∞ สวัสดีท่านผู้อ่าน "ไซน์กระซิบ" กลับมาขึ้นแท่นประจำการอีกครั้ง ทุกวันเสาร์เช่นเคยเจ้าค่ะ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหว ทั้งวงการวิทย์บ้านเรา และบ้านเขา แถมหลายๆ ข่าวคราวที่นำเสนอไป ก็มีถกเถียงกันชนิดร้อนระอุ ∞
∞ เริ่มจากเรื่องราวของ "ทฏษฎีวิวัฒนาการ" ที่ครบรอบ 150 ปีไปเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ "ชาร์ลส์ ดาร์วิน" นำเสนอเป็นครั้งแรก และนับเป็นการปฏิวัติแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตไปเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นการวางรากฐานการศึกษาชีววิทยา ที่ทุกคนได้เรียนกันถ้วนหน้า ทว่าก็ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายที่เชื่อใน "พระเจ้าสร้าง" และฝ่ายที่เห็นด้วยกับ "วิวัฒนาการ" เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน...แต่ความจริงเป็นอย่างไรนั้น หนูไซน์เองก็ไม่อาจตอบได้เสียด้วยสิเจ้าคะ แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้แต่ละคนที่คิดต่างกัน แย้งกันด้วยเหตุและผล โดยไม่เอาอารมณ์ส่วนตัวเข้าร่วมนะเจ้าคะ ∞
∞ ส่วนอีกเหตุที่ผ่านไปแล้วถึง 100 ปี...ปริศนาแห่ง “ทังกัสกา” ที่ป่าไซบีเรีย กว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร ถูกลูกไฟลึกลับเผาเรียบก็ยังไม่คลี่คลาย และแม้นักวิทยาศาสตร์ทั่วรัสเซียจะรวมตัวกันเพื่อประชุมเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปออกมานอกจากทฤษฎีต่างๆ ที่น่าจะเป็นกว่า 20 ทฤษฎี ซึ่งงานนี้พี่ไทยก็ขอร่วมวงตั้งข้อสันนิษฐานกับเข้าด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นผลงานของนิโคลา เทสลา (ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวกันได้อย่างไร) บ้างก็ว่า บ้างก็ว่าเกิดจาก “ยูเอฟโอ” หรือความคิดขำๆ ว่าเป็นการเดินทางเพื่อตามหา “เดอะคิวบ์ส” ของ “ทรานฟอร์มเมอร์“ แหม...ช่างคิดกันจริงๆ ∞
∞ หนูไซน์แอบกระซิบไปไม่ทันใด เรื่องพี่บิ๊กประจำ วท. แหวะว๊ากเอากับคนในสังกัด ข้อหาไม่ยอมพี่บิ๊ก "ก" ออร์แกไนเซอร์ดัง ผ่านสเปกร่วมจัดงานสัปดาห์วิทย์ '51 หนูไซน์ก็แอบหูดี (เสียจริงๆ พับผ่าซิ) ได้ยินว่า เมื่อครั้นวันวานที่ ฯพณฯ ได้ตำแหน่งใหญ่ใน วท. ออร์แกไนเซอร์รายนี้ ก็หอบหิ้วกระเช้าใบโต (ไม่รู้มีถุงขนมด้วยไหม) พร้อมขนเหล่าดาราในสังกัดไปแสดงความยินดีกับท่านถึงห้อง มิน่าเล่ายกหูหน่อยเดียว ฯพณฯ ท่านถึงกับลงทุนสวมหน้ายักษ์ เข้าใส่คนเกี่ยวข้องกับงานสัปดาห์วิทย์ ชนิดจ่ายพันห้าเล่นห้าพันซะขนาดนี้ ก็เพราะมีขนมอยู่เต็มปากหรือเปล่าเจ้าคะ ∞
∞ แหม โดนเหน็บโดนแซวมาตั้งนาน กับเรื่อง "การมาสาย" จนเป็นเจ้าชายสายสยองประจำกระทรวงวิทย์ไปแว้ว หนูไซน์แอบปลงๆ นึกว่าท่านไม่รู้ร้อนรู้หนาวซะอีก เพราะแซวมาตลอดก็ไม่เห็นมีอะไรจะดีขึ้น ล่าสุด ฯพณฯ ท่านก็ถึงกับควันออกหู เรียกผู้น้อยไปบอกกล่าวความไม่พออกพอใจข้อหาที่สื่อมักมองแบบหาเรื่องหาความ "จับผิดกันอยู่ได้ ฉุนวุ้ย" จน "บรรดา" ผู้ใต้บังคับบัญชาวงในs (พหูพจน์เติมเอสสสสส...) ต้องเร่าๆ มาวานบอกสื่อให้ช่วยเพลาๆ เรื่องต่อว่าท่านบ้างเถอะ (แม้ว่าจะจริงก็เหอะนะ) แถมแก้ต่าง "ท่านภารกิจมาก" อย่างศุกร์ก่อนโน้น ฯพณฯ ท่านไปเป็นประธานเยี่ยมชมโรงงานเครื่องหอมที่อยุธยาสายเป็นชั่วโมงๆ ก็เพราะต้องหันหัวรถไปให้ฝ่ายค้านซักฟอกในสภา ถ้า ฯพณฯ ไม่อยู่ เดี๋ยวเพื่อนๆ ร่วมรัฐบาลจะหาว่าไม่ครบก๊วน "ขี้เหร่" ท่านก็เลยต้องจำใจสายแบบ "ช บ ด - ช่วยบ่ได้" นะนาย ∞
∞ กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หนูไซน์ได้มีโอกาสแวะเวียนไปย่านคนเก่ง “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” สนทนากับ "ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม" แพทย์ดีเด่นจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ถึงห้องทำงาน ก่อนกลับ...คุณหมอฝากข้อความเด็ดดวงทิ้งท้าย กระตุ้นเตือนพี่น้องร่วมวงการแบบน่าประทับใจ หนูไซน์จึงหยิบมาฝากพื้นที่น้อยๆ นี้ด้วย ...
