ที่ประชุม ศบค.กทม. เผยกำชับหน่วยงานคุมเข้ม สถานที่ได้รับการผ่อนปรนหวั่นโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ วอนประชาชนอย่าผ่อนคลายการป้องกันตนเองจากการรับเชื้อ เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างต่อไป
วันนี้ (1 มิ.ย.) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 53/2563 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะโฆษกกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นไปในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 13/2563 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 จึงให้ผ่อนคลายการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และผ่อนปรนให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ พร้อมกับมีข้อกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันระวังการแพร่ระบาดซ้ำของโรคโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งการผ่อนปรนในระยะที่ 3 นี้ มีสถานประกอบกิจการ กิจกรรม ได้รับการผ่อนคลายจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำของโรคโควิด-19 อาทิ การผ่อนคลายการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา การประกอบกิจการในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 21.00 น. การผ่อนคลายให้สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ให้เปิดดำเนินการได้โดยงดเว้นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่นและอาจเกิดภาวะไร้ระเบียบได้ ผ่อนคลายให้คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า สามารถให้บริการได้ โดยงดเว้น การอบตัว อบสมุนไพรหรืออบไอน้ำแบบรวม และการนวดบริเวณใบหน้ และยกเว้นสถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด เป็นต้น โดยรายละเอียดประชาชนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.prbangkok.com/th/post/ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการ ศึกษาและปฏิบัติมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แนบท้ายประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 10) ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต ตำรวจนครบาล และ กอ.รมน.กทม. ตรวจแนะนำสถานประกอบการ และสถานที่ประกอบกิจกรรมทุกประเภทอย่างเข้มข้น เพื่อให้คำแนะนำผู้ประกอบการและประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการผ่อนปรนอย่างเคร่งครัด อันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งอาจจะมีความรุนแรงกว่าการแพร่ระบาดครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ได้มีการหารือถึงพฤติกรรมของประชาชนที่เริ่มขาดความระมัดวังการป้องกันตนเอง รวมถึงป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในปัจจุบันที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนลดลง ที่ประชุมจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ประชาสัมพันธ์กระตุ้นเตือนให้ประชาชน ระมัดระวังดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น รวมทั้งขอให้สถานประกอบการและประชาชนที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อกำหนดของมาตรการป้องกันและควบคุมคุมการแพร่โรคโควิด-19 ที่ภาครัฐรวมทั้งกรุงเทพมหานครกำหนด เช่น การใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” การปฏิบัติตนในร้านอาหาร การปฏิบัติตนในสวนสาธารณะ หรือสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนปรน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในวงกว้างต่อไป