเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่น ๆ และผลักดันให้เกิดการลงทุนในการพัฒนาศักยภาพพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย ข้อเรียกร้องดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากชาวสงขลาและภาคใต้ตอนล่างราว 1,500 คน และทุกคนสามารถเข้าไปลงชื่อได้ใน www.greenpeace.or.th/quitcoal
นางสาวสุรีรัตน์ แต้ชูตระกูล แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กล่าวว่า ผู้มีอำนาจตัดสินใจควรยุติการผลักดันพลังงานสกปรกและอันตรายต่อคนไทย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับปัจจุบันหรือ PDP2007 ไม่เพียงแต่มีข้อบกพร่องในการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า แต่ยังถูกออกแบบให้เกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างขนานใหญ่ และคำถามคือทำไมประเทศไทยจะต้องผลาญเงินภาษีของประชาชนและสร้างความเสี่ยงให้เกิดขึ้นกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยการประกาศแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
“การเผาไหม้ถ่านหินคือตัวการใหญ่ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน คาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นก่อให้เกิดโลกร้อน ขณะเดียวกันการปล่อยสารปรอท ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และมลพิษต่าง ๆ จากโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของชุมชนท้องถิ่น” เธอกล่าว
ขณะที่ไมค์ ฟินเกน กัปตันเรือเรนโบว์วอร์ริเออร์กล่าวว่าน้ำทะเลกำลังเพิ่มขึ้น เหตุการณ์สภาพภูมิอากาศรุนแรงกำลังกลายเป็นมหันตภัยคุกคามโลก และในอีกสองทศวรรษต่อไป มีการคาดการณ์ถึงการขาดแคลนน้ำและความอดอยากหิวโหยอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน เรายังมีทางออก ยังมีเวลาเพื่อการปฏิวัติพลังงานซึ่งขับเคลื่อนโดยพลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพทางพลังงานที่จะเปลี่ยนผ่านระบบพลังงานของเรา ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในระดับที่ไม่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มมากไปกว่า 2 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอันตราย สิ่งที่จำเป็นก็คือเจตจำนงทางการเมืองและการลงมือทำของประชาชน
ข้อเรียกร้องของกรีนพีซต่อรัฐบาลไทยประกอบด้วย
• นำเงินทุนที่ใช้ในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์มาใช้ลงทุนพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและประสิทธิภาพพลังงาน
• ยกร่างกฎหมายที่สนับสนุนนักลงทุนพลังงานหมุนเวียนซึ่งรับประกันผลตอบแทนที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
• รับประกันในการให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกของการเข้าถึงระบบสายส่งของผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
• ดำเนินการให้มีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพพลังงานและการจัดการด้านความต้องการใช้พลังงานที่เข้มงวด
ทั้งนี้ กรีนพีซเป็นองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่เป็นอิสระ ซึ่งลงมือทำเพื่อการเปลี่ยนแปลง ทัศนคติและพฤติกรรม เพื่อปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเพื่อสนับสนุนสันติภาพ