xs
xsm
sm
md
lg

7 วิธีแปรเปลี่ยนปัญหาเป็นแรงผลักดัน/ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงเวลาที่สิ่งต่างๆรอบตัวไม่ราบรื่นอย่างที่เคยเป็น สถานการณ์โรคระบาดและผลกระทบที่ตามมา การเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ปัญหารายได้และการจ้างงาน ความยากลำบากในการใช้ชีวิต ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาในชีวิตที่เข้ามาพร้อมๆกันจนตั้งตัวไม่ติด ในความคิดมีแต่ความเครียดและวิตกกังวลที่ไม่รู้ว่าจะหาทางออกไปได้อย่างไร

ปัญหากับการแก้ไขเป็นสิ่งที่อยู่กับคนเราเสมอมา โดยปกติแล้วคนเราจะมีวิธีตอบสนองต่อปัญหาด้วย 3 แนวทางที่แตกต่างกัน คือ 1) แปรเปลี่ยนปัญหาเป็นแรงผลักดัน 2) ปล่อยทุกอย่างเป็นไปในแบบของมันเอง หรือ 3) เก็บปัญหามาคิดวิตกกังวลจนเกิดความเครียด แน่นอนว่าการตอบสนองต่อปัญหาด้วยแนวทางสุดท้ายเป็นกลุ่มคนที่ต้องการกำลังใจมากที่สุดในเวลานี้

การไม่เข้าใจสภาพปัญหา คิดหาวิธีแก้ไขไม่ได้ในเวลาอันสั้น กลัวความผิดพลาดและความล้มเหลวที่จะตามมา ขาดกำลังและทรัพยากรที่จะต่อสู้ หรือจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งบั่นทอนกำลังใจ ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาให้ดีขึ้นได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มปัญหาให้กับตัวเองทั้งในแง่สุขภาพกายที่ทรุดโทรมลงจากความเครียด คิดมากจนนอนไม่หลับ ไม่อยากอาหารหรือเลือกพึ่งพายาเสพติด และสุขภาพใจที่มีผลต่อพฤติกรรมหงุดหงิด ก้าวร้าว ขาดความยับยั้งชั่งใจหรือมีอาการซึมเศร้าและสิ้นหวัง

เมื่อทุกคนรู้ดีว่าปัญหาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต จึงต้องอาศัยจิตใจที่เข้มแข็งในการผลักดันร่างกายและความคิดเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นสำคัญ ต่อไปนี้เป็น 7 วิธีที่จะช่วยให้เราแปรเปลี่ยนปัญหาเป็นแรงผลักดันได้ในที่สุด

1.มองโลกในแง่ดี – แม้จะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากโดยเฉพาะในเวลาที่ปัญหาเข้ามารุมเร้า แต่การพยายามยอมรับและเข้าใจสิ่งที่เป็นไป อาทิ การยอมรับว่าปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ความเข้าใจว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกและจะผ่านพ้นไปในไม่ช้า นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเสริมสร้างกำลังใจซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ดีกว่าการโทษสิ่งต่างๆรอบตัวว่าเป็นสาเหตุของปัญหา

2.เชื่อมั่นในตัวเอง – นอกจากจำเป็นต้องมีมุมมองและทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่อยู่รอบตัวแล้ว การมองเห็นและยอมรับคุณค่าในตัวเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเองว่าในที่สุดแล้วตัวเราจะสามารถหาทางออกให้กับปัญหาต่างๆได้ ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ทำให้ไม่ว่าจะต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคใดๆที่เข้ามาในชีวิต ก็จะสามารถเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความมั่นใจเข้ามาแทนที่

3.สำรวจสิ่งที่มี – การให้เวลากับการทำความเข้าใจถึงที่มาและสภาพของปัญหาจะช่วยให้เราสำรวจและประเมินสิ่งที่เรามีและสามารถใช้ในการคลี่คลายปัญหาได้อย่างรอบคอบและตรงจุด พร้อมกันนั้นปัญหายังช่วยกระตุ้นให้เราเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองทั้งในด้านความคิดและจิตใจให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันหรือเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

4.เรียนรู้จากคนอื่น – การติดตามข้อมูลข่าวสารทำให้รู้เท่าทันสถานการณ์และเตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ดีขึ้น ขณะที่การเรียนรู้ความสำเร็จและความผิดพลาดจากประสบการณ์ของคนอื่นนอกจากจะช่วยย่นระยะเวลาในการพิจารณาหาทางออกที่เหมาะในแต่ละสถานการณ์แล้ว ยังทำให้เราคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้นซึ่งเป็นแรงผลักดันที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจในการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี

5.สร้างทางเลือกให้ตัวเอง – คำกล่าวที่ว่า “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส” นั้นสามารถหยิบมาใช้ได้เสมอตราบเท่าที่เรามองโลกในแง่ดีและหาโอกาสให้กับตัวเอง เมื่อเกิดปัญหาเป็นเวลาที่เราจะได้ทบทