MGR online - ผบช.สตม. ยืนยันไบโอเมทริกซ์ใช้ได้งานจริง มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับเงินที่เสีย สามารถจับกุมผู้ต้อง หาได้กว่า 3 พันราย คดีที่สำคัญอาทิเช่น คดีด้านความมั่นคง เหตุระเบิดป่วนกรุงเทพฯเมื่อปี 62
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบไบโอเมทริกซ์ที่ สตม. นำมาใช้ในท่าอากาศยานนานาชาติ และด่านชายแดนต่างๆ รวมทั้ง กรณีรถตรวจการณ์อัจฉริยะมีประสิทธิภาพดีจริงคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไปหรือไม่ ว่า ระบบไบโอเมทริกซ์สามารถใช้งานได้จริง ส่วนตัวมองว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เพราะมีสถิติการจับกุม รวมถึงตัวเลขเงินค่าปรับยืนยันชัดเจน แต่เนื่องด้วยงบประมาณที่จำกัด จึงใช้ระบบไบโอเมทริกซ์ในออพชั่นที่จำกัด แต่ก็เลือกใช้ในฟังก์ชั่นที่จำเป็นไปก่อน ถือเป็นการเริ่มต้นเพื่อที่จะพัฒนาเพิ่มออพชั่นในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ในหลายคดีที่สำคัญและไม่ได้เปิดเผยสู่สังคม เช่น คดีความมั่นคง เหตุระเบิดป่วนกรุงเทพฯ เมื่อเดือน ส.ค.ปี 2562 ระบบไบโอเมทริกซ์ก็มีส่วนช่วยให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ รวมถึงยกตัวอย่างกรณีเหตุวางระเบิดรั้วศาลพระพรหมที่แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2558 ถ้าตอนนั้นใช้ระบบไบโอเมทริกซ์ ตนเชื่อว่าคนร้ายจะไม่สามารถเข้ามาก่อเหตุได้ ส่วนรถตรวจการณ์อัจฉริยะ ยืนยันว่าใช้งานได้จริง มีส่วนช่วยในภารกิจนอกพื้นที่ในการตรวจสอบบุคคล เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับสถิติการใช้งานระบบไบโอเมทริกซ์ตั้งแต่เริ่มต้นถึงวันที่ 7 ม.ค.63 (รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน) ตรวจคนเข้า-ออก จำนวน 48,862,051 คน จับกุมด้วยระบบไบโอเมทริกซ์มีจำนวน 3,166 คน จับกุมบุคคลในแบล็คลิสต์ 4,353 คน อยู่เกินกำหนด หรือ โอเวอร์สเตย์ (Overstay) 126,989 คน รายได้แผ่นดินจากค่าปรับ 242,808,800 บาท