โฆษก ศบค.แถลงพบผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย สะสม 3,033 ราย มาจากนราธิวาส ลูกสาวกับลูกเขยติดจากพ่อ แจงร้านเสริมสวยยังไม่เปิดให้ดัด-ย้อมผม ธุรกิจสถานบันเทิง ผับ-บาร์รอลุ้นตัวเลขหลักเดียวไปนานๆ แต่ย้ำต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่ ส่วนแพลตฟอร์มไทยชนะ ยันไว้ติดตามโรคอย่างเดียว มีอายุข้อมูล 60 วัน จากนั้นลบทิ้ง
วันนี้ (19 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,033 ราย หายป่วยสะสม 2,857 ราย รักษาอยู่ 120 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 56 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่มาจากจังหวัดนราธิวาส สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ คือ หญิงไทยอายุ 36 ปี ลูกสาว และชายไทยอายุ 42 ปี ลูกเขย จากการเฝ้าไข้พ่อที่เป็นปอดอักเสบ เข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 14 พ.ค.
การตรวจพบเชื้อ 3,031 ราย พบวอล์กอินเข้าโรงพยาบาล 1,585 ราย รองลงมาคือ ติดตามผู้สัมผัส 1,186 ราย แต่ได้ปรับเกณฑ์ PUI ให้ตรวจร่างกายแก่ผู้ที่มีอาการน้อยลง ทำให้มีประชาชนเข้ารับการตรวจมากขึ้น
ส่วนสถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,891,330 รักษาตัว 44,767 ราย รักษาหายแล้ว 1,906,828 ราย เสียชีวิต 320,134 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมารัสเซีย สเปน บราซิล และสหราชอาณาจักร ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 70 ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศอีก 5 รายที่เมืองจี้หลิน, เกาหลีใต้เชื่อโควิด-19 จากสถานบันเทิงอิแทวอนคุมได้ และฝรั่งเศสพบเด็กติดไวรัส 70 คนหลังเปิดเรียนใหม่
การใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ พบร้านค้าลงทะเบียน 60,853 ร้านค้า จำนวนผู้ใช้งาน 3,660,081 คน มากที่สุดคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี นนทบุรี กิจการที่ผู้รับบริการเข้าใช้บริการสูงสุด คือ ห้างสรรพสินค้า รองลงมาคือ ซูเปอร์มาร์เกต ร้านอาหาร การประเมินร้านค้าอยู่ที่ 5 คะแนน ซึ่งห้างร้านที่ประเมินคะแนนต่ำจะมีกำลังชุดตรวจตามมาตรการผ่อนคลายเข้าตรวจสอบให้
เที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย จะมีเด็กจากอเมริกาใต้และอาร์เจนตินามาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ และจะมีเที่ยวบินมาถึงประเทศไทยถึงวันที่ 26 พ.ค. ส่วนตามแนวชายแดนพบมาเลเซียมีคนเข้าประเทศน้อยลง มาตรการเคอร์ฟิวยังมีผู้กระทำความผิดเช่นเดิม จึงขอความร่วมมือช่วยกันลดยาเสพติดหรือตั้งวงสุรา
ในช่วงตอบคำถาม ถามว่ากรณีร้านเสริมสวยเริ่มให้บริการดัดย้อมมีการผ่อนคลายแล้วหรือไม่ ยืนยันว่าการประกาศล่าสุดตามข้อกำหนดในข้อที่ 7 ร้านเสริมสวยแต่งผม ตัดผม หรือตัดเล็บ ยังไม่อนุญาตให้ดัดผม ย้อมผม ซึ่งใช้เวลาในการทำมากกว่า 2 ชั่วโมง อีกสักระยะหนึ่งถ้าตัวเลขผู้ป่วยต่ำกว่า 2 หลักไปนานๆ จะเข้าสู่การผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 หากมีผู้ร้องเรียนจะมีชุดตรวจไปแนะนำเพิ่มเติม ฝ่าฝืนมีโทษสูงสุดคือสั่งปิดร้าน แต่อยากขอความร่วมมือมากกว่า
กรณีลงทะเบียนไทยชนะจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพหรือไม่ ยืนยันว่าได้ศึกษาอย่างละเอียดแล้ว กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาเพื่อควบคุมโรคอย่างเดียว ต่างจากการลงทะเบียนแล้วข้อมูลไปสู่แอปพลิเคชันเยอะกว่าที่เราได้มา ความเป็นส่วนตัวไม่ได้อยู่ที่ชุดข้อมูลนี้ และมีอายุเพียง 60 วันแล้วถูกลบออกไป ไม่เอามาใช้ประโยชน์อื่นๆ
ส่วนร้านค้า สถานประกอบการทั่วไป ถ้าไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้าจะต้องไปลงทะเบียนหรือเปล่า ชี้แจงว่า อยากให้ผู้ประกอบการ กิจการ หรือกิจกรรม ที่อยู่กลุ่มสีเขียวทั้งหมดเชิญร่วมลงทะเบียน ถ้าอยู่ในระบบเดียวกันเวลาติดตามโรคจะได้ง่ายขึ้น แทนที่จะเสียงบประมาณส่งคนไปซักประวัติ เทียบกับเทคโนโลยีตามข้อมูลได้ง่ายขึ้น ส่วนกลุ่มสีขาวเช่นร้านตัดผมยังลงทะเบียนได้
ส่วนธุรกิจสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะกลับมาเปิดได้ตามมาตรการระยะที่ 4 หรือไม่ ชี้แจงว่าธุรกิจนี้มีความต้องการเปิดให้บริการอยู่ส่วนหนึ่ง ส่วนจะเปิดได้เมื่อไหร่ กรณีที่เกิดขึ้นต่างประเทศก็กังวลใจ และมีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง ถ้าทุกคนดูแลตัวเลขจาก 3 หลักเป็น 2 หลัก ผ่านไป 22 วันเหลือตัวเลขหลักเดียว ถ้าการ์ดไม่ตก มีตัวเลขหลักเดียวไปได้นานๆ ระยะที่จะพิจารณาทุก 14 วันก็จะกลับไปโดยเร็ว ซึ่งต้องเกิดจากความร่วมมือของประชาชน และอยู่ในชีวิตวิถีใหม่ สร้างความมั่นใจว่าไม่ติดโรค