กรุงเทพฯ/เชียงราย - กรมศิลปากรงานเข้า.. “ศรีสุวรรณ จรรยา” ยื่น ป.ป.ช.สอบ หลังทุ่มงบ 45 ล้าน พร้อมเงินบริจาคของชาวบ้าน บูรณะวัดเจดีย์หลวงหลังแผ่นดินไหวใหญ่ 6.3 ริกเตอร์ปี 57 ไม่ถึง 3 ปีเสาวิหารประดิษฐานพระเชียงแสนสิงห์ 1 ชำรุดต้องปิดห้ามคนเข้ากราบไหว้แล้ว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และนักท่องเที่ยวว่าไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชม กราบไหว้บูชาหลวงพ่อเชียงแสนสิงห์ 1 ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารวัดพระธาตุเจดีย์หลวงได้ เนื่องจากถูกปิดกั้นไว้เป็นเขตอันตราย ห้ามเข้า เพราะเสาไม้ภายในวิหารมีสภาพชำรุดอย่างหนัก อาจพังลงมาเมื่อใดก็ได้
ทั้งนี้ วิหารวัดเจดีย์หลวงเชียงแสนดังกล่าวเพิ่งมีการบูรณะกันไปเมื่อปลายปี 2557-2559 เนื่องจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 5 พ.ค. 57 ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดเชียงราย และมีความรุนแรงถึง 6.3 ริกเตอร์ ส่งผลให้องค์เจดีย์หลวงและวิหารได้รับความเสียหาย กรมศิลปากรจึงใช้งบประมาณแผ่นดินกว่า 45 ล้านบาท และเงินบริจาคจากประชาชนองค์กรต่างๆ อีกจำนวนหนึ่งมาร่วมกันบูรณะ
โดยการจ้างเหมาบริษัทเอกชนมาดำเนินการบูรณะ แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่ถึง 3 ปีเท่านั้น เสาภายในวิหารก็เกิดการแตกตัว ผุกร่อน เนื้อไม้ยุ่ยเป็นฝุ่นผง มีเชื้อราสีดำคล้ำ บางส่วนแตกหลุดร่อนออกมาเห็นแกนเหล็กที่ตอกขันประกบเสาไว้ชัดเจน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจพังล้มครืนลงมาทั้งหลังเมื่อไหร่ก็ได้
กรณีดังกล่าวเป็นที่น่าสงสัยมากว่ากรมศิลปากรปล่อยให้ผู้รับเหมานำไม้ใหม่ไม่มีคุณภาพมาบูรณะวิหารวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 676 ปีได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ใช้งบประมาณสูงกว่า 45 ล้านบาท
การตรวจรับการจ้างอาจมีปัญหา ไม่โปร่งใส จำเป็นที่สมาคมฯ จะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปดำเนินการไต่สวน ตรวจสอบ และเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่ ไปจนถึงอธิบดีกรมศิลปากร ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงของการว่าจ้างและตรวจรับการจ้าง จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด
อนึ่ง วัดพระธาตุเจดีย์หลวง อำเภอเชียงแสน เป็นวัดที่เก่าแก่ของเมืองเชียงแสน สร้างโดยพระเจ้าแสนภู พระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรล้านนาไท เมื่อ พ.ศ.1887 (ประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 19) มีพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในวัด สูงถึง 88 เมตร มีฐานกว้าง 24 เมตร เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเชียงแสน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหารหลวงพ่อเชียงแสนสิงห์ 1 ที่เก่าแก่มาก
โบราณสถานแห่งนี้แม้ว่าจะปรักหักพังไปมากแล้ว แต่ได้รับการบูรณะเมื่อปลายปี 2557 หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เพราะเป็นวัดที่สำคัญของเมืองหิรัญนครเงินยางภายในสมัยอาณาจักรล้านนาไทยในอดีต ความไม่โปร่งใสในการบูรณะโบราณสถานแห่งนี้จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานที่ตกต่ำของกรมศิลปากร ซึ่งไม่อาจปล่อยไว้ได้ จำต้องจัดการให้ถึงที่สุด
