นาซา/เอเอฟพี - ลูกเรือประจำยานแอตแลนติสต่อเติมห้องปฏิบัติ "โคลัมบัส" ของยุโรปบนสถานีอวกาศสำเร็จแล้วระหว่างออกเดินอวกาศ เหลือปรับแต่งอีกนิดหน่อยก็จะทำให้ยุโรปมีศูนย์วิจัยที่ถาวรแห่งแรกในห้วงอวกาศแล้ว
ในที่สุดห้องปฏิบัติการอวกาศ "โคลัมบัส" (Columbus) ขององค์การอวกาศยุโรป หรือ อีซา (ESA : European Space Agency) ได้เชื่อมต่อกับโหนดฮาร์โมนี (Harmony) บนสถานีอวกาศนานาชาติ หรือไอเอสเอส (International Space Station) ได้สำเร็จ ระหว่างการเดินอวกาศครั้งแรกของลูกเรือยานแอตแลนติส เที่ยวบินที่ STS-122 เมื่อกลางดึกของวันที่ 11 ก.พ.51
เรกซ์ วาลเฮม (Rex Walheim) และสแตนลีย์ เลิฟ (Stanley Love) ผู้เชี่ยวชาญด้านภารกิจประจำยานแอตแลนติส รับหน้าที่ออกไปเดินอวกาศครั้งแรกเพื่อติดตั้งห้องแล็บโคลัมบัส โดยพวกเขาได้ต่อสลักเชื่อมแหล่งพลังงานและข้อมูล (Power and Data Grapple Fixture : PDGF) ระหว่างโคลัมบัสกับตัวสถานีอวกาศ
จากนั้นลูกเรือที่ประจำอยู่ภายในสถานีอวกาศได้ใช้แขนกลขยับโคลัมบัสให้ตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ และจัดการเชื่อมต่อให้เสร็จสมบูรณ์ ห้องแล็บโคลัมบัสเชื่อมต่อที่ด้านขวาของโหนดฮาร์โมนีอย่างเป็นทางการสมบูรณ์ในเวลา 03.44 น.ของวันที่ 12 ก.พ.51 (ตามเวลาประเทศไทย)
ขณะเดียวกันลูกเรือผู้ออกไปเดินอวกาศก็เปลี่ยนถังไนโตรเจน (Nitrogen Tank Assembly : NTA) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมความร้อนบนสถานีอวกาศได้สำเร็จ รวมภารกิจทำงานนอกยานเป็นเวลา 7 ชั่วโมง 58 นาที
ทั้งนี้ฮานส์ ชเลเกิล นักบินอวกาศเยอรมันซึ่งเดิมทีจะต้องปฏิบัติภารกิจเดินอวกาศครั้งแรกแต่ป่วยเสียก่อน จะต้องรับภาระเดินอวกาศครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 ก.พ. พร้อมกับวาลเฮมเพื่อร่วมกันติดตั้ง NTA และท่อคลุมโคลัมบัสให้สมบูรณ์อีกครั้ง
ห้องปฏิบัติการทดลองโคลัมบัสมีความยาว 7 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4.5 เมตรและถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการพัฒนาสถานีอวกาศของยุโรปที่ร่วมลงทุนกัน 10 ประเทศมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เดิมนาซามีแผนที่จะส่งห้องแล็บของยุโรปไปติดตั้งบนสถานีอวกาศตั้งแต่ปี 2545 แต่ต้องเลื่อนออกไปหลายครั้งเพราะมีปัญหาหลายประการ รวมทั้งการระเบิดของยานขนส่งอวกาศโคลัมเบีย เมื่อปี 2546
ส่วนห้องปฏิบัติการทดลอง "คีโบ" ขององค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (แจกซา) นั้น นาซาเตรียมติดตั้งบนสถานีอวกาศนานาชาติระหว่างปฏิบัติการครั้งต่อไปในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้
