ศบค.เผย ติดตาม 158 คนไทยกลับมาจากนอกครบแล้ว นำเข้าสถานที่กักกันตัวที่จัดให้แล้ว ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ เผย เมื่อวันที่ 4 เม.ย. มีกลับมาอีก 2 เที่ยวบิน รวมเกือบ 100 คน ฟุ้งบูรณาการทำงานดี ส่งถึงที่กักตัวไม่เกิน 3 ชั่วโมง ทุกคนพึงพอใจ ส่วนผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ดำเนินคดีแล้ว 325 ราย พบยังมีมั่วสุมดื่มเหล้า เสพยา
วันนี้ (5 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า คนไทย 158 คนที่กลับจากต่างประเทศและออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ติดตามตัวแล้ว นายกฯ ฝากขอบคุณที่ให้ความร่วมมือภาครัฐ ใช้เวลาไม่นานก็เข้าสู่การกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด โดยผู้ที่เข้ามารายงานตัวแบ่งเป็น กลุ่มต่างจังหวัด 65 คน กระจาย 27 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง 7 ราย ภาคเหนือ 6 ราย ภาคอีสาน 8 ราย ภาคใต้ 2 ราย และ ภาคตะวันออก 4 ราย สถานที่กักตัว คือ รพ.ใกล้ภูมิลำเนา โรงแรม หรือ รีสอร์ตที่เข้าร่วม และสถานที่ราชการที่เหมาะสม และกลุ่ม กทม. ปริมณฑล จำนวน 93 คน โดยส่งไปโรงแรม 2 แห่งใน กทม.หรือใกล้เคียง โดยทั้งหมดยังไม่ถือเป็นผู้ป่วย ส่วนบางคนที่มีไข้ต่างๆ สธ.จะเข้าไปดูแลอย่างดีใน 14 วันนี้ ให้มั่นใจว่าไม่ว่าติดเชื้อหรือไม่ก็จะดูแลอย่างดี
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ นายกฯ ได้สั่งการแล้วให้บูรณาการการทำงานในการดำเนินการผู้ที่กลับมาจากต่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 4 เม.ย. มีเที่ยวบินเข้ามา 2 เที่ยวบิน จากมาเลเซีย 51 คน และ กาตาร์ 47 คน ได้บูรณการการทำงานระหว่างกองทัพไทย กระทรวงการต่างประเทศ การท่าอากาศยาน สธ. สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เอกชนโรงแรมต่างๆ ขนส่งของทางคมนาคมและมหาดไทย เกิดผลให้เห็นว่า คนไทยร่วมร้อยคนมาถึงที่นี่ ใช้เวลาในการขนกระเป๋ายืนรอสัมภาระ และรวมตัวกันขนส่งไปโรงแรมที่พักที่เป็นสถานที่กักตัวที่ภาครัฐกำหนดเรียบร้อยดี ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 3 ชั่วโมง ทุกคนพึงพอใจ
“ส่วนคนไทยที่ยังติดค้างอยู่ต่างประเทศ กำลังต่อเครื่องเข้าไทย ต้องขอกราบอภัยที่ต้องรอคอยอยู่ในสนามบินต่างประเทศ สถานทูตทุกแห่งก็เข้าไปดูแลประชาชนของเรา แต่ที่ต้องยืดเวลาออกไป เพื่อให้การเตรียมการฝ่ายทั้งหลายต้อนรับท่านอย่างดีที่สุด เพราะหากเข้ามาหลายร้อยคนก็คงไม่ต่างจากคืนนั้น ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะรับรายชื่อท่าน โดยเฉลี่ยให้เดินทางเข้ามา ประมาณ 200-300 ต่อวัน จะทำให้กระบวนการกักตัวในที่รัฐกำหนด พาไปถึงพื้นที่จัดไว้เป็นไปอย่างดี ทุกท่านจะได้พึงพอใจ เพราะมากันทีละ 200 คน รวม 5 วันก็พันคน สิบวันก็ 2,000 คน พื้นที่รองรับต้องมี และคนหนึ่งต้องกักตัวถึง 14 วัน ก็ต้องระดมทุกกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการประกาศเคอร์ฟิว ช่วง 22.00-04.00 น. ผลงานที่เกิดขึ้นในรอบวันที่ผ่านมาตั้งจุดตรวจ 634 จุด ในพื้นที่ 77 จังหวัด โดยช่วงวันที่ 3-4 เม.ย. มีรถผ่านจุดตรวจทั้งหมด 7,997 คัน รวม 11,610 คน ตรวจพบการกระทำผิด คือ ฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุผลในการเดินทาง 522 คัน รวม 677 คน และการรวมกลุ่มมั่วสุมที่เสี่ยงแพร่เชื้อ เช่น ดื่มสุรา เสพยาเสพติด มี 24 คัน รวมคนทำผิด 41 คน ได้ดำเนินการตักเตือน 375 คน และดำเนินคดี 325 คน ส่วนผู้ขับขี่เวลากลางคืนส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ผู้ปฏิบัติดด้านการแพทย์ และเข้าออกเวรกลางคืน