xs
xsm
sm
md
lg

ป่วยโควิดใหม่ลดเหลือ 51 ราย แต่ยังวางใจไม่ได้ อาจกลับมาสูงอีก ยอดสะสม 2,220 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ลดลงเหลือ 51 ราย ตายเพิ่ม 3 ราย พบหนุ่มวัย 28 ปี ดับด้วย ส่วนยอดป่วยสะสม 2,220 ราย กลับบ้านแล้ว 793 ราย ดับรวม 26 ราย พบคนป่วยมาจากต่างประเทศเหลือ 2 ราย สัมผัสผู้ป่วยรายเก่ายังสูง 22 ราย แต่ยังวางใจไม่ได้



วันนี้ (6 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า วันที่ 6 เม.ย. มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 51 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 25 ราย ได้แก่ กลุ่มกลับจากพิธีศาสนา 3 ราย และกลุ่มใกล้ชิดผู้ป่วยรายก่อนหน้า 22 ราย 2. ผู้ป่วยรายใหม่ 19 ราย ได้แก่ คนไทยกลับจากต่างประเทศ 1 ราย คนต่างชาติเข้ามา 1 ราย คนสัมผัสผู้มาจากต่างประเทศ 1 ราย กลุ่มอาชีพเสี่ยง ทำงานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดต่างชาติ 3 ราย บุคลากรทางการแพทย์ 13 ราย ที่เยอะเพราะเป็นตัวเลขสะสม จำนวนนี้เป็นเอกชน 11 ราย และ 3. อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 7 ราย โดยกระจายอยู่ที่ กทม. 27 ราย นนทบุรี และภูเก็ต 4 ราย ชลบุรี 3 ราย สมุทรปราการ ยะลา สุราษฎร์ธานี และพัทลุง 2 ราย ปัตตานี ปทุมธานี อุบลราชธานี นราธิวาส และสระแก้ว 1 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ได้แก่ 1. ชายไทยอายุ 28 ปี เป็นพนักงานบริษัทใน กทม. มีประวัติเพื่อนร่วมงานของภรรยาติดโควิด-19 โดยเริ่มป่วยวันที่ 27 มี.ค. มีไข้ ไอ เจ็บคอ รักษา รพ.เอกชนใน กทม. แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงย้ายไปรักษาที่ จ.สมุทรปราการ โดยวันที่ 4 เม.ย. มีไข้สูง 39.2 ตรวจพบว่าออกซิเจนในเลือดลดลงเหลือ 55 จึงส่งตัวไปรักษา รพ.เอกชนใน กทม. และเก็บตัวอย่างตรวจ ผลออกมาวันที่ 4 เม.ย. ว่า ติดเชื้อไวรัส และเสียชีวิตวันเดียวกันในเวลา 22.00 น.

2. ชายไทยอายุ 51 ปี ทำอาชีพส่วนตัว โดยมีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และอ้วน เริ่มป่วยวันที่ 28 มี.ค. รักษา รพ.เอกชนใน กทม. แรกรับมีอาการไอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ หนาวสั่น วันที่ 29 มี.ค. มารักษาอีกครั้ง และวันที่ 1 เม.ย. มารักษาที่เดิมแล้วแอดมิต โดยมีอาการปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก ออกซิเจนในเลือดน้อยลง ตรวจเอกซเรย์ปอด มีอาการปอดอักเสบรุนแรง รู้ผลว่าติดไวรัสวันที่ 2 เม.ย. และเสียชีวิตวันที่ 4 เม.ย.

3. หญิงไทยอายุ 59 ปี อาชีพค้าขาย มีโรคเบาหวาน ก่อนหน้านี้ ไปเล่นการพนันหลายแห่งใน กทม. เริ่มป่วยวันที่ 29 มี.ค. รักษาใน รพ.เอกชน ที่ กทม. วันที่ 1 เม.ย. โดยแรกรับไม่มีไข้ หายใจหอบเหนื่อย ออกซิเจนลดเหลือ 68 จากการเอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง แพทย์ส่งตรวจเสมหะและโพรงจมูก พบโควิด-19 วันที่ 2 เม.ย. และเสียชีวิต

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สรุปผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 2,220 ราย หายแล้ว 793 ราย เสียชีวิตรวม 26 ราย โดยกระจาย 66 จังหวัด พบว่า กทม.สูงสุด 1,051 ราย นนทบุรี 143 ราย ภูเก็ต 135 ราย สมุทรปราการ 103 ราย และ ชลบุรี 66 ราย เป็นต้น ส่วนจังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยมี 11 ราย คือ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พังงา พิจิตร ระนอง สตูล สิงห์บุรี และ อ่างทอง อย่างไรก็ตาม แม้วันนี้ผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงมาเหลือ 51 ราย แต่ยังไม่มั่นใจ ท่านต้องดูแลตัวเอง คนในครอบครัว เพราะตัวเลขมีขึ้นมีลง โดย 2-3 วันนี้ยังไม่เห็นภาพชัดนัก ยังมีความน่าเป็นห่วง เพราะระบบการรายงานยังมีการรอสอบสวนโรคอยู่ อย่าเพิ่งวางใจ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องเฝ้าระวังคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เนื่องจากตอนนี้มีการระบาดไปทั่วโลก ซึ่งรายงานสถานการณ์ประจำวัน สหรัฐอเมริกายังสูง ทิศทางยังไม่สามารถไว้วางใจได้ แต่ประเทศสเปน เยอรมนี ทิศทางยังทรงๆ หลายๆ ประเทศยังเกาะกลุ่ม ส่วนเอเชียพบว่าที่อินเดียยังน่ากังวลใจ มีประชาชนมาก ส่วนไทยยังอยู่ในระดับกลางๆ ทิศทางพยายามทำให้ลงมาให้ได้ โดยเมื่อวิเคราะห์ผู้ป่วยในไทย พบว่า กทม.มีแนวโน้มลดลง ส่วนต่างจังหวัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้ง กทม.และต่างหวัด พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งเป็นการติดเชื้อจากคนร่วมบ้าน ดังนั้นนอกจากการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว ยังต้องเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลภายในบ้านด้วย อย่าใกล้ชิด สัมผัส กอด หอมกันนั้นขอให้เว้นไปก่อน อาจแสดงความรักกันด้วยวิธีอื่น


































กำลังโหลดความคิดเห็น