...ท่านว่า ประเทศไทยเวลานี้ ไม่ใช่ยุคของการแข่งขันระหว่างสถาบันแล้ว จะต้องทลายกำแพงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จุฬาฯ ศิริราช มหิดล เชียงใหม่ หรือขอนแก่น แต่เป็นยุคที่คณะแพทย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้งหลาย ต้องมาคิดด้วยกัน เพื่อนำความเข้มแข็งของแต่ละสถาบันมาคิดร่วมกัน ว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีผลงานวิจัยที่ดีจริงๆ ได้บ้าง เป็นผลงานระดับโลก ตอบโจทย์ประเทศไทย เอเชีย และโลกได้ เพราะจะมีความสำคัญมากกว่า ทำให้เกิดงานวิจัยที่ยั่งยืน มีผลกระทบต่อสังคมจริงๆ ไม่ใช่วิจัยเสร็จก็ได้ตีพิมพ์แล้วก็เป็นเพียงความสำเร็จในกระดาษเท่านั้น...
...แถมคุณหมอยังฝากความปรารถนา ไปยังพี่น้องข้ามสายที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะลำพังหมอจะทำงานแบบหมอ นักวิทย์จะทำงานแบบนักวิทย์ ไม่ข้องเกี่ยวกัน เห็นจะไม่ได้แล้ว แต่น่าจะมาแชร์ความรู้จากหลอดทดลองและในคลินิกร่วมกันด้วย ในท้ายที่สุดผลประโยชน์ก็หาใช่จะตกที่ผู้ใด แต่เป็นสุขภาพอนามัยของคนไทย และอาจถึงคนทั้งโลกที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ซึ่งการวิจัยที่ว่านี้ ในต่างประเทศเขาเรียกว่า ทรานสเลชันแนลรีเสิร์ช (Translational Research) ซึ่งกำลังได้รับการสนับสนุนมากในสหรัฐฯ ด้วยงบประมาณเหนาะๆ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนฝั่งยุโรปไม่น้อยหน้าอัดฉีดอีกปีละ 2 หมื่นล้านบาททีเดียว...
... สาธุ (-/\-) "หนูไซน์" อนุโมทนา ขอให้ความปรารถนาของคุณหมอเป็นจริง นี่แหละนักวิจัยที่รั้งตำแหน่งผู้ได้รับการอ้างอิงงานวิจัยสูงที่สุดของจุฬาฯ ที่แนะนำนักวิจัยด้านการแพทย์ทั้งหลายว่า อยากให้ได้ “อิมแพคแฟคเตอร์” สูงๆ ต้องมุ่งวิจัยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย หรือส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนต่างหากคือเป้าหมายสูงสุด ∞
∞ เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน นิสิตและอาจารย์วิศวะจากรั้วจามจุรีที่มีปณิธานร่วมกันว่าจะถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้กับชาวบ้านทั่วไป ได้รวมกลุ่มทำงานตามเป้าหมาย จนกระทั่งได้ก่อตั้ง “อาศรมพลังงาน” ที่เขาใหญ่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้พึ่งพาตัวเองด้านพลังงานให้กับชุมชน และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีนิทรรศการเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีที่จะช่วยชาวบ้านให้เข้าถึงแหล่งพลังงานที่มีอยู่รอบตัวทั้งชีวมวล พลังงาน แสงแดด ซึ่งคนเมืองคงได้แต่อิจฉาตาร้อนเพราะยังต้องพึ่งพาพลังงานนำเข้าจากชาติอาหรับ ∞
∞ เห็นมะกันจะหนุนให้ใช้ฮอร์โมนเลี้ยงวัวเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำนม และหวังจะลดโลกร้อนไปในตัว ก็ดูเข้าท่าดีอยู่หรอก แต่พอดูให้ชัดๆ อีกที ที่แท้ก็แฝงโปรโมตจีเอ็มโอไปในตัวอีกแล้...หนูไซน์เลยเซ็ง ก็ฮอร์โมนที่ว่านั่นเป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตที่ได้มาจากการตัดต่อพันธุกรรม ที่มะกันใช้มาแล้วกว่า 10 ปี แถมคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็น "มอนซานโต" เจ้าประจำนั่นแหละ...อย่างนี้รู้เลยว่าพี่ใหญ่มะกันกำลังคิดอะไรอยู่ คงหวังขยายตลาดจีเอ็มโอโดยเอาปัญหาโลกร้อนมาอ้างละซีท่า ∞
∞ ปตท.สผ.ทำดีไอเดียเก๋อีกแล้ว จับมือกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทำโครงการ "ปลูกต้นไม้ในใจคน" ทีแรกนึกว่าไม่มีพื้นที่ให้ปลูกในป่า เลยต้องมาปลูกในใจแทน แต่เป็นเพราะปลูกป่า ก็เลยต้องปลูกต้นไม้ในใจคนด้วย จะได้ช่วยกันดูและป่าอย่างไรล่ะเจ้าคะ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ ปตท.สผ. ต้องสนับสนุนโครงการปลูกป่า เพราะหวังว่าจะช่วยชดเชยความผิดที่มีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้นด้วยรึเปล่าน้า ∞
∞ ระหว่างพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกันของ ปตท.สผ. กับ กรมอุทยาแห่งชาติฯ ที่มีทั่นรัฐมนตรี "อนงค์วรรณ" ไปเป็นประธานในพิธี พร้อมปลูกต้นราชพฤกษ์เป็นปฐมฤกษ์ ช่างภาพ สื่อมวลชนต่างก็เบียดเสียดแย่งกันเก็บภาพช็อตสำคัญตอน "ทั่นอนงค์วรรณ" เกลี่ยดินกลบโคนต้นราชพฤกษ์ที่อยู่ในหลุมรออยู่ก่อนแล้ว ก็มีช่างภาพหนุ่ม (เหลือน้อย) ผู้หนึ่งส่งเสียงบอกให้ทั่นรัฐมนตรีหญิงหันซ้าย เอียงขวา เงยหน้าสู้กล้อง เป็นจังหวะตามเสียงชัตเตอร์กันเลยทีเดียว ... "เจ๊เป้า" ก็แอ๊บขัน บอกช่างภาพทำนองว่ายิ้มสู้กล้องมากไปเดี๋ยวคนเขาจะหาว่ารัฐมนตรีสร้างภาพ แต่แล้วก็เหมือนนึกขึ้นได้ รมต.หญิงก็เลยบอกอย่างขันๆ ว่าที่จริงตอนนี้ก็กำลังสร้างภาพอยู่จริงๆ ∞
∞ นวัตกรรมจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้หรือไม่? คำถามชวนคิดจากเวทีเสวนาว่าด้วยเรื่องปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ธรรมศาสตร์ ซึ่งได้ “โสภณ สุภาพงษ์” ผู้มีบทบาทกับแวดวงการเมืองไทยมาเป็นวิทยากรร่วมเสวนา โดยบทสรุปจากเวทีเสวนาที่ได้คือ "วัตถุไม่อาจแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้" ...ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นนั้น ย้อนกลับไปไกลถึง 500 ปี เมื่อวาติกันมีส่วนต่อแนวคิดว่า “ทรัพยากรทุกสิ่งในโลกคือของตน” วิกฤติความคิดที่ผิดพลาดนำมาสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งการจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ก็ต้องจัดการที่ “ความคิด” ของเราที่ไม่ขัดกับกฎธรรมชาติเสียก่อน ∞
∞ สัปดาห์นี้ "ไซน์กระซิบ" พอแค่นี้ก่อนดีกว่า ใครคิดถึงก็เมล์มาได้ scigossip@gmail.com เช่นเคยค่ะ แต่ก่อนจะมาเจอกันใหม่ในสัปดาห์หน้า "ไซน์กระซิบ" แย้มไว้นิดสำหรับแฟนๆ นิทานดาว ภาคใหม่ออกแล้วจ้า และเตรียมติดตามว่า ถ้าอยากได้มายล ต้องทำอย่างไร ทางเว็บไซต์ผู้จัดการวิทยาศาสตร์แห่งนี้ล่ะนะคะ ∞