อุบลราชธานี - จังหวัดอุบลราชธานีเอาจริง! ตั้งด่านรอบตัวจังหวัด 23 แห่งสกัดเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมสั่งปิดร้านสะดวกซื้อ ร้านของชำห้ามจำหน่ายสุรา เบียร์ ลดคนออกนอกบ้านตั้งวงสังสรรค์ ขณะผู้ป่วยติดเชื้อยังคงที่ 12 รายเท่าเดิม
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือสั่งให้ร้านสะดวกซื้อทุกประเภทปิดการจำหน่ายสินค้าในเวลา 22.00 น. และเปิดใหม่เวลา 05.00 น. ถึงวันที่ 12 เมษายน และกำลังพิจารณาสั่งห้ามร้านขายของชำไม่ให้จำหน่ายสุราและเบียร์ เพื่อไม่เปิดโอกาสให้มีการตั้งวงสังสรรค์ดื่มสุราตามชุมชนต่างๆ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการทิ้งระยะห่างของสังคมลดการแพร่ระบาดของโรคในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ฝ่ายปกครอง ร่วมกับตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อปพร.เพิ่มการตั้งจุดสกัดคัดกรองประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัด โดยแบ่งจุดสกัดไว้เป็น 2 วงรอบ คือ พื้นที่ส่วนในของจังหวัดรวม 8 เส้นทาง รอบนอกที่ติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง 10 อำเภอ จำนวน 13 จุด
โดยผู้จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัด นอกจากจะถูกตรวจคัดกรองโดยตรวจวัดดูอุณหภูมิของร่างกายแล้ว ยังต้องแจ้งจุดหมายที่ต้องการจะเดินทางไป หรือเป็นทางผ่าน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ส่งต่อข้อมูลและติดตามเฝ้าระวังผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัด
นายสฤษดิ์กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องใช้มาตรการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น เนื่องจากขณะนี้มีผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและจากจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดเข้ามาอยู่ในจังหวัดกว่า 10,000 คน โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วัน
รวมทั้งที่ผ่านมาจังหวัดอุบลราชธานีก็ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงของการแพร่ระบาด เพราะพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 12 ราย อยู่ระหว่างรอผลอีก 5 ราย ทำให้คาดการณ์จะเป็นจังหวัดที่อาจมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าจังหวัดอื่นในภาคอีสาน จึงต้องใช้มาตรการคัดกรองเข้มข้นกว่าปกติเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ให้อยู่ในวงจำกัดให้ได้
สำหรับผู้รักษาหายทั้ง 9 รายได้ส่งตัวไปกักดูอาการต่ออีก 14 วัน ที่ศูนย์ควบคุมโรคมหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตบ้านยางน้อย อ.เขื่องใน และมี 1 คนที่เป็นเซียนมวย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกรักษาหาย และถูกกักตัวดูอาการตามขั้นตอนในศูนย์บ้านยาง อ.เขื่องใน ถูกปล่อยตัวกลับบ้านในวันนี้ด้วย
ส่วนผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงจากต่างประเทศ และพื้นที่การระบาดในประเทศ ซึ่งต้องกักตัวดูอาการที่บ้าน 14 วัน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานเป็น 11,152 คน โดยพ้นระยะกักแล้ว 456 คน อยู่ระหว่างการสังเกตอาการ 10,696 คน ซึ่งได้ติดตามให้คำแนะนำช่วงกักตัวครบทุกคน