ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทย ทำไม๊ทำไมถึงขึ้นยากขึ้นเย็น !!

∞ติ๊กต็อกๆๆ ... "ไซน์กระซิบ" กลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงเวลาที่คนไทย "ลุ้น" ซะจนหัวใจอยากจะมาเต้นอยู่นอกอก เพราะอีกไม่กี่อึดใจ รัฐบาลใหม่ก็จะปรากฎโฉมให้ได้ชื่นใจ (!!?) กันแล้ว หัวใจน้อยๆ ของ "หนูไซน์ฯ" ก็เต้นระส่ำตูมๆ ไม่รู้จะได้ใครมาสวมหัวโขนนั่งว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่ดูจะตกขอบในโผคณะ "รัฐมนตรี" ไปซะงั้น∞

∞วันก็แล้ว สองวันก็แล้ว สามวันก็แล้ว ก็ยังไม่มี "ตัวจริง" ที่จะมานั่งเก้าอี้ ซ.โยธี ...ซ๊ากกะที ก็ไม่แปลกที่ยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน (?) นักการเมืองจะแย่งแต่เก้าอี้กระทรวงสำคัญๆ งบประมาณมากๆ ถูกจับจองไปเป็นกระทวงแรกๆ จนเหลือกระทรวง "เหลือๆ" ให้มาเก็บกวาดเกลี่ยๆ กันให้เต็มไปกันทีหลัง

ขนาดวันก่อน เจ้าหน้าที่ วท.ถึงกับถอนใจ "เฮ้อใหญ่ๆ" ว่ากระทรวงที่งบน้อยๆ อย่างกระทรวงวัฒนธรรมยังมีคนจับจองในตำแหน่งรองบ๊วยไปแล้ว แต่ที่ ซ.โยธียังว้าเหว่ รถขนบ๊วยเป็นเข่งๆ จึงมาเกยถึงหน้ากระทรวง อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมไม่มีใครสนใจเลย "หนูไซน์ฯ" อดห่วงอนาคตวิทยาศาสตร์ไทยไม่ได้จริงๆ ทั้งที่มีเรื่องจีเอ็มโอที่ ครม.อนุมัติร่างไบโอเซฟตีไปหยกๆ ตลอดจนเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโลกร้อนมาให้แก้อยู่ตรงหน้า

ก็ขนาด "ดร.ยงยุทธ" เจ้ากระทรวงยังหัวเราะเก้อๆ "ผมยังไม่เห็นใครจะมากระทรวงนี้เลย" ...แต่ที่แน่ๆ ดร.รัฐมนตรีขิงของเราเตรียมลัดฟ้าไปต่องานวิจัยมาลาเรียที่ออสเตรเลียสัปดาห์หน้าแล้ว∞

∞เฮ้อ...พักจากเรื่องรัฐมนตรีวิทย์คนที่ 27 มาต่อกันที่ปัญหาโลกร้อนดีกว่า ก็อย่าเพิ่งเบื่อว่าเราจะมีปัญญาทำอะไรได้กับปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ดร.จิรพล สินธุนาวา จากมหิดล เจ้าของไอเดียลอยกระทงแล้วชักกลับ ก็แถลงชัดๆ ว่า สายเกินแกงไป 15 ปีแล้วสำหรับการป้องกันปัญหาโลกร้อน จึงแสนอให้เตรียมร่างกายให้พร้อมรับผลกระทบแทน

แถมแนะแล้วไม่แนะเปล่า ดร.จิรพล ออกลูกประชด "คืนนี้ก็เข้านอนเร็วๆ พรุ่งนี้ก็ตื่นแต่เช้ามาตักบาตรทำบุญไว้ชาติหน้า" ทีแรกฟังดูก็คล้อยตาม แต่ฟังจนจบจึงรู้ว่าโดน "ด็อกเตอร์" ประชดแบบเจ็บๆ เข้าให้แล้ว

ส่วนคุณหมอ "สมศักดิ์ โล่ห์เลขา" นายกแพทยสภา ก็เตือนว่าโลกร้อนอาจจะทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคประสาทมากขึ้น แถมคนจนยังได้รับผลมากกว่าคนรวยที่ร้อนปุ๊บก็เปิดแอร์กันสบายใจเฉิบ ทางแก้สะดวก ประหยัด และง่ายๆ คุณหมอเสนอว่า ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยระบายความร้อนจากร่างกายออกไป

ขณะที่ปัญหาการปลดปล่อยก๊าซมีเทนสู่ชั้นบรรยากาศจากนาข้าวของไทย ที่แม้จะถูกชาติพัฒนาแล้วนำมาเป็นประเด็นการเมืองเพื่อจิกกัดกันตามใจชอบ รายงานจากกรีนพีซที่เปิดตัวไปหมาดๆ ชี้ให้เห็นว่า แต่คนไทยก็ทำให้เกิดมีเทนในฟาร์มปศุสัตว์น้อยกว่าฝรั่งตาน้ำข้าวเห็นๆ เพราะเราไม่กินเนื้อแกะ -วัวมากเท่าเขา

ทั้งนี้ก็เพราะขั้นตอนการเลี้ยงแกะตั้งแต่ตัวจ้อยจนมาอยู่ในจานก็ทำให้เกิดก๊าซโลกร้อนมากถึง 17.4 กก.ต่อเนื้อที่ได้เพียงกิโลฯ เดียว ส่วนการผลิตเนื้อวัว 1 กก.ต้องแลกด้วยก๊าซมีเทนรองเป็นอันดับ 2 ที่ 12.9 กก. ชนิดเนื้อหมู - ไก่ และพืชผักที่คนไทยนิยมบริโภคมากกว่าเป็นเพียงเรื่องจ้อยๆ รู้อย่างนี้แล้วจะมาข่มกันง่ายๆ แบบเก่าน่ะอย่าหวังอีกต่อไป∞

∞"ฟิ้ว..." เลยกำหนดปล่อยดาวเทียม "ธีออส" กล่องดวงใจสุดรักสุดหวงของกระทรวงวิทย์ไปหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ แล้ว เพราะยังเจรจาเรื่องชิ้นส่วนแรกของจรวดจะตกในอาณาเขตของประเทศอุซเบกิสถานไม่ลงตัว ไอ้ครั้นจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายไทยที่ต้องถ่อเอ๊ยบินลัดฟ้าไปดูความเรียบร้อยที่รัสเซียก็ใช่ที่ เพราะบริษัทแอสเทรียม เอส.เอ.เอส.ของฝรั่งเศส ที่เสวยค่าดาวเทียมกว่า 6,000 ล้านต้องรับผิดชอบ

กระนั้น ดร.ยงยุทธ เจ้ากระทรวงคนดีก็มอบหมายให้ปลัด "สุจินดา โชติพานิช" เร่งไปตรวจดูโดยไว ตั้งแต่วันที่ 23-26 ม.ค.นี้ แถมเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมายังมีคำตอบว่า "ไม่เห็นเป็นไร ก็เหมือนไปดูความก้าวหน้าไปในตัว" ด้าน "หนูไซน์ฯ" ฟังก็แอบ "ขุ่น" นิดๆ เพราะงบประมาณเรือนแสนดูจ่ายง่ายดายเหลือเกินกับเรื่องที่ไม่น่าจะต้องเสียนี้

แถมไม่ได้มีท่านปลัดไปคนเดียว แต่ยังมี "ธงชัย จารุพพัฒน์" ผอ.สทอภ. และวิศวกรอีก 7 ชีวิตติดตามไปด้วย และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุไฉน "ชาญชัย เพียรวิจารณ์พงศ์" ผอ.โครงการจึงไม่ได้ร่วมทริปไปด้วย∞

∞ ไหนๆ ก็เริ่มเม้าท์ฉาวๆ จนเบรกไม่อยู่แล้ว "หนูไซน์ฯ" จึงขอกระซิบต่อถึงหอดูดาวที่ยอดดอยอินทนนท์ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติด้วยซะเลย เพราะกระแสต่อต้านเริ่มหนาหู ฝ่ายหนึ่งก็เกรงว่าจะกระทบสายใยธรรมชาติอันละเอียดอ่อนบนจุดที่สูงที่สุดของประเทศ...

...อีกฝ่ายก็ว่าไม่มีผลกระทบอะไรแน่นอน แถมยังได้หอดูดาวใหญ่อันดับต้นๆ ของเอเชียมาประดับเมือง บุกเบิกยุคทองของวงการดาราศาสตร์ประเทศไทย พูดตามตรงหนูไซน์ก็ต้องบอกว่ารอคำตัดสินจาก "รายงานการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม" หรือที่ฮิตๆ ค้นหูว่า "อีไอเอ" ดีกว่า...แต่ว่าไฉนดูเหมือนว่าอีไอเอจะสอดไส้ยังไงพิลึกๆ ...ไม่รู้เพราะความหละหลวมหรือจงใจ แต่ยังไงก็...วานผู้มีอำนาจตัดสินใจในรัฐบาลใหม่ช่วยชั่งน้ำหนักผลดี -ผลเสียแล้วตัดสินใจดีๆ เพื่อประเทศชาติสักครั้งเถิด เจ้าประคู้น...∞

∞มาต่อกันที่เก็บตกควันหลงงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ก่อน นับว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียวสำหรับโซนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพราะเท่าที่ “หนูไซน์ฯ” สังเกตการณ์อยู่ครึ่งค่อนวันก็เห็นเยาวชนตัวน้อยมากหน้าหลายตาสนุกสนานกับของเล่นประเทืองปัญญาที่ช่วยกระตุ้นจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ให้เด็กๆ ได้มากมาย บางคนมาไกลจากต่างจังหวัดมุ่งหน้ามาที่งานของ วท.โดยเฉพาะก็มี “หนูไซน์ฯ” ได้ยินแล้วอดปลื้มแทน “กระทรวงเกรด C” ไม่ได้

แถมน้องๆ หลายคนยังหมายมั่นปั้นมือว่าโตขึ้นจะเป็น “นักวิทยาศาสตร์” ให้ได้กันเลยทีเดียว ดูท่าว่าอนาคตของวิทยาศาสตร์ไทยและเด็กไทยคงสดใสไม่น้อย ทว่านอกจากความมุ่งมั่นในตัวเด็กอย่างเดียวยังไม่พอ ผู้ใหญ่ต้องคอยดันอยู่ข้างหลังด้วยนะเจ้าคะ อันนี้ก็ขอฝาก “ผู้ใหญ่” ในประเทศเราเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยเจ้าค่า เพราะตอนนี้วิทยาศาสตร์ในบ้านเรายัง “แคบ” เกินบรรยาย∞

∞เขยิบขึ้นไปสูงอีกนิดกับแวดวงดาราศาสตร์ที่ต้องขอวกกลับมาพูดอีกครั้ง เพราะเช่นเดียวกันที่นักดาราศาสตร์ในบ้านเรานั้นมีน้อย หาตัวจับยากเต็มที แต่ก็น่าดีใจที่บางหน่วยงานอย่างโครงการ “ลีซา” ที่ให้การสนับสนุนนักดาราศาสตร์ตัวน้อยๆ ได้จับงานวิจัยของจริงเป็นประสบการณ์นอกรั้วโรงเรียน

ทว่าโรงเรียนที่เป็นพื้นฐานการให้ความรู้กับเด็กๆ กลับทำให้เด็กหลายคนต้องหันหลังให้วิทยาศาสตร์กันไปหลายรายแล้ว และผู้ใหญ่หลายคนที่ผ่านประสบการณ์ตรงนั้นมาแล้วเห็นตรงกันว่า “วิทยาศาสตร์ยากเพราะครูทำให้ยาก” นั่นเอง∞

∞ส่วนเม้าท์สุดท้าย แอบส่วนตัวนิ๊ดนึงพอหอมปากหอมคอ เพราะนักข่าวบางคนถึงกับจ๋อยเมื่อไปเยี่ยมชมโรงงานน้ำปลากับไบโอเทคพร้อมด้วยอาจารย์นักวิจัยน้ำปลา เหตุที่จ๋อยก็เพราะว่าประเด็นงานวิจัยที่ต้องการกลับไม่ได้ เพราะอาจารย์ไม่ยอมเปิดเผยเลยแม้แต่นิด

เพราะตัวนักวิจัยขอให้อดใจรอกันจนถึงวันเปิดตัวหนังสือ “น้ำปลา” ในอีก 7 วันให้หลัง เฮ้อ...หนึ่งวันนั้นที่ผ่านไปนักข่าวบางรายถึงกับ "ซีเรียส" ที่ไม่ได้งานส่งต้นสังกัด ครั้งพอถึงวันงานเปิดตัวหนังสือที่รอคอยกัน อาจารย์ก็ยังยืนกรานให้บรรดาสื่อมวลชนเอาหนังสือไปอ่านกันก่อนเพราะมีคำตอบทุกคำถามแล้วในหนังสือ โอ้...แม่เจ้า∞

∞ก่อนจะอำลากันไป "หนูไซน์ฯ" ก็ขอแจ้งประโยคเดิม ใครมีเรื่องอยากเล่าอยากเม้าท์ก็ฝากมาที่ scigossip@gmail.com เหมียนเดิมเจ้าค่า และขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงเพื่อรับ "รัฐบาลใหม่" เอ้ยผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อนตามที่ ดร.จิรพล แนะนำไว้น่ะเจ้าค่า∞