"วุฒิพงศ์" ยันมือสะอาดไร้ผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องส่งเสริมปลูกยูคาลิปตัส เผยตั้งแต่เกิดจนโตไม่มีธุรกิจและไม่เคยปลูกยูคาแม้แต่ต้นเดียว แต่ที่แนะนำให้เกษตรกรปลูกเพราะสงสาร วอนขอทำความเข้าใจ-ให้ความเมตตาคนจนบ้าง
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ให้สัมภาษณ์ "ผู้จัดการวิทยาศาสตร์" เมื่อวันที่ 12 ก.พ.51 โดยปฏิเสธกระแสข่าวว่าสาเหตุที่เขาส่งเสริมการปลูกยูคาลิปตัสเพื่อเป็นไม้โตเร็วไว้ใช้ในเชิงพลังงาน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจส่วนตัว พร้อมทั้งยืนยันว่าเขาไม่เคยมีธุรกิจหรือแม้แต่คิดปลูกต้นยูคาลิปตัสแม้แต่ต้นเดียว ซึ่งเขาสนใจแต่การเพาะพันธุ์ต้นสักเท่านั้น แถมได้จดสิทธิบัตรสิ่งที่ค้นพบแล้ว
รัฐมนตรีจาก จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวด้วยว่า เพราะเขาสนใจด้านการเกษตร จึงศึกษาเรื่องการปลูกต้นยูคาลิปตัสมามาก ทำให้มีความรู้มาก และรู้สึกสงสารชาวนาที่มีรายได้จากการทำนาน้อยเพียง 2,000 บาท/ไร่/ปี จึงแนะนำให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยราว 20 คนเมื่อปี 2548 ให้ไปดูแปลงปลูกยูคาลิปตัสแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อส่งเสริม และพบว่าได้ผลดี จนเวลานี้ ส.ส.กลุ่มที่ได้ไปดูงานในครั้งนั้นต่างพากันปลูกต้นยูคาลิปตัสในพื้นที่อีสานใต้มานานถึง 3 ปีแล้ว
"ผมมีหน้าที่ที่ต้องทำให้คนจนมีตังค์ ที่ผ่านมาผมมีทีมนักวิจัยอยู่นะ ก็พยายามนำวิทยาศาสตร์ไปช่วยเพิ่มผลผลิตในนาข้าว แต่ก็เพิ่มผลผลิตได้แค่ 5-10% ซึ่งมันไปไม่รอด"
"ถึงได้แนะนำเกษตรกรให้ปลูกยูคาลิปตัสที่คันนา เขาก็ตกใจสิ จากที่เคยมีรายได้จากการปลูกข้าว 2,000 บาทมาเป็น 6,000 บาท เพิ่มขึ้นมาตั้ง 3 เท่า เป็นการสร้างความสุขให้กับคนจน อย่างนี้เราต้องมีความเมตตาให้คนจนบ้าง" นายวุฒิพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นายวุฒิพงศ์ชนะเลือกตั้ง และ จ.ปราจีนบุรี ถือเป็น 2 แหล่งใหญ่ของไทยที่มีการปลูกต้นยูคาลิปตัสจำนวนมากเพื่อป้อนอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ ทั้งการใช้ในประเทศและส่งออก โดยฝ่ายไม่เห็นด้วยชี้ว่าการปลูกต้นยูคาลิปตัสจะทำให้ดินเสียความชุ่มชื้นและธาตุอาหารไปหมด
