สธ.แจงเคสผู้ป่วยดับ เพราะไม่ได้วินิจฉัยโควิด-19 ตั้งแต่แรก เหตุผู้ป่วยไม่ได้ให้ประวัติเสี่ยง รับการไม่ให้ข้อมูลความเสี่ยง ทำให้ควบคุมป้องกัน รักษาโควิดได้ยาก ซ้ำส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ วอนขอให้บอกประวัติชัดเจน ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ขอให้ระวังการใช้ชีวิตนอกที่ทำงานด้วย และเลือกช้อุปกรณ์ป้องกันให้เหมาะสม ห่วงหากทั่วโลกระบาดไม่หยุด คุมไม่ได้ อุปกรณ์ป้องกันจะขาดแคลนแน่ เหตุกำลังการผลิตไม่ได้รองรบสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันนี้ (29 มี.ค.) นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข้อคำถามว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายที่ 7 เป็นเพราะไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคตั้งแต่แรก และปล่อยให้กลับบ้าน จนมีอาการรุนแรงในภายหลัง ว่า เคสนี้จัดเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ให้ประวัติเรื่องการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ กรณีการไม่ยอมประวัติทำให้ยากต่อการควบคุมป้องกันโรค และการรักษา ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาเยอะเหมือนกัน อย่างกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มขึ้นก็มาจากการปกปิดข้อมูลเช่นกัน ดังนั้นต้องขอความร่วมมือประชาชนอย่าปกปิดข้อมูล ขอให้บอกทุกอย่างตามความจริงด้วย คนไข้ก่อนไป รพ.คงต้องทราบตัวเองให้ชัดเจนว่า ตัวเราไปไหนมาไหน แะเตรียมประวัติเหล่านี้ให้พร้อม เพราะบางทีไปเจอแพทย์ตื่นเต้น เครียดกลัวเป็นโรค เลยไม่ได้บอก
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเลย จึงอยากให้ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ทั้งระหว่างปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน ที่จะต้องลดความเสี่ยงเหมือนประชากรทั่วไป เพราะไม่ใช่แค่การมีโอกาสติดเชื้อในที่ทำงาน ถ้ายังต้องออกไปซื้อของกิน ใช้ชีวิตประจำวันก็มีโอกาสติดเชื้อในสภาพแวดล้อมได้เหมือนกัน เราไม่อยากให้บุคลากรเราเจ็บป่วย จึงพยายามในหลายๆ ด้าน อย่างอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ก็มีอยู่ในสต๊อกเรียบร้อยแล้ว ประเด็นอยู่ที่การบริหารจัดการ ซึ่งทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ ให้ดูแลในลักษณะเข้าอกเข้าใจ ถ้าของขาดก็มีช่องทางแจ้งมาและส่วนกลางพยายามเต็มที่สนับสนุนลงไปยังพื้นที่ให้เร็วที่สุด
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ การเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันก็ต้องมีความเหมาะสม ยกตัวอย่าง การใส่ท่อช่วยหายใจคนไข้ 1 คน โดยมีคนต้องใส่ชุดป้องกัน 20 คน เพื่อใส่ท่อช่วยหายใจคนเดียว แบบนี้คือการใช้อุปกรณ์มากเกินความจำเป็น ก็ควรเลือกใช้เหมาะสม เพราะไม่ใช่ของมีไม่จำกัด แต่ของมีจำกัด ซึ่งพยากรณ์ล่วงหน้าว่าหากสถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกยังรุนแรงต่อไป ทั่วโลกไม่มีใครคุมสถานการณ์ได้ อุปกรณ์สำคัญหลายชิ้นจะขาดแคลน เพราะกำลังการผลิตไม่ได้เป็นกำลังการผลิตสำหรับทั้งโลกในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เป็นสถานการณ์ปกติ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ใช้ชุดอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม เลือกอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม