"ผู้จัดการวิทยาศาสตร์" ขันอาสาเป็นไกด์นำชมกิจกรรมปลูกฝังปัญญาเยาว์ในถนนสายวิทยาศาสตร์ เรียนรู้จัก "ภาวะโลกร้อน" ปัญหาสิ่งแวดล้อมสุดฮิตให้ถ่องแท้ ร่วมสนุกการแข่งขันรูบิก ชมความงามเปลือกหอย "อัญมณีแห่งท้องทะเล" และสารพัดกิจกรรมวัดแววนักวิทยาศาสตร์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปิดงานถนนสาย (Science Avenue) วิทยาศาสตร์ประจำปี 2551 อย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 23 ม.ค.นี้ โดยหน่วยงานต่างๆ ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแลดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมองค์การเภสัชกรรมและคณวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมเปิดสถานีทดลองและการเรียนรู้เพื่อทำกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์กว่า 30 สถานี
หากคุณหนูๆ อยากรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองมีแววนักวิทยาศาสตร์แค่ไหนต้องไปพิสูจน์กันที่ "สถานี Scince Lab" ซึ่งนำการทดลองสนุกอย่างระเบิดผงฟูหรือจำลองการระเบิดภูเขามาให้ร่วมสนุก หรือจะจำลองเป็นยอดนักสืบด้วยการพิสูจน์องค์ประกอบสารเคมีในปากกาด้วยการทดลอง "โครมาโตกราฟี" ใน "สถานีเคมีหรรษา" ซึ่งมีการทดลองง่ายๆ โดยการแต้มสีปากลงกระดาษถ้วยกรองกาแฟแล้วจุ่มปลายในสารละลาย เท่านี้ก็จะเห็นสีแยกออกเป็นชั้นตามคุณสมบัติการละลาย
ส่วนใครที่อยากวัดความสามารถในการแข่งขันรูบิกก็อย่ารอช้าเพราะเขาจำกัดผู้แข่งขันเพียงรอบละ 10 คนและเปิดเพียงวันละ 5 รอบ โดยระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค.จะคัดผู้ทำเวลาได้ดีที่สุดวัน 4 คนเพื่อเข้าชิงชนะเลิศในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ซึ่งในวันเดียวกันนั้นจะเปิดประชาชนทั่วไปได้แข่งขันคัดเลือกและชิงชนะเลิศในวันเดียวเท่านั้น สำหรับบรรยากาศวันแรกก็มีนักเรียนหลายระดับรวมกลุ่มกันฟิตซ้อมกันอย่างขมักเขม้นภายใน "สถานี NSM Rubik's Cube Speed Contest"
ด้วยภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักและให้ความร่วมมือ จึงได้เห็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมนี้จากหลายหน่วยงาน อย่างองคืการพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ก็สาธิตกล่องพลาสติกปลูกพันธุ์ไม้เล็กๆ และใส่เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ โดยใบหนึ่งปิดฝาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของปรากฏการณ์เรือนกระจกทำให้อุณห๓มิในกล่องดังกล่าวสูงกว่าอีกกล่องที่ไม่ได้ปิดฝาซึ่ง
ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ก็สาธิตปรากฏการณ์โลกร้อนด้วยลูกโลกจำลอง 2 ใบ โดยใบหนึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่าอีกใบที่ไม่ได้ปิดฝา ส่วนศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ก็ทำแบบจำลองตู้กระจกเปรียบเทียบระหว่างสิ่งแวดล้อมที่ใช้พลังงานถ่านหินซึ่งมีกระจกดำแทนสัญลักษณ์ภาวะเรือนกระจกที่ชั้นบรรยากาศโทรโปสเฟียร์กับสิ่งแวดล้อมซึ่งใช้พลังงานสะอาดจึงไม่มีภาวะเรือนกระจก แต่เก๋สุดคือการแจกไอติมลดโลกร้อนซึ่งมีแนวคิดว่าหากเลือกกินไอติมบรรจุโคนขนมปังแทนบรรจุถ้วยพลาสติกจะลดปัญหาโลกร้อนจากขยะ
สำหรับใครที่คิดว่าคณิตศาสตร์และศิลปะไม่สามารถรวมเป็นเรื่องเดียวกันต้องเปลี่ยนใจใน "สถานีสนุดคิดพิชิต math" ที่ให้คุณๆ ค้นหารูปทรงเรขาคณิตที่ซ่อนอยู่ภาพอันซับซ้อนแล้วเผยออกมาด้วยดินสอสี ด้วยหลักการง่ายๆ แค่นี้อาจทำให้เกิดลวดลายแปลกๆ จากการระบายสีรูปทรงเรขาคณิตอย่างมีแบบแผนซ้ำๆ ได้
ภายใต้ท้องทะเลมีความงามซ่อนอยู่ "สถานีมหัศจรรย์แห่งชีวิต" จึงเนรมิตอัญมณีแห่งท้องทะเลที่รวบรวมเปลือกหอยสวยงามมากมายจัดแสดงในตู้กระจก แต่สวยเพียงใดนั้นต้องไปสัมผัสด้วยตาตนเอง ทั้งนี้งานถนนสายวิทยาศาสตร์จัดถึงวันที่ 26 ม.ค.นี้ โดยผู้สนใจเข้าร่วมสามารถเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้งรถโดยสารประจำทางสาย 8, 44, 67, 92 , 97 ปอ.44, ปอ.157, ปอ.171,ปอ.509 และ ปอ.538
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามได้ที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ฯ โทร.0-2577-9999 ต่อ 1829-30 หรือ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โทร.0-2354-4466 ต่อ 118 หรือ โทร.1313 และ www.most.go.th
คลิกที่ไอคอน Manager Multimedia
เพื่อรับชมภาพกิจกรรมบนถนนสายวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม
