สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬาชวนวัยเรียนประชันนวัตกรรมการกีฬา

สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ชวนน้องๆ วัยเรียนส่งผลงานนวัตกรรมการกีฬาเข้าประกวดครั้งที่ 1 แม่งานเผยหวังลดการนำเข้าอุปกรณ์การกีฬาราคาแพงนับสิบล้านจากต่างประเทศ ชี้จะดีมากหากสวนสุขภาพตาม อบต.ทั่วประเทศมีไว้ใช้ ให้ประชาชนทั่วประเทศได้เข้าถึง

สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา (สวฬ.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา แถลงข่าวการประกวดนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาครั้งที่ 1 ขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ.51 ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ

ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ผอ.สวฬ.กล่าวว่า แต่ละปีประเทศไทยต้องนำเข้าอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬานับสิบล้านบาท ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณมาก เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวมีราคาแพงหลักหมื่นบาทขึ้นไป ประชาชนจึงเข้าไม่ถึงอุปกรณ์ชนิดนี้อย่างทั่วถึง

อุปกรณ์ที่กล่าวถึงนับตั้งแต่อุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพร่างกายง่ายๆ เช่น เครื่องตรวจวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เครื่องวัดความจุของปอด เครื่องวัดปฏิกิริยาการตอบสนองทางการเคลื่อนไหวของนักกีฬา รวมถึงอุปกรณ์ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ อุปกรณ์ฝึกสมาธิ อุปกรณ์ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และอุปกรณ์ยกน้ำหนัก เป็นต้น

ดร.สุวัตร เผยว่า สวฬ.จึงจัดการประกวดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ได้รู้จักกับอุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามากขึ้น และเกิดความคิดที่จะนำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์มาพัฒนาอุปกรณ์เองด้วยวัสดุที่หาง่ายในประเทศและมีราคาถูกเพื่อทดแทนการนำเข้า โดยเป็นผลงานที่ไม่เคยเข้าประกวดหรือได้รับรางวัลมาก่อน

ที่สำคัญคือ นวัตกรรที่ทำขึ้นสามารถใช้งานได้จริง ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ มีความคงทน และขยายผลสู่การจดสิทธิบัตร ผลิตจำหน่าย และขยายโอกาสการเข้าถึงอุปกรณ์พื้นฐานเหล่านี้แก่นักกีฬา ตลอดจนประชาชนทั่วไปในท้องถิ่นได้ ซึ่งนวัตกรรมที่เยาวชนพัฒนานี้ยังอาจทดแทนบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีความขาดแคลนอย่างครูผู้ฝึกสอนได้ด้วย เช่น อุปกรณ์รับ -ส่งลูกบอลอัตโนมัติ

"หากเป็นไปได้ เราก็อยากจะให้ท้องถิ่นมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่างอุปกรณ์ทดสอบง่ายๆ ในสวนสุขภาพตาม อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) เป็นของตัวเองได้ทุกที่" ดร.สุวัตร กล่าวและว่าปัจจุบันท้องถิ่นต่างๆ ในประเทศไทยยังขาดแคลนอุปกรณ์ดังกล่าวมาก ตั้งแต่อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับพื้นฐาน และอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง เช่น เครื่องตรวจวัดที่นำระบบดิจิทัลมาช่วยเพิ่มความแม่นยำ

ทั้งนี้ ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี ในสถาบันการศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทีมละไม่เกิน 4 คน โดยสถาบันที่ร่วมโครงการต้องส่งตัวแทนมารับใบสมัครและการอบรมในวันที่ 19 มี.ค.51 ซึ่งแต่ละสถาบันส่งผลงานเข้าประกวดได้ไม่เกิน 2 ชิ้น จากนั้นต้องส่งชื่อผลงาน แนวคิด หลักการทำงาน วิธีการทำงาน วัสดุที่ใช้ และภาพสเก็ตซ์ของผลงานมาพร้อมกับใบสมัคร

"เราคาดหวังว่าจะมีทีมที่ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดครั้งแรกนี้ไม่น้อยกว่า 30 ทีม โดย 10 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬาจะได้จัดทำเป็นนิทรรศการนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อแสดงภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 -4 ม.ย.51 ที่ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ โดยจะทราบผลนวัตกรรมที่ชนะเลิศและมีการมอบรางวัลในวันแรกของงาน" ดร.สุวัตร กล่าว

สำหรับการประกวดนวัตกรรมวิทยาศาสตร์การกีฬานี้ เขาย้ำด้วยว่า ไม่จำกัดระดับเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาและออกแบบ โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจาก สวฬ.จะเป็นผู้พิจารณาการตัดสินตามความเหมาะสมต่อไป ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2618-7780-4 หรือที่เว็บไซต์ www.sportscience.go.th