ไทยพบผู้ป่วยโควิดใหม่ 5 ราย สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 2 ราย จาก กทม.และนราธิวาส อยู่ในสถานที่กักตัว 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ยอดสะสมรวม 3,009 ราย กลับบ้านแล้ว 2,794 ราย แจงผลแล็บภูเก็ตเจออีก 4 รายจริง จะเป็นยอดรายงานพรุ่งนี้ ขอคนออกจากภูเก็ต หากมีอาการป่วยเล็กน้อย เข้าข่ายติดโควิดให้รีบตรวจทันที
วันนี้ (10 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จำนวน 5 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 7 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,009 ราย กลับบ้านรวม 2,794 ราย เสียชีวิตรวม 56 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 159 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่มาจาก 1. สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 2 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 44 ปี จาก กทม. มีอาการไอ หายใจลำบาก ถ่ายเหลว วันที่ 5 พ.ค. และชายไทยอายุ 80 ปี จ.นราธิวาส และ 2. เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 3 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยหญิงอายุ 41 ปี กลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ชายไทยอายุ 26 ปี และ 27 ปี เป็นนักศึกษากลับจากปากีสถาน เมื่อวันที่ 7 พ.ค.
“สำหรับกรณีข่าวออกมาทางโซเชียลมีเดียว่าที่ภูเก็ตมีผลแล็บออกมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค. พบอีก 4 รายเพิ่มเติมนั้น ตรงนี้จะแยกจาก 5 รายวันนี้ เนื่องจากยอด 5 รายเป็นการตัดยอดเมื่อวาน ดังนั้น 4 รายนี้จะยังไม่รวม แต่จะเป็นยอดการรายงานวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้อยู่แล้ว ซึ่งคนในภูเก็ตหรือออกจากภูเก็ตเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่มีการผ่อนปรน ที่มีคนหลักหมื่นออกจากภูเก็ตไปยังจังหวัดต่างๆ และเมื่อวานมีรายงานติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 รายที่เดินทางออกจากภูเก็ต ขอให้คนเดินทางทั้งหลายดูแลตัวเอง ถ้ามีภาวะเสี่ยง อาการอย่างใดอย่างหนึ่ง แค่คัดจมูก รับรู้กลิ่นไม่ดี ประวัติไข้ เดินทางจากภูเก็ตขอรับการตรวจได้เลย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว และว่า จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยรายงานในช่วง 28 วันที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอีก 1 จังหวัด คือ สมุทรสาคร รวมเป็น 45 จังหวัด ยังมีรายงานผู้ป่วย 28 วันเหลือ 23 จังหวัด ส่วนการกลับเข้าประเทศคนไทยจากต่างประเทศ สะสมสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ 15,699 ราย กลับบ้าน 6,229 ราย ตรวจเจอเชื้อ 90 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับต่างประเทศมีผู้ป่วยสะสม 4.1 ล้านราย อาการหนัก 4.7 หมื่นราย หายกลับบ้านแล้ว 1.4 ล้านราย เสียชีวิต 2.8 แสนราย ทั้งนี้ เกาหลีใต้แถลงว่าผู้ป่วยโควิดรายใหม่มี 18 ราย พบว่า 17 รายเชื่อมโยงกับชายอายุ 29 ปีที่ไปเที่ยวผับบาร์ย่านอิแทวอน กรุงโซล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้สั่งติดตามผู้ไปสถานที่ดังกล่าวในวันเวลาเดียวกับผู้ป่วยรายนี้ คาดว่ามีมากถึง 1.5 พันคน แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ เพื่อให้เข้ามรับการตรวจ โดยนายกเทศมนตรีกรุงโซล ออกคำสั่งปิดผับบาร์ในกรุงโซลไม่มีกำหนด ซึ่งเราเคยชื่นชม หลายสำนักข่าวตีความว่าการที่เกาหลีใต้ตรวจมากๆ โดยไม่ต้องปิดเมือง สุดท้ายก็ต้องใช้ระบบผสม คือ ปิดด้วย ตรวจด้วย เจอเชื้ออีกก็ต้องปิด หลายประเทศทดลองวิธีต่างๆ ไทยเราก็ไม่ต่างกัน ก็ต้องเข้มข้นเสมอ การ์ดตกไม่ได้ ตัวเลข 1.5 พันต้องกวาดเข้ามาดู ภาวนาให้เกาหลีใต้ควบคุมโรคได้อย่างดี
ถามว่า มีพื้นที่หรือจังหวัดไหนต้องระวังพิเศษอย่างภูเก็ตหรือไม่ และจะตรวจเชิงลึกจังหวัดไหนเพิ่มจาก 4 จังหวัดหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ไม่ได้เฝ้าระวังเป็นพื้นที่ แต่ระวังเป็นกลุ่มบุคคล คือ 6 กลุ่มเสี่ยงสุ่มตรวจระยะๆ บุคลากรการแทพย์ ผู้ต้องขังแรกรับหรือผู้ต้องกัก กลุ่มคนขับรถสาธารณะ พนักงานไปรษณีย์หรือส่งของ แรงงานต่างด้าว และกลุ่มอาชีพเสี่ยง เราจะติดตามอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ไม่ได้อยู่ที่เป้าหมายของจังหวัดเพราะคนเดินทางไปเรื่อยๆ ไม่ได้ปิดเมืองอะไรแล้วต้องไปติดตามกลุ่มเสี่ยง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การติดตามบุคคล ต่อไปชีวิตเราคงต้องตามบุคคลได้ เช่น คนออกจากภูเก็ตจะตามอย่างไร หรืออย่างเกาหลีใต้คน 1.5 พันคนที่ต้องติดตามจากสัมผัสผู้ป่วยเที่ยวผับ ซึ่งในต่างประเทศต้องใช้แอปพลิเคชัน ประเทศจีนประสบความสำเร็จเพราะมีแอปพลิเคชันติดตามตัวบุคคล เรื่องนี้ก็ปรากฏในข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ออกมา เรียนว่าหลักการนี้คงต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ถ้าจะเข้าสู่มาตรการระยะที่ 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่จะมีแอปพลิเคชันอย่างไรก็คงจะมีการลงนามร่วมมือกันวันนี้ โดยเลือกแอปพลิเคชันขึ้นมาขอความร่วมมือประชาชนช่วยลงทะเบียน ช่วยให้สังคมแน่นแฟ้น หากป่วยไข้เอาเข้ามารักษา