กรมศิลป์แจงบูรณะ “วิหารวัดเจดีย์หลวง” ระบุสำรวจเดือน พ.ค.พบปลวก แมลงภู่ เจาะเนื้อไม้ เสาไม้บางต้น เตรียมแก้ไขปัญหาแล้ว
จากกรณีการบูรณะวิหารวัดเจดีย์หลวง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ากรมศิลปากรให้ผู้รับเหมานำไม้ไม่ได้คุณภาพมาใช้ในการบูรณะนั้น นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า โครงการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์วัดเจดีย์หลวง ได้รับงบประมาณในการดำเนินการทั้งสิ้น 45 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประเภทเงินงบอุดหนุน ตามแผนงานพัฒนาและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ โครงการพัฒนาแหล่งศิลปวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการท่องเที่ยว และวัดเจดีย์หลวงสมทบงบประมาณ 50,000 บาท มีการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ปีงบประมาณ 2557 ดำเนินการบูรณะอาคารหลังคาคลุมวิหาร งบประมาณ 15 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2548 ดำเนินการบูรณะอาคารหลังคาคลุมวิหาร งบประมาณ 15 ล้านบาท บาท ปีงบประมาณ 2559 บูรณะอาคารหลังคาคลุมวิหาร งบประมาณ 5,400,000 ล้านบาท และงานก่อสร้างปรับปรุงส่วนต่างๆ ในพื้นที่ งบประมาณ 9,600,000 บาท
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานทางวัดเป็นผู้ว่าจ้างและเป็นคู่สัญญากับเอกชนที่เข้ามารับงานจ้าง โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ร่วมกับกรรมการที่วัดคัดสรรแล้วเป็นคณะกรรมการตรวจงานจ้างและควบคุมงาน โดยจากการตรวจสอบเสาไม้ที่นำมาใช้งาน พบว่าเป็นเสาไม้เนื้อแข็ง และใช้วัสดุถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาจ้าง ทั้งนี้ระหว่างการดำเนินงานระยะที่ 1 ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลให้ยอดฉัตรเหนือพระธาตุวัดเจดีย์หลวงหักพับลงมา และพบรอยแตกร้าวรอบองค์พระธาตุเพิ่มเติมจึงได้มีการบูรณะ โดยใช้งบประมาณที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์วัดเจดีย์หลวง จำนวน 45 ล้านบาท แต่อย่างใด และจากการสำรวจความเสียหายอาคารหลังคาคลุมวิหารวัดเจดีย์หลวง ล่าสุดช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าเกิดจากปลวก และแมลงภู่ กินและเจาะเนื้อไม้ ทำให้เสาไม้บางต้นสูญเสียกำลังและความสามารถในการรับน้ำหนักโครงสร้างหลังคาที่มีน้ำหนักมาก จึงเกิดการถ่ายน้ำหนักลงสู่เสาไม้ต้นอื่นๆ ให้รับน้ำหนักจากโครงสร้างหลังคาเพิ่มขึ้นไปจากเดิมและอาจจะต้องจำกัดการใช้งานอาคาร อีกทั้งต้องดำเนินการติดตั้งค้ำยันเสาอาคารทุกต้นโดยใช้เหล็กรูปพรรณเพื่อช่วยในการรับน้ำหนักโครงสร้างหลังคาไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายดังกล่าวตามหลักวิศวกรรมและพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วนต่อไป
