xs
xsm
sm
md
lg

ผุดโครงการ “ส่งต่อ” (Pay It Forward) พร้อมระดมอาสาสมัครช่วยสังคมแบบยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพราะการศึกษาที่แท้จริงไม่ได้จบลงแค่ที่กำแพงมหาวิทยาลัย... ดังเช่นเรื่องราวของเขาผู้นี้ “ชาญกิจ ไตรรัตนานนท์” อดีตนักศึกษาในรั้วเหลืองแดง และอดีตนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ในตอนนั้น) เขาได้รับโอกาสก้าวเข้าสู่ห้องเรียนระดับโลกที่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ที่สุดกลับยอมละทิ้งเส้นทางธุรกิจ หันมาช่วยเหลือสังคมและชุมชน พร้อมไม่หยุดนิ่ง เตรียมสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาเป็นเครือข่ายอาสาสมัครและจิตอาสา ภายใต้ชื่อโครงการ “ส่งต่อ” (Pay It Forward) ด้วยประกายแนวคิด “ส่งต่อความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” ช่วยเหลือผู้อื่น แล้วให้ผู้อื่นไปช่วยเหลือคนอื่นต่อๆ ไป

ชาญกิจ เผยถึงการจัดตั้งโครงการฯ ที่มีจุดเริ่มต้นจากวิกฤต โดยอยากช่วยบรรเทาทุกข์ในช่วงโควิด-19 “โครงการส่งต่อก่อตั้งขึ้นด้วยเจตนารมณ์ที่มุ่งแก้ไขปัญหาชุมชนและสังคมอย่างเร่งด่วนในตอนนั้น ซึ่งในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ประชาชนจำนวนมากประสบปัญหาตกงาน รายได้ตกต่ำ และขาดแคลนอาหารยังชีพ ผมคิดแค่ว่า เราอยากช่วย หรือทำอย่างไรให้ช่วยผู้คนได้มากที่สุดในเวลาจำกัด แล้วที่สำคัญ หากเจอวิกฤตแบบนี้ซ้ำ ๆ การช่วยเหลือสามารถเริ่มได้เลย ไม่ต้องตะกุกตะกัก นี่จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ ‘ส่งต่อ’ เราทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงระหว่าง ‘ผู้ส่งต่อ’ ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ กับ ‘ผู้รับ’ ที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เพราะผมทำคนเดียวไม่ได้ ทั้งหมดก็เพื่อบรรเทาความทุกข์และส่งเสริมคุณภาพชีวิต” กิจกรรมแรกเริ่มของโครงการส่งต่อ คือ “ส่งต่อ : รถพยาบาลรับส่งผู้ป่วยที่ยากไร้” ซึ่งเป็นการจัดรถรับส่งผู้ป่วยโควิดฟรี รวมถึงโครงการจิตอาสาต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกับจิตอาสาระดับหมู่บ้านและชุมชน เพื่อช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ช่วงวิกฤต

มองว่าอยากทำให้ยั่งยืน ผุดไอเดีย “การส่งต่อที่ไม่หยุดนิ่ง”
“ใช่ครับ แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่กิจกรรมของโครงการส่งต่อยังคงดำเนินต่อไป โดยเน้นการฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งใน 3 มิติหลัก คือ 1.สังคม — ส่งต่อความห่วงใย สร้างสังคมที่อบอุ่น สร้างแพลตฟอร์มการส่งต่อเพื่อเชื่อมโยงผู้ให้และผู้รับอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน นอกจากกิจกรรมด้านโควิดแล้ว ยังมีการส่งต่อและสนับสนุนโครงการดี ๆ อีกมากมาย เช่น ‘โครงการแบ่งปันอิ่มใจ’, ‘โครงการส่งต่อรอยยิ้มสีรุ้ง’, ‘โครงการ Share Love – ปันรัก’, และ ‘โครงการอาสาน่าน’ เป็นต้น 2.การศึกษา — ส่งต่อความรู้ สร้างผู้นำรุ่นใหม่ โครงการมุ่งมั่นสนับสนุนค่ายสร้างสรรค์และกิจกรรมทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้นำที่มีคุณภาพ ด้วยความเชื่อที่ว่า “ผู้นำที่ดีไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อแค่ขับเคลื่อนตนเอง แต่เพื่อขับเคลื่อนคนอื่นและเปลี่ยนแปลงสังคม” 3.การเมือง — ส่งต่อความร่วมมือ สร้างนโยบายที่ยั่งยืน

โดยกิจกรรมล่าสุดของโครงการฯ คือการร่วมมือกับน้อง ๆ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนับสนุน โครงการรัฐสภาจำลอง ซึ่งเป็นพื้นที่เรียนรู้ที่ออกแบบมาเพื่อเยาวชนไทย ฝึกฝนบทบาทพลเมือง ผ่านการจำลองกระบวนการรัฐสภาอย่างใกล้ชิด พัฒนาความเข้าใจเชิงโครงสร้างของระบอบประชาธิปไตย ทดลองการเลือกตั้ง การตั้งพรรค การยกร่างกฎหมาย และการอภิปรายถ่วงดุลอำนาจ

ท้ายสุด ชาญกิจ เผยว่า “ผมมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะคืนกลับให้สังคม แต่ผมคนเดียว ความคิดเดียว คงทำไม่ได้ ต้องมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันประสานงานในโครงการฯ นี้ ดังนั้น เพื่อให้โครงการส่งต่อ (Pay It Forward) ได้ทำงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างยั่งยืน พลังแห่งการเดินหน้าก็คือประชาชนชาวไทยทุก ๆ คน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งถ้ามีโอกาสก็อยากใช้พื้นที่ตรงนี้ เชิญชวนทุกคนที่สนใจสมัครเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาสาสมัครส่งต่อเพื่อสังคม ทุกท่านสามารถสมัครหรือเข้าไปดูกิจกรรมต่าง ๆ ของเราได้ที่ ‘ส่งต่อ | Pay It Forward’ ”










กำลังโหลดความคิดเห็น