ศบค.เผยผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่ม 54 ราย เสียชีวิต 2 ราย พบเป็นผู้สูงอายุ ป่วยสะสม 2,423 ราย รักษาหาย 940 ราย พบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยอดเพิ่มจากการกลับมาจากอินโดนีเซีย ย้ำ มาตรการยังต้องเข้มงวด พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อรวม 80 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อใน รพ. เป็นพยาบาล 45%
วันนี้ (9 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 54 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รักษาหายเพิ่ม 52 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 2,423 ราย เสียชีวิตรวม 32 ราย รักษาหายรวม 940 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต ได้แก่ 1. ผู้ป่วยชายชาวฝรั่งเศส อายุ 74 ปี ไม่มีโรคประจำตัว เริ่มป่วย 27 มี.ค. ด้วยอาการไข้ ไอ เหนื่อย และปวดท้อง เข้ารับการรักษาที รพ.ใน จ.ชลบุรี เอกซเรย์พบปอดอักเสบ มีผลตรวจยืนยันเป็นโควิด-19 ต่อมาวันที่ 7 เม.ย. มีอาการหายใจเหนื่อยหอบมากขึ้น ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในวันเดียวกัน และ 2. ผู้ป่วยชายไทย อายุ 82 ปี มีอาการป่วยวันที่ 25 มี.ค. มีไข้ 38.5 องศาเซลเซียส ไอ เหนื่อย ไปรักษา รพ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทราปราการ วันที่ 30 มี.ค. มีอาการเหนื่อยมากขึ้น แพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แต่อาการไม่ดีขึ้น ไม่รู้สึกตัว และเสียชีวิตวันที่ 8 เม.ย.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 54 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1. ผู้ป่วยรายใหม่ 49 ราย แบ่งเป็น กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 22 ราย ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.คือ 11 ราย คนต่างชาติเข้ามา 2 ราย คนไทยกลับมา 3 ราย บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย ไปสถานที่ชุมชน 4 ราย อาชีพเสี่ยง 8 ราย และกลุ่มรอสอบสวนโรค 6 ราย และ 2. ผู้ที่กลับมาจากอินโดนีเซีย 5 ราย มาจาก กทม.มากที่สุด 21 ราย ปัตตานี 11 คน ชลบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต 3 คน ยะลา 2 คน เชียงใหม่ ชัยภูมิ ตรัง นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส พัทลุง พิษณุโลก ลำปาง สมุทรปราการ 1 คน สำหรับผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศ 2,423 ราย กระจายรักษาใน 67 จังหวัด อัตราการป่วยยังคงเป็นภูเก็ต 38.95 คนต่อแสนประชากร ทั้งนี้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาจากการกลับมาจากอินโดนีเซีย
“ภูเก็ตเริ่มลดลง เพราะมีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก เจาะบางกลุ่มบางพื้นที่แล้วลงเข้าไปตรวจแล้วดึงเข้ามารับการรักษา ทำให้การแพร่กระจายเชื้อลดลงไป สำหรับพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด วันก่อนคนของเราติด 38 ราย วันนี้ 54 ราย ยังไม่พึงพอใจ ยังต้องเข้มงวดทุกมาตรการ ทั้งส่วนตัวและสังคม” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ข้อมูลตั้งแต่ ม.ค. - 8 เม.ย. มีติดเชื้อไป 80 ราย คิดเป็น 3.4% ของผู้ป่วยทั้งหมด พบเป็นการติดเชื้อในรพ. มากกว่า คือ 50 ราย หรือ 60.5% เกี่ยวกับผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน แผนกฉุกเฉิน ทันตกรรม ห้องปฏิบัติการ พนักงานสนับสนุน และติดเชื้อในชุมชน 18 ราย คิดเป็น 22.5% อยูระหว่างสอบสวน 12 ราย ถึงมีประเด็นเน้นย้ำ คนไข้หากมีไข้ จะต้องบอก แพทย์จะได้ปกป้องตัวเอง และอย่าไปคลินิกปกติ ให้ไปคลินิกโรคทางเดินหายใจ หากไม่ทำเช่นนี้จะทำให้เกิดการติดเชื้อ โดยพบว่าพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลติด 36 คนหรือ 45% แพทย์ 16 คนหรือ 20% เมื่อติดก็ต้องหยุดทำงานเข้า รพ.เพื่อดูอาการ คนอยู่รอบข้างหมอก็หมอด้วยกัน พยาบาลด้วยกันก็โดนกักตัวไปด้วย ที่ตามมาคือการกระทบการให้บริการประชาชนคนอื่นทั้งหมด