“บิ๊กป้อม” ลงปัตตานี สั่งปรับซีซีทีวีเป็นดิจิทัล บูรณาการงานข่าวร่วมกำนัน-ผญบ.

“ประวิตร” ลงพื้นที่ปัตตานี เยี่ยมชมศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด สั่งปรับเป็นระบบดิจิทัล บูรณาการงานข่าวร่วมกำนัน-ผญบ. เพิ่มศักยภาพจับกุมคนร้าย

วันนี้ (20 ม.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้ เวลา 07.30 น.พล.อ.ประวิตร พร้อม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และคณะ ได้ลงปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) ในพื้นที่เทศบาลเมืองปัตตานี พร้อมสั่งการให้เร่งปรับระบบกล้องซีซีทีวีเป็นดิจิทัล และเสริมขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงพัฒนาความสมบูรณ์ของระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเฝ้าตรวจและแจ้งเตือนในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำขอให้ความสำคัญกับระบบการทำงานและข้อมูลจากกล้องซีซีทีวี โดยถือเป็นพยานและหลักฐานสำคัญของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำที่จะช่วยดำรงความยุติธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งขอให้เร่งรัดความคืบหน้าคดี รวมทั้ง บูรณาการงานการข่าวและแสวงความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องปรามและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่สร้างความเสียหายกับชีวิต ทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน

พล.ท.คงชีพกล่าวต่อว่า ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรและคณะจะเดินทางไปศาลากลาง จ.ปัตตานี เพื่อร่วมรับฟังผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลจากหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจในพื้นที่ โดยสรุปภาพรวม การทำงานของเจ้าหน้าที่สามารถดูแลความปลอดภัยประชาชนได้อย่างทั่วถึงและคดีความมั่นคงในพื้นที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังไม่มีการประกาศสถานการณ์ภัยแล้งและมีการเฝ้าระวังเป็นพื้นที่ สถานการณ์ยาเสพติด ยังมีการแพร่ระบาดเป็นรายหมู่บ้าน ตำบล พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา พร้อมสั่งการขอให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน น้อมนำศาสตร์พระราชาและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การปฏิบัติในการร่วมดูแลประชาชนทุกคนในพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รับฟังกันแม้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน สำหรับการแก้ปัญหายาเสพติดนั้น พล.อ.ประวิตรขอให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาให้ครบวงจร ควบคุมและลดระดับความรุนแรงให้ได้ โดยเฉพาะการสกัดกั้นและการปราบปรามซึ่งต้องทำควบคู่กับการบำบัดรักษา เพื่อดึงลูกหลานออกจากยาเสพติดไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