สธ.แต่งตั้ง คกก.เฉพาะกิจประจำช่องทางเข้าออกประเทศ ทั้งด้านสนามบินและด่านบก เข้มการเข้าออกประเทศ ดึงผู้ตรวจราชการฯ เป็นผู้บัญชาการเหตุการ ประสานขอกำลังเพิ่มจากกลาโหม หนุนการคัดกรองที่สุวรรณภูมิ
วันนี้ (23 มี.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปลัด สธ.ได้มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีข้อสั่งการคือ ในด้านกฎหมาย ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจประจำช่องทางการเข้าออกประเทศ โดยใช้กลไกของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยที่สนามบินสุวรรณภูมิ ให้ผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 6 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ สนามบินดอนเมือง มีผู้ตรวจราชการ สธ.เขต 4 เป็นผู้บัญชาการ สนามบินภูเก็ต ให้ผู้ตรวจ สธ. เขต 11 เป็นผู้บัญชาการ สนามบินเชียงใหม่ ผู้ตรวจ เขต 6 เป็นผู้บัญชาการ เช่นเดียวกับช่องทางการเข้าออกตามด่านทางบก ซึ่งด่านนั้นอยู่ที่จังหวัดใดก็ให้ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตในพื้นที่นั้นเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ อาทิ ด่าน 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีผู้ตรวจฯ เขต 12 เป็นผู้ดูแล ด่านแม่สาย จ.เชียงราย ผู้ตรวจเขต 1 ดูแล ด่านแม่สอด จ.ตาก ผู้ตรวจฯ เขต 2 ดูแล ด่านหนองคาย ผู้ตรวจฯ เขต 8 ดูแล, ด่านอุบลราชธานี ผู้ตรวจฯ เขต 10 ดูแล, สระแก้ว ผู้ตรวจ เขต 6 ดูแล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังประสานขออัตรากำลังสนับสนุนด้านภารกิจการคัดกรอง ที่สนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้กระทรวงกลาโหมเพิ่มเติมเข้ามา ส่วนการส่งต่อผู้ป่วยใน1669 ก็เข้ามาร่วมกัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการประชุมโดย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการโรคติดต่ออุบัติใหม่ ร่วมกับ รพ.ภาครัฐ ร.ร.แพทย์ รพ.เอกชน ใน กทม. เพื่อให้เกิดการบริหารสถานการณ์ กทม.แบบบูรณาการ บริหารเตียงแบบเรียลไทม์ การส่งต่อ ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดป้องกันตัวเอง ให้มีการรายงานผลปฏิบัติการและสิ่งที่ต้องการการสนับสนุนทุกหน่วยงานใน กทม.ทุกวันจันทร์ตอนเช้า และจะปรับสถานการณ์ให้เข้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ส่วนการตรวจในห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันเชื้อ จะมีการตรวจเร็วขึ้นด้วยการตรวจแอนติบอดี อยู่ในกระบวนการของการตรวจสอบความแม่นยำเพื่อให้ใบอนุญาต คิดว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการตรวจแบบใหม่ ส่วนการตรวจหาเชื้อแบบเดิมมี 44 แห่ง คนมีอาการไข้ เจ็บป่วย ก็ได้รับการตรวจจาก 44 แห่งได้