เริ่มทดสอบประสิทธิภาพรถเมล์ NGV จำนวน 2 คัน วิ่งบริการจริงในสภาพถนนและการจราจรจริง วันแรกสาย 140 จากอู่แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยฯ เวลา 05.00น.-22.00 น. ขสมก.เตรียมเปิดตัวยิ่งใหญ่ 26 มี.ค. มั่นใจงานนี้ไม่มีล้มซ้ำรอย
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (14 มี.ค.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มีการนำรถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงมาวิ่งทดลองให้บริการเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของรถโดยสารใน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย140 (อู่แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) และสาย 138 (อู่ราชประชา-หมอชิต 2) โดยจะทดลองวิ่งให้บริการวันที่ 14-16 มีนาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น. หลังจากที่บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ส่งมอบรถและนำมาวิ่งทดลองให้บริการจำนวน 2 คัน โดย ขสมก.จะวิ่งทดสอบเสมือนการใช้งานจริงในสภาพจราจรของกรุงเทพฯ ควบคู่กับการตรวจเอกสารและตัวรถแล้วจะทำคู่ขนานไปกับการทดสอบแบบสุ่มด้วย
นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า จะใช้เวลาวิ่งแต่ละรอบประมาณ 2-3 ชั่วโมง คาดว่าในแต่ละวันจะวิ่งได้ประมาณ 6 รอบต่อเส้นทาง โดยในการทดลองจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน และเป็นการทดสอบสมรรถนะของรถ ทั้งฟังก์ชันการใช้งานภายในรถ เครื่องยนต์ที่ต้องวิ่งบนสะพานแขวน ขณะบรรทุกผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 80 คน ตามสภาพการจราจรจริง และเครื่องยนต์ต้องสามารถใช้กับก๊าซธรรมชาติอัด (CNG) ที่จำหน่ายในไทยได้ ส่วนทางลาดสำหรับอำนวยความสะดวกผู้โดยสารต้องมีคุณสมบัติถูกต้องตามข้อกำหนด
ทั้งนี้ จะมีการทดสอบให้บริการ 3 วัน คือ ตั้งแต่วันนี้ (14 มี.ค.) จนถึงวันที่ 16 มี.ค. ในเส้นทางถนนพระราม 2 จำนวน 8 สาย คือ เส้นทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ (รังสิต-ดอนเมือง) 8 สาย เส้นมีนบุรี-สวนสยาม 4 สาย เส้นสมุทรปราการ-สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ อีก 4 สาย และจะทยอยให้บริการได้จริงหลังวันที่ 20 มีนาคมนี้ โดยคงค่าโดยสารไว้ที่ราคาเดิม
สำหรับรถเมล์เอ็นจีวีมีจำนวน 35 ที่นั่ง ติดตั้งกล้องซีซีทีวี มีทางออกฉุกเฉิน และมีพื้นที่สำหรับคนพิการ ที่นั่งสำรองคนพิการ
ทั้งนี้ บริษัทเอกชนจะทยอยส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 100 คัน ครบในเดือน มี.ค.นี้ โดยในวันที่ 19 มีนาคมจะส่งมอบ 30 คัน วันที่ 21 มีนาคมส่งมอบ 30 คัน และวันที่ 23 มีนาคม ส่งมอบจำนวน 40 คัน และกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 26 มี.ค. คาดว่าจะรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 489 คันได้ครบประมาณเดือน มิ.ย. ซึ่งจะมีการจัดรถลงประจำการใน 4 เขตการเดินรถ ได้แก่ เขตการเดินรถที่ 1, 2 , 3 และ 5 โดยวิ่งให้บริการ 25 เส้นทาง