อุบลราชธานี-กรมสรรพสามิตร่วม บ.อุบลไบโอเอทานอล ผลิตแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อส่งให้ รพ.สต.กว่า 300 แห่งใน จ.อุบลฯ และอีก 4 จังหวัดอีสานตอนล่างใช้ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 พร้อมขายให้ประชาชนนำไปทำเจลฆ่าเชื้อลดการขาดแคลน
ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายฉลอง นิ่มเนียน สรรพสามิตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นำแอลกอฮอล์บรรจุขวดจำนวน 9,000 ขวด หรือ 3,000 ลิตร ส่งมอบให้กระจายส่งไปช่วยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกว่า 350 แห่งในพื้นที่ 25 อำเภอของจังหวัดไว้ใช้ฆ่าเชื้อ หลังพบว่าช่วงที่ผ่านมา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขาดแคลนแอลกอฮอล์ใช้ฆ่าเชื้ออย่างหนัก
นายฉลอง นิ่มเนียน สรรพสามิตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงการจัดหาแอลกอฮอล์ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใช้ฆ่าเชื้อครั้งนี้ มีบริษัทอุบลไบโอเอทานอลเป็นผู้ผลิตแอลกอฮอล์แล้วส่งมอบให้กับทางสรรพสามิตรวม 15,000 ลิตร เพื่อกระจายลงไปสู่โรงพยาบาลระดับตำบลพื้นที่ 5 จังหวัดอีสานตอนล่าง โดยวันนี้ ได้ส่งมอบให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่แรกจำนวน 3,000 ลิตร ส่วนที่เหลือจะกระจายไปให้ครบทั้ง 5 จังหวัด
สำหรับการกระจายแอลกอฮอล์ให้ประชาชนรายย่อยทั่วไปซื้อทำเป็นเจลล้างมือใช้เองในครัว มีการจัดทำขายเป็นแกลอนละ 4 ลิตร มีประชาชนมาเข้าคิวขอซื้อจากสรรพสามิตไปแล้วกว่า 2,000 ราย โดยจะทยอยขายให้กับประชาชนไปจนกว่าไม่มีความต้องการ เพราะได้รับการยืนยันจากโรงงานยังมีแอลกอฮอล์สำรองอยู่เป็นล้านลิตร
หากประชาชนมีความต้องการมากกว่าที่มีสำรองไว้แล้ว โรงงานสามารถผลิตเพิ่มได้อีกวันละกว่า 400,000 ลิตร จึงเพียงพอแก่ความต้องการของประชาชนแน่นอน
ด้านเภสัชกรหญิงนันทิกร จำปาสา หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกล่าวถึงข้อกังวลการนำเอาแอลกอฮอล์เกรดอุตสาหกรรมมาใช้ฆ่าเชื้ออาจส่งผลต่อสุขภาพประชาชนที่นำไปใช้ว่า คุณภาพแอลกอฮอล์ที่ได้รับจากสำนักงานสรรพสามิตเป็นแอลกอฮอล์ 75 เปอร์เซ็นต์มีการผสมกลีเซอรีน
ส่วนตัวสารตั้งต้นที่เป็นแอลกอฮอล์ที่บริษัทอุบลไบโอเอทานอลปรับปรุงกระบวนการผลิตจากเดิมเป็นเกรดใช้กับน้ำมัน มาเป็นเกรดที่นำมาทำเป็นแอลกอฮอล์ใช้ล้างแผลที่มีขายทั่วไปในร้านขายยา ดังนั้นแอลกอฮอล์ที่ได้รับมาสามารถใช้ล้างมือฆ่าเชื้อได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับแผลเปิด เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้ แต่ถ้าอยู่ที่บ้านให้ใช้สบู่ล้างมือดีที่สุด
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี วันนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวม 12 คน รักษาหายแล้ว 6 ราย รอผลตรวจยืนยันอีก 5 ราย จึงมีผู้รักษาตัวอยู่ 11 ราย แต่ไม่มีอาการรุนแรง โดยผู้รักษาหายทั้ง 6 ราย ได้ส่งตัวไปกักดูอาการต่ออีก 14 วัน ที่ศูนย์ควบคุมโรคมหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตบ้านยางน้อย อ.เขื่องใน
ส่วนผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงที่ยังต้องกักตัวดูอาการที่บ้าน 14 วัน มีจำนวน 10,082 คน โดยพ้นระยะกักแล้ว 407 คน อยู่ระหว่างการสังเกตการ 9,675 คน ซึ่งได้ติดตามให้คำแนะนำช่วงกักตัวครบทุกคน