ศบค.ยันร้านเสริมสวยยังห้าม “ดัดผม-ย้อมผม” หากการ์ดไม่ตกอาจผ่อนปรนให้ทำได้ระยะต่อไป ส่วนผับบาร์สถานบันเทิงยังต้องรอไปก่อนเช่นกัน แต่อาจทำรูปแบบเปิดร้านปลอดภัยมาเสนอได้ ส่วนจะเปิดหรือไม่ขึ้นกับสถานการณ์ ยันข้อมูล “ไทยชนะ” ใช้เพื่อควบคุมโรค เก็บไม่เกิน 60 วันแล้วลบออก ไม่ละเมิดส่วนตัว ใช้แค่เบอร์โทร.อย่างเดียว
วันนี้ (19 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงการให้บริการในร้านเสริมสวยหลังเปิดการคลายล็อก ในส่วนของของดัดผม ย้อมผม นอกจากการตัดสระไดร์ ว่า การประกาศล่าสุด ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม ทำเล็บ อยูในหมวดเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ยังไม่มีคำอนุญาตให้ดัดผม ย้อมผม เพราะยังต้องใช้เวลาในการทำมากกว่า 2 ชั่วโมง และการใช้เวลานานถือเป็นความเสี่ยงในการติดเชื้อ หลายท่านก็ให้ความร่วมมือ ดังนั้น ขอให้รออีกสักระยะหนึ่ง หากทำตัวเลขให้ต่ำกว่า 2 หลักไปนานๆ ก็จะเข้าสู่ระยะผ่อนปรนที่ 3 หรือ 4 จะได้ทำได้มากขึ้น ตอนนี้ยังยืนยัน ถ้าสุ่มตรวจแล้วเจอว่าทำ ก็อาจจะได้รับคำแนะนำ ตักเตือน แต่ถ้ายังซ้ำบทลงโทษอย่างมากคือการปิดร้าน จึงอยากขอความร่วมมือ
ส่วนธุรกิจผับบาร์จะเปิดในระยะ 4 ได้หรือไม่หรือปิดต่อเนื่องนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผับบาร์สถานบันเทิงนั้นอยู่ในกลุ่มสีแดง โอกาสในการเปิดนั้น ตอนนี้เรามีตัวเลขผู้ป่วยหลักเดียวยาว 22 วัน หรือ 3 สัปดาห์ ถ้าการ์ดไม่ตกและมีตัวเลขหลักเดียวไปนานๆ ที่เราจะดูระยะ 14 วัน ก็จะผ่านไปโดยเร็ว เราอยากมีธุรกิจกิจกรรมกลับไปเหมือนเดิม ต้องขอความร่วมมือทุกท่าน ตัวเลขหลักเดียวไปเรื่อยๆ จะกลับมาเปิดได้เหมือนเดิม แต่ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่ มีหน้ากากตลอดเวลา การออกแบบร้านให้ปลอดภัย ไปดื่มไปนั่งแล้วไม่ติดแน่นอน ระหว่างนี้ก็เสนอความคิดรูปแบบกันขึ้นมาได้
ถามถึงการใช้ข้อมูลแพลตฟอร์มไทยชนะ จะมีการเอาไปใช้อย่างไร มีการเมืองเอาไปใช้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีเจตนาเพื่อควบคุมโรคอย่างเดียว เราใช้เพียงเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น บางครั้งจดทะเบียนเป็นชื่อใครก็ไม่รู้ แต่ขอให้ตามได้เท่านั้น ลงทะเบียนในเฟซบุ๊ก ในไลน์ ข้อมูลไปเยอะกว่าข้อมูลที่เราได้ด้วยซ้ำ เราแค่ต้องการว่าจุดนั้นไปเมื่อไร ออกเมื่อไร เพื่อควบคุมโรค ความเป็นส่วนตัวไม่ได้อยู่ในข้อมูลชุดของพวกเรา และชุดข้อมูลอยู่นานเพียง 60 วันโดยประมาณ หากไม่มีการติดเชื้ออะไรก็จะถูกลบออกไป เหมือนกล้องซีซีทีวีก็อยู่ประมาณนี้และถูกลบไป ไม่ต้องกังวลใจ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการ กลุ่มธุรกิจ ผู้ให้บริการ กิจการ หรือคนดูแลกิจกรรม ในกลุ่มสีขาวและสีเขียวทั้งหมดที่คลายล็อกแล้ว ลงทะเบียนในไทยชนะ เพื่อจะได้มีระบบเดียวในการดูแล คนหนึ่งอาจมาตรงนี้ อีกวันไปอีกที่หนึ่ง ถ้าอยู่ในระบบเดียวกัน การติดตามโรคจะง่ายขึ้น อย่างที่บอกว่าผู้ป่วยจังหวัดหนึ่งภาคใต้ ออกไปจังหวัดอื่นก็ต้องเอาคนไปนั่งซักประวัติ ไปถามเสียเวลากว่าจะได้ชุดข้อมูล แต่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เราดึงข้อมูลมาบอกได้เลย และตามโรคได้เร็วด้วย ถือเป็นข้อดี ไม่ได้เป็นอะไรที่ทำให้ต้องทุกข์ร้อน
