กรุงเทพฯ/เชียงราย - “พี่ศรี” จี้ สตง.สอบอีกทาง กรมศิลป์บูรณะวัดเจดีย์หลวงเชียงแสนแค่ 3 ปีพังหนักเกินกว่าที่คิด ทั้งมอดเจาะ เสาแตก หลังคาทรุด ขณะที่ทางวัดผวาเข้าหน้าฝนพายุถล่มวิหารพังทับพระพุทธรูปเก่าแก่สิงห์ 1 อายุกว่า 676 ปี ขอญาติโยมร่วมบุญตั้งโครงติดเหล็กค้ำก่อน
ความคืบหน้ากรณีกรมศิลปากรใช้งบประมาณ 45 ล้านบาท รวมกับเงินบริจาคอีกจำนวนหนึ่ง บูรณะวัดเจดีย์หลวง ต.เวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ศิลปะเชียงแสนสิงห์ 1 ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวใหญ่ 2 รอบ ทั้งปี 54 และปี 57 แต่ผ่านไปเพียง 3 ปีกลับเกิดความเสียหายอย่างหนักจนต้องปิดห้ามคนเข้านั้น
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ สตง. เพื่อขอให้ไต่สวนและสอบสวนกรณีที่เสาวิหารวัดเจดีย์หลวง เลขที่ 635 ม.3 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เกิดชำรุดหลายต้น หวั่นเสาวิหารทรุดหนัก เกิดอันตรายแก่ชาวบ้านที่เดินทางมากราบไหว้โบราณสถานวิหารประดิษฐานองค์พระพุทธรูปสิงห์ 1 ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงแสนกว่า 676 ปี
วิหารดังกล่าวได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ จนองค์เจดีย์หลวงและพระอุโบสถได้รับความเสียหาย กรมศิลปากรจึงได้จัดหางบประมาณแผ่นดินกว่า 45 ล้านบาทในการบูรณะ โดยจัดจ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการบูรณะตั้งแต่ปี 2557-2559 แล้วได้ส่งมอบงานสุดท้ายในปี 2559
ตลอดระยะเวลาหลังการส่งมอบงานตั้งแต่ปี 2559-13 พ.ค. 63 เจ้าอาวาสได้ให้พระเณรจัดเตรียมสถานที่วิหารเจดีย์หลวงเพื่อเตรียมประกอบพิธีทางศาสนาในพระอุโบสถ แต่ขณะที่ทำความสะอาดเกิดเสียงลั่นจากเสาไม้ด้านในวิหารหลายต้น ทางเจ้าอาวาสจึงสั่งให้ขึงเชือกกั้น-ติดป้ายห้ามเข้า งดทำกิจกรรมทางศาสนาในพระอุโบสถวัดเจดีย์หลวง รอทางสำนักศิลปากรที่ 5 เชียงใหม่ เข้ามาตรวจสอบ
พระครูวิจารณ์ธรรมสุนทร (เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง) ได้ทำหนังสือร้องไปยัง ผอ.สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 62 พร้อมภาพถ่ายเสาวิหารที่ชำรุด เพื่อขอเร่งมาดำเนินการบูรณะหวั่นจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้
เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง ระบุว่า งบประมาณบูรณะ 3 ปี 45 ล้าน เมื่อส่งงานเสร็จก็เกิดชำรุดเสียหายเรื่อยมา ทางวัดเคยแจ้งให้ผู้รับเหมานำต้นไม้สักที่มีอยู่ในวัดขนาดกว้าง 80 ซม. ยาว 10 ม.จำนวน 3-4 ต้น มาทำเป็นเสาช่วงกลางวิหารได้เพื่อให้แข็งแรง แต่ผู้รับเหมาอ้างว่าไม่สามารถนำไปใช้ได้เนื่องจากติดระเบียบสัญญา
ทั้งนี้ เจ้าอาวาสวัดเคยสอบถามช่างที่เข้ามาซ่อมแซมภายในวัดถึงไม้ที่นำมาทำเสาวิหาร ช่างอ้างว่าเป็นต้นมะม่วงป่า ซึ่งอาจทำให้อายุการใช้งานไม่นาน หากมีการซ่อมแซมเหมือนเดิมต่อไปคงจะไม่ทนแน่ ปัจจุบันหากมองดูด้วยตาเปล่า ถ้าเกิดแผ่นดินไหว หรือเกิดพายุพัดแรง คงจะรับแรงต้านไม่ไหวแน่ ทางวัดจึงร้องขอให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าเร่งแก้ไข เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญของชาติ และเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงแสน ชาวเชียงรายมาหลายร้อยปี แต่ทว่าจนบัดนี้เรื่องก็ยังเงียบอยู่
กรณีดังกล่าวเป็นที่น่าสงสัยเป็นอย่างมากว่ากรมศิลปากรปล่อยให้ผู้รับเหมานำไม้ที่ไม่มีคุณภาพมาบูรณะวิหารวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 676 ปีได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ใช้งบประมาณสูงมาก ซึ่งการทำสัญญาและตรวจรับการจ้างอาจมีปัญหา สมาคมฯ จึงเรียกร้องสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการไต่สวน ตรวจสอบ และเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ ไปจนถึงอธิบดีกรมศิลปากร ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงของการว่าจ้างและตรวจรับงาน เพื่อให้รับผิดชอบทั้งหมดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดขณะนี้พระครูวิจารณ์ธรรมสุนทร (เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงเชียงแสน) ได้เชิญชวนญาติโยมศรัทธาร่วมด้วยช่วยกันซ่อมแซมวิหารดังกล่าว โดยได้ให้ผู้รับเหมาท้องถิ่นใช้เหล็กแท่งเชื่อมยึดเสาที่ปลวกกินไว้ก่อน เพราะเกรงว่าเมื่อเข้าฤดูฝนเกิดลมพายุแรง เสาจะหัก-หลังคาวิหารจะพังลงมาทับพระพุทธรูปโบราณศิลปะเชียงแสนสิงห์ 1 อายุกว่า 676 ปี ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเชียงแสนมาหลายชั่วอายุคน และเป็นโบราณสถานของชาติด้วย
