xs
xsm
sm
md
lg

ปส.เตรียมฟ้อง บ.ที่ปรึกษาทำโครงการศูนย์นิวเคลียร์องครักษ์ล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปส.เตรียมศึกษาสัญญาเอาผิดอีดับเบิลยูอี กรณีศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์ หลังรับค่าจ้างแต่งานไม่คืบหน้า พร้อมเสนอ ครม.ขอความชัดเจนในบทบาทหน้าที่หลัง สทน.แยกรั้วจาก ปส.มาได้ร่วมปี

หลังจากมีข่าวลือจากคนวงในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) มาพักใหญ่ว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้จัดทำผลสอบความไม่ชอบมาพากลกรณีการก่อสร้างศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์ จ.นครนายก เป็นที่เรียบร้อย ทว่าจนบัดนี้ยังไม่มีการแถลงผลสอบใดๆ ต่อสังคม

อย่างไรก็ดี ในส่วนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ผู้ดำเนินโครงการมาแต่ต้น นายเชาวน์ รอดทองคำ เลขาธิการ ปส.เปิดเผยว่า ปส.กำลังศึกษาข้อสัญญาที่ทำกับ บ.อิเล็กทรอวัตต์ คอนซัลติง เซอร์วิสเซส (อีดับเบิลยูอี) บริษัทที่ปรึกษาและควบคุมการก่อสร้างโครงการซึ่งอายุสัญญายังไม่หมดลงเพื่อดำเนินคดีความ

ทั้งนี้ ปส.ได้จ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายแก่อีดับเบิลยูอีไปเมื่อ 16 ก.ย.45 จนครบ 247 ล้านบาทตามสัญญา แต่โครงการกลับไม่มีความคืบหน้าตามอีดับเบิลยูอีอ้าง โดย ปส.ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ได้ เพราะอีดับเบิลยูอีอาจรู้ตัวและเตรียมข้อมูลแก้ต่าง

ส่วนความผิดพลาดที่เกิดกับการตรวจรับงานของ ปส.จนทำให้เกิดปัญหานั้น เลขาธิการ ปส.ชี้ว่า อาจเกิดมาจากการทำงานแบบต่างคนต่างทำของคณะกรรมการตรวจรับงานจาก บ.เจเนอรัล อะตอมมิกส์ (จีเอ) บริษัทรับเหมาก่อสร้างโครงการแบบจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ (Turn Key) และคณะกรรมการตรวจรับงานอีกชุดเพื่อตรวจรับงานจากอีดับเบิลยูอีอีกทอดหนึ่ง

ต่อเรื่องนี้ นายเชาวน์เรียกร้องสื่อมวลชนว่าควรให้ความเป็นธรรมแก่กรรมการตรวจรับงานของ ปส.ด้วย เพราะต่างทำงานกันอย่างสุจริต

ขณะที่คดีความระหว่าง ปส.และจีเอ ล่าสุดคดีความยังอยู่ในชั้นอนุญาโตตุลาการ และไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่ง ปส.ได้ยกเลิกสัญญากับจีเอเมื่อ มี.ค.49 เนื่องจากจีเอหยุดก่อสร้างโครงการหลัง ปส.จ่ายค่างวดครั้งที่ 17 และเงินค่างวดล่วงหน้าไปรวม 1,800 ล้านบาท โดยจีเอร้องขอให้เพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นจากสัญญาแต่แรกที่แบ่งงวดจ่ายเงิน 88 งวด มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี นายเชาวน์ กล่าวว่า ปส.จะนำเรื่องโครงการศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ขอความชัดเจนจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งหนึ่งว่า ปส.และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน.จะดำเนินการใดๆ ในเรื่องดังกล่าวได้บ้าง หลังจากต้นปี 50 ได้มีการแยก สทน.ออกจาก ปส.เพื่อจัดตั้งเป็นหน่วยงานวิจัยพัฒนาและใช้ประโยชน์รังสีนิวเคลียร์โดยเฉพาะ

กำลังโหลดความคิดเห็น