"วุฒิพงศ์" เยี่ยม "ตึกลูกเต๋า" ติง อพ. ยังสร้างความตระหนักวิทย์ไม่เพียงพอ เพราะอันดับการแข่งขันของไทยยังต่ำ เทียบกับเกาหลี 14 ปีที่แล้วยังสูสี แต่ปัจจุบันกิมจิสู่อันดับ 1 ส่วนไทยที่ 100 แนะทุ่มทุนจัดเอ็กซ์โปเหมือนเกาหลี ย้ำสั่งเพิ่ม "ค่ายวิทยาศาสตร์" ให้อบรมคนให้ได้ครั้งละพัน ซึ่งข้อจำกัดด้านอาคารที่พักไม่เพียงพอให้ทำเรื่องเสนอกระทรวง
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี เข้ารับฟังการดำเนินงานขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ณ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ อ.คลองห้า จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 26 ก.พ.51 โดยมีผู้บริหารองค์การสรุปการดำเนินงาน
ดร.พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการ อพวช.แจกแจงการดำเนินงานขององค์การว่า องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีหน้าที่ให้ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่ประชาชนทุกระดับโดยไม่จำกัดอายุและการศึกษา ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้และค้นคว้าวิจัย ต่างจากศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่เน้นให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ตามหลักสูตรไม่เกินระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3
ทั้งนี้ อพวช.มีภารกิจหลักคือ 1.เผยแพร่ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.สร้างความตระหนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 3.วิจัยในสองด้านคือวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพซึ่ง อพวช.มีนักวิชาการทางธรรมชาติวิทยา และมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาที่เก็บรวบรวมข้อมูลความหลากหลาย และวิจัยทางด้านการสื่อสารวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญขององค์การ
ในการดำเนินงานตลอดทั้งปีนั้นมีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เฉลี่ย 6 แสนคน อีกทั้ง อพวช.ยังเป็นแม่งานจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในช่วงสัปดาห์วิทยาศาสตร์มาได้ 2 ปี ซึ่งปี 50 ที่ผ่านมานั้นมีผู้เข้าชมงาน 1.2 ล้านคนและภายหลังจัดงานยังได้จัดกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์เพื่อนำกิจกรรมที่ในจัดในงานมหกรรมบางส่วนไปเผยแพร่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีการจัด "ค่ายวิทยาศาสตร์" สำหรับครูและนักเรียนซึ่งจัดได้ครั้งละ 200 คน
ภายหลังรับฟังการดำเนินงานและบริหารจัดการทั้งหมดแล้ว นายวุฒิพงศ์กล่าวว่าภารกิจในการสร้างความตระหนักที่ อพวช.ทำอยู่นั้นถือว่าทำเท่าขีดความสามารถที่มี แต่ต้องเพิ่มศักยภาพมากกว่านี้เพราะยังไม่มีเพียงพอ แม้มีคนมาดูนิทรรศการนับล้านคน แต่ระดับความสามารถด้านวิทยาศาสตร์กับถอยหลังเรื่อยๆ
"เมื่อ 14 ปีที่แล้วอันดับความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ของไทยใกล้เคียงเกาหลี แต่ตอนนี้เกาหลีเลื่อนไปอยู่อันดับ 6 เดินหน้าสู่อันดับ 1 แต่ไทยอยู่อันดับที่ 48 ถอยหลังเข้าสู่อันดับ 100 ดังนั้นองค์การต้องไปคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น" นายวุฒิพงศ์กล่าว
พร้อมกันนี้ รมว.วิทยาศาสตร์ได้เสนอแนะให้ อพวช.จัดงานมหกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งเมื่อ 14 ปีที่แล้วเขาได้ชมงานเอ็กซ์โปทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยในงานดังกล่าวจัดได้ยิ่งใหญ่และทุ่มทุนนับหมื่นล้านเพื่อสร้างตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์ให้กับประชาชนและได้ผล ต่อมาอันดับการแข่งขันของเกาหลีใต้ก็เพิ่มขึ้น จึงอยากให้ไทยจัดงานลักษณะเดียวกันนั้นบ้าง
"ผมอึดอัดตั้งแต่ยังเป็นประชาชนจนมาเป็นผู้แทน ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ของเราลดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าอายมาก ประเทศจะก้าวหน้าต้องได้วิทยาศาสตร์แข็ง ก็เลยคิดตั้งแต่ไปดูเอ็กซ์โปที่เกาหลีเมื่อ 14 ปีที่แล้ว เกาหลีเขาเอาจริงมาก ลงทุนเป็นหมื่นล้าน ให้เด็กทั้งประเทศไปดู ปรากฏว่าพื้นเขาทำด้วยยางเหมือนลู่วิ่ง เด็กจะวิ่งเล่นจนล้มยังไงก็ไม่เจ็บ เขาออกแบบกันขนาดนั้น มองแล้วไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขาวางแผนเพื่อให้เด็กในประเทศเขาเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตอนนั้นเขากับเราอาจจะเก่งกว่ากันนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้เขาอันดับ 6 เราอันดับ 48 มันวิ่งกันคนละทางเลย เขาวิ่งเข้าหา 1 เราวิ่งเข้า 100 " นายวุฒิพงศ์กล่าว
รวมทั้งเขาได้เสนอแนะให้ อพวช.เพิ่มความสามารถการจัดอบรมในค่ายวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นให้ได้ครั้งละ 1,000 คนเพราะที่ผ่านยังถือว่าน้อยเกินไป โดยข้อจำกัดในเรื่องอาคารที่พักเพื่อรองรับผู้เข้าอบรมนั้นให้ทำเรื่องเสนอเสนอกระทรวงซึ่งเขาจะพิจารณาให้
อย่างไรก็ดีกำหนดการเดินทางของรัฐมนตรีและคณะในการตรวจเยี่ยมการทำงานของ อพวช.ได้ล่าช้าออกไป 2 ชั่วโมงซึ่งตามกำหนดเดิมคือ 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่รายงานว่าเพราะมีอุบัติเหตุระหว่างเส้นทางเป็นเหตุให้ประสบปัญหารถติดและช่วงเช้าได้พบปลัดกระทรวงและมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้การตรวจเยี่ยมสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันในเวลา 14.00 น. ยกเลิกไป.