ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เหลือ 38 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยอดสะสม 2,258 ราย กลับบ้านเพิ่มเป็น 824 ราย เชื่อตัวเลขลดลง อาจไม่ต้องออกมาตรการเข้มขึ้น แต่ยังต้องขอทุกคนช่วยกันรักษามาตรการกดตัวเลขลง มีโอกาสช่วยให้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ กลุ่มสนามมวยไม่พบรายใหม่แล้ว ระบุ กลุ่มคนไทยกลับจากต่างประเทศยอดสูงในช่วง 2 สัปดาห์
วันนี้ (7 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันที่ 7 เม.ย. มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 38 ราย เสียชีวิต 1 ราย กลับบ้าน 38 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 2,258 ราย เสียชีวิตรวม 27 ราย กลับบ้านรวม 824 ราย โดยผู้เสียชีวิต เป็นชายไทยอายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัว แต่ก่อนหน้านี้ไปงานเลี้ยงสังสรรค์หลายที่ ที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ด้วยอาการเหนื่อย ไปรักษาวันที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง วันที่ 14 มี.ค. ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อส่งตัวอย่างตรวจเชื้อก็พบติดเชื้อโควิด-19 ผลเอกซเรย์เจอปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ด้วยระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า โดยผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า17 ราย ส่วนใหญ่เป็น กทม. 11 ราย มีทั้งติดจากบ้านและที่ทำงานและกลุ่มเพื่อน 2. กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 16 ราย คือ คนไทยกลับจากต่างประเทศ 3 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย กลุ่มอาชีพเสี่ยง ทำงานในที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดนักท่องเที่ยว 7 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย และ 3. อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 5 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยสะสม 2,258 ราย กระจายรักษาตัวอยู่ใน 66 จังหวัด โดยเป็น กทม. 1,201 ราย ภูเก็ต 138 ราย นนทบุรี 134 ราย สมุทรปราการ 99 ราย ชลบุรี 70 ราย เป็นต้น ส่วนจังหวัดที่ยังไม่มีผู้ป่วยรายงาน คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และ อ่างทอง ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย พบว่า มาจาก กทม. 25 ราย ชลบุรี 4 ราย ภูเก็ต 3 ราย กระบี่ ชุมพร นครราชสีมา นนทบุรี พิษณุโลก และ สุพรรณบุรี จังหวัดละ 1 ราย โดยขอกำลังใจจากประชาชนทุกท่านที่ร่วมกันทำให้ตัวเลขลดลง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
“การที่ผู้ป่วยรายใหม่ลดลงคงต้องมาหาดูว่ามาจากอะไร ซึ่งหลังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ 26 มี.ค. เป็นต้นมา กราฟรายใหม่ยังทรงตัว กราฟสะสมก็ยังทรงๆ แต่ประกาศเคอร์ฟิว 3 เม.ย. ประมาณ 5 วันที่เกิดขึ้น แต่ระยะฟักตัวประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ถือว่าเริ่มมีแนวโน้มที่ดี ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่อยู่บ้าน นี่คือผลการทำงานของพวกเราทุกคน การแพร่กระจายเชื้อน้อยลง เส้นผู้ป่วยสะสมก็เริ่มออกไปทางขวามือคือสิ่งที่เราพึงพอใจ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการเปรียบเทียบ กทม.และต่างจังหวัด ก็มีแนวโน้มลดลง แต่ยังต้องช่วยกัน หลายคนถามว่าประกาศเคอร์ฟิวแล้ว จะต้องเพิ่มมาตรการไหม จากกราฟที่ออกมาก็หมายความว่าให้ความร่วมมือ ผู้ป่วยน้อยลง เชื่อว่า ผู้บริหารคงไม่ต้องใช้มาตรการเข้มไปมากกว่านี้ ดังนั้น ขอให้ช่วยกันกดตัวเลขนี้ให้ลงไปเรื่อยๆ เราจะเห็นโอกาสที่เรามีชีวิตประจำวันปกติได้เหมือนเดิม ส่วนปัจจัยเสี่ยงพบว่า กลุ่มสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้เริ่มลดลง โดยสูงสุดอยู่ที่สัปดาห์ที่ผ่านมา 317 ราย ส่วนสัปดาห์นี้ 3 วันมีประมาณ 83 ราย เหลืออีก 4 วัน ถ้ากดลงได้ก็คิดว่าไม่น่าจะเกิน 300 ราย คือ การรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ใส่หน้ากากตลอดเวลา กลุ่มสนามมวยลดลงเกือบหมดในสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้ยังไม่มีรายงาน คนไทยจากต่างประเทศ ยังมีความเสี่ยง เพราะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งหากเทียบกับผู้ป่วยสะสมทั้งหมด อันดับ 1 คือ การสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า อันดับ 2 คือ กลุ่มสนามมวย แต่ช่วง 2 สัปดาห์จะพบว่า กลุ่มคนไทยมาจากต่างประเทศสูงเป็นอันดับ 2 ถึงต้องประกาศเรื่องเที่ยวบินเข้ามายังไทย ทำให้กระทบต่อคนเดินทาง ขอให้ทราบว่าเราใช้ตัวเลขบริหารจัดการ