xs
xsm
sm
md
lg

ร่องรอยแห่งความหลากหลาย พบฟอสซิลไพรเมตญาติลิงลมมาดากัสการ์ที่เหมืองแม่เมาะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักธรณีวิทยาไทยพบซากฟอสซิลไพรเมตจมูกเปียกวงศ์ศิวะอะเดปิดขนาดเล็กที่สุดในโลกที่เหมืองถ่านหินแม่เมาะ มีน้ำหนักเพียง 5 ขีด สร้างสถิติพบครั้งแรกในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โยงความสัมพันธ์เป็นบรรพบุรุษของลิงลมในเกาะมาดากัสการ์ ทวีปแอฟริกา

ดร.เยาวลักษณ์ ชัยมณี นักธรณีวิทยา 8 สำนักวิจัยซากดึกดำบรรพ์ และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 ก.พ.51 ว่า ทีมสำรวจของเธอค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์กลุ่มไพรเมตจมูกเปียก หรือสเตรปสิรีน วงศ์ศิวะอะเดปิดที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ณ เหมืองถ่านหินแม่เมาะ จ.ลำปาง

ดร.เยาวลักษณ์เผยว่า ซากดึกดำบรรพ์ที่พบประกอบด้วยกรามล่างจำนวน 4 กราม จุดสำคัญคือการค้นพบฟันกรามน้อยหนึ่งซี่ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าฟันกรามน้อยของไพรเมตกลุ่มอื่นๆ อันเป็นลักษณะเฉพาะของวงศ์ศิวะอะเดปิด โดยตั้งชื่อว่า สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส (Siamoadapis Maemohensis) ซึ่งหมายถึงไพรเมตวงศ์ศิวะอะเดปิดชื่อ "สยาม" ขุดพบที่เหมืองแม่เหมาะ

นักธรณีวิทยาชี้ว่า ทั่วไปแล้ว ฟอสซิลของไพรเมตวงศ์ศิวะอะเดปิดจะค้นพบได้เฉพาะทวีปเอเชียเท่านั้น โดยพบครั้งแรกในประเทศอินเดียจึงตั้งชื่อตามพระนามของพระศิวะ ไพรเมตชนิดนี้มีชีวิตอยู่ในยุคอีโอซีนเมื่อ 40 ล้านปีก่อน ต่อมามีการค้นพบไพรเมตวงศ์ศิวะอะปิดในประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น จีน ปากีสถาน พม่า และไทย แต่ไพรเมตวงศ์ศิวะอะเดปิดที่เคยพบทั้งหมดจะมีน้ำหนักตัวมากถึง 1 -2 กก.ขึ้นไป

ขณะที่ซากฟอสซิลของไพรเมตจมูกเปียกวงศ์ศิวะอะเดปิด ที่ค้นพบล่าสุดจะมีน้ำหนักเพียงประมาณ 500-700 กรัม มีอายุอยู่เมื่อประมาณ 13 ล้านปีก่อนหรือตอนกลางของยุคไมโอซีนเมื่อ 8 ล้านปีที่แล้ว ถือเป็นการค้นพบครั้งแรกของประเทศไทยและของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดร.เยาวลักษณ์ อธิบายว่า การศึกษาเปรียบเทียบลักษณะและขนาดของกรามและฟันซึ่งเป็นจุดสำคัญในการจำแนกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมระหว่าง สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส กับไพรเมตวงศ์อื่นๆ พบว่า สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส มีลักษณะใกล้เคียงกับลิงลม (lemurs) มีหางยาวไว้เกาะต้นไม้ และมีวิวัฒนาการน้อยซึ่งพบเฉพาะเกาะมาดากัสการ์ ทวีปแอฟริกา ลำตัวของ สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส มีความยาว 15 ซม.หรือเล็กกว่าลิงลมครึ่งหนึ่ง หากินตอนกลางคืน กินแมลง ใบไม้ และผลไม้เป็นอาหาร ไม่สามารถกัดกินอาหารแข็งๆ ได้


การค้นพบ สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส จึงแสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย ที่ก่อนหน้านี้ที่เหมืองแม่เมาะก็มีการค้นพบฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมาแล้วหลากหลายชนิด เช่น หมาหมีที่มีการขุดค้นเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการพบฟอสซิลไพรเมตที่นี่ หากมีการสำรวจมากขึ้นก็เชื่อว่าจะทำให้เราได้ค้นพบซากสิ่งมีชีวิตโบราณอย่างหลากหลายมากขึ้นอีก”

ดร.เยาวลักษณ์ ชี้ด้วยว่า ความสำคัญของการค้นพบยังอาจเป็นตัวชี้เบาะแสว่าทวีปเอเชียเคยเป็นแหล่งกำเนิดของสัตว์กลุ่มไพรเมตวงศ์ศิวะอะเดปิดมาก่อน ซึ่งปัจจุบันยังไม่อาจระบุถึงที่มาของลิงลมได้ แต่ก็ไม่อาจชี้ชัดไปได้ว่า สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส ซึ่งน่าจะเป็นบรรพบุรุษของลิงลมและลิงลมจะเคยอาศัยในทวีปเดียวกันมาก่อนหรือไม่ โดยทฤษฎีเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของทวีปก็เป็นเพียงทฤษฎีหนึ่ง และมีอีกหลายทฤษฎีที่มีความเป็นไปได้ อาทิ ทฤษฎีเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายอพยพ หรือแม้แต่ทฤษฎีการย้ายถิ่นแบบลอยแพที่เป็นเหตุบังเอิญ

ทั้งนี้ ดร.เยาวลักษณ์และคณะตามโครงการความร่วมมือสำรวจศึกษาวิจัยซากดึกดำบรรพ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไทย –ฝรั่งเศส ได้ค้นพบ สยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส ณ เหมืองถ่านหินแม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อปี 2547 ที่ชั้นถ่านหินลิกไนต์ลึกลงไป 500 เมตร ก่อนจะใช้เวลาวิจัยจนเสร็จสิ้น

ผลงานการค้นพบดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารฮิวแมนน์ อีโวลูชัน (Journal of Human Evolution) ฉบับที่ 54 หน้า 434 -443 ประจำเดือนมีนาคม 2551 ในชื่อรายงานว่า "การค้นพบไพรเมตวงศ์ศิวะอะเดปิดในยุคไมโอซีนกลางครั้งแรกในประเทศไทย" (First middle Miocene sivaladapid primate from Thailand : อ่านบทคัดย่อ-Abstract)

สำหรับซากฟอสซิลของสยามโมอะเดปิส แม่เมาะเอนซิส ถูกเก็บรักษาไว้ ณ กรมทรัพยากรธรณี ถ.พระรามหก กรุงเทพฯ ยังไม่มีแผนนำออกแสดงแก่สาธารณชน
กำลังโหลดความคิดเห็น