อุบลราชธานี - จังหวัดอุบลราชธานีแยกผู้ป่วยโควิด-19 รักษาที่ รพ.สนามกันเชื้อแพร่สู่ผู้ป่วยเรื้อรังโรคอื่น ขณะตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อยังอยู่ที่ 12 รายเป็นวันที่สอง โดยยังไม่พบผู้ป่วย พร้อมเพิ่มรักษาหายแล้ว 9 ราย
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมนายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเข้าตรวจสอบอาคารที่ทำการของโรงพยาบาลสนามใช้รองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ใช้งานทางการแพทย์และเตียงพักรักษาตัวของผู้ป่วย
โดยแบ่งเป็นเตียงผู้ป่วยเฝ้าสังเกตอาการที่ติดเชื้อและมีอาการดีขึ้นจำนวน 48 เตียง ห้องผู้ป่วยไอซียูและห้องใช้แยกผู้ป่วย 17 ห้อง มีแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางโรคระบาดวิทยากว่า 50 คนมาประจำการที่โรงพยาบาลสนามที่จะเริ่มเปิดใช้งานในวันจันทร์ที่ 30 มีนาคมนี้
โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และโรงพยาบาลหลักที่รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดจะย้ายผู้ป่วยทั้งหมดให้มาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งตั้งอยู่ถนนแจ้งสนิท อ.เมือง ตรงข้ามกับสถานีโทรทัศน์ NBT เพื่อเป็นการแยกผู้ป่วยไวรัสโควิดออกจากผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโควิดแพร่ไปถึงผู้ป่วยโรคอื่นที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วย
ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ออกประกาศแจ้งไปยังประชาชนถ้ามีอาการไข้ ไอ และเจ็บหน้าอก รวมทั้งเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้ใช้วิธีโทรศัพท์เข้ามาขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน หากเข้าข่ายติดเชื้อจะจัดช่องทางพิเศษให้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 6 กิโลเมตร โดยไม่ต้องมารับการตรวจที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังได้ออกประกาศห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเข้ามาในโรงพยาบาล พร้อมลดปริมาณญาติที่ต้องการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการนำเชื้อจากนอกโรงพยาบาลมาสู่ผู้ป่วยด้วย
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี วันนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เป็นวันที่สองตั้งแต่ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกของจังหวัดเมื่อกลางเดือน มี.ค.เป็นต้นมา ทำให้จังหวัดมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวม 12 คน และวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มจากเมื่อวาน 6 ราย เป็น 9 ราย รอผลตรวจยืนยันอีก 5 ราย ปัจจุบันมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 8 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่มีอาการรุนแรง
ขณะที่ผู้รักษาหายทั้ง 9 รายได้ส่งตัวไปกักดูอาการต่ออีก 14 วัน ที่ศูนย์ควบคุมโรคมหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตบ้านยางน้อย อ.เขื่องใน และมี 1 คนที่เป็นเซียนมวย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกรักษาหาย และถูกกักตัวดูอาการตามขั้นตอนในศูนย์บ้านยาง อ.เขื่องใน ถูกปล่อยตัวกลับบ้านในวันนี้ด้วย
ส่วนผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงจากต่างประเทศ และพื้นที่การระบาดในประเทศ ซึ่งต้องกักตัวดูอาการที่บ้าน 14 วัน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานเป็น 11,152 คน โดยพ้นระยะกักแล้ว 456 คน อยู่ระหว่างการสังเกตการ 10,696 คน ซึ่งได้ติดตามให้คำแนะนำช่วงกักตัวครบทุกคน