ศบค.เตือนคลายล็อกเฟสแรก คนไทยการ์ดตกลงทุกด้าน ส่วนกิจการต่างๆ ร่วมมือดี ส่วนจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ อยู่ระหว่างศึกษา เหตุยังต้องจำกัดห้ามบิน ต้องควบคุมเชื้อนำเข้าและในประเทศ พ่วงดูสถานการณ์โลก หากยกเลิกต้องไม่กระทบ ส่วนนำคนไทยกลับประเทศจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 400 คนต่อวัน
วันนี้ (17 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า การผ่อนคลายเฟสแรกนั้น จากการศึกษาของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และ ม.มหิดล ช่วงวันที่ 8-14 พ.ค. พบว่า คนไทยการ์ดยังตก โดยพฤติกรมป้องกันโรคโดยรวมลดจาก 77.6% เหลือ 72.5% แบ่งเป็น 1. สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง จาก 91.2% เหลือ 91% ก็ยังพอรับได้ 2. ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้ง จาก 87.2% เหลือ 83.4% 3. กินร้อน ช้อนกลางตัวเอง ทุกครั้ง จาก 86.1% เหลือ 82.3% ก็ยังพอรับไหว 4. ระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่นในระยะ 2 เมตร จาก 65.3% เหลือ 60.7% และ 5. ไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก จาก 62.9% เหลือ 52.9%
ส่วนกิจการที่รับการผ่อนคลาย วันที่ 16 พ.ค. พบว่า ส่วนใหญ่ร่วมมือดี โดย 20,204 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 0% ปฏิบัติไม่ครบ 51 แห่ง หรือ 0.25%
เมื่อถามว่า หากมาตรการผ่อนคลายระยะ 2 ดีขึ้น ไม่มีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ จะไม่ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผอ.ศบค.มอบคณะกรรมการด้านกฎหมายไปศึกษาแล้ว และให้นำเสนอขึ้นมาหากต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งโรคในประเทศก็ควบคุมได้ระดับหนึ่ง แต่ยังมีเรื่องของการห้ามเครื่องบินที่จะมาลง หากยกออกไปจะมีผลหรือไม่ คณะกรรมการด้านกฎหมายต้องไปศึกษา การจะห้ามไม่ให้เครื่องบินมาลงต้องใช้กฎหมายอะไรอย่างไร ต้องประมวลกฎหมายหลายด้านมาประกอบกัน เพื่อให้เรื่องของการควบคุมการนำเชื้อเข้ามา หรือควบคุมเชื้อภายในประเทศให้ได้อยู่ในการดูแลได้ทั้งหมด ถ้าจะยกเลิกกฎหมาย แต่สถานการณ์โลกยังมีการติดเชื้อจำนวนมาก จะมีผลกระทบอะไรอย่างไร ต้องดูอย่างลึกซึ้งและใช้เวลาพอสมควร ถ้าสถานการณ์โลกและเราดีขึ้นด้วยกัน ก็อาจไม่จำเป็น แต่ตอนนี้สถานการณ์โลกยังจำเป็น เรามีกฎหมายอะไรมาทดแทนหรือไม่ คณะกรรมการก็ต้องไปหารือและนำเสนอต่อ ผอ.ศบค.และคณะกรรมการ เพื่อลงมติการดูเรื่องระยะเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป
ถามว่า หลังประกาศขยายห้ามบินถึงวันที่ 30 มิ.ย. จะมีการขยายการนำคนไทยกลับมาหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคในต่างประเทศไม่สู้ดี เป็นสิทธิของคนไทยและญาติพี่น้องพาคนที่รักกลับคืนมา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็มีเตียงรองรับผู้ป่วยมากขึ้น กระทรวงการต่างประเทศ ก็บอกว่า เอาคนเข้ามามากขึ้นได้ เพราะมีคนลงทะเบียน ขณะที่มหาดไทยและกลาโหมก็สามารถหาพื้นที่รองรับได้ เพราะฉะนั้น จากเดิมตัวเลขที่นำกลับมาแต่ละวันจากเดิม 200 ราย ขยับเพิ่มเป็น 300 ราย และน่าจะเป็นที่ 400 ราย ด้านนี้ก็ผ่อนคลายขึ้น ประชาชนที่มีคนที่รักอยู่ต่างประเทศ จะเห็นว่ามีประเทศไทยเข้ามาได้บ้าง ก็ประสานสถานทูตลงทะเบียนไว้ และดูแลอย่างดีพร้อมเมื่อไรก็ได้กลับมา ประกอบด้วย 3 พร้อม คือ มีคนลงทะเบียนพร้อมที่จะกลับมา ต้องมีเครื่องบินที่จะกลับมา ซึ่งหลายประเทศก็ปิดน่านฟ้าภายในประเทศ โดยสถานทูตต่างๆ พยายามช่วยอยู่ และมีพื้นที่รองรับ ตอนนี้เราพร้อมเต็มที่ ถ้าเที่ยวบินมีก็กลับมาได้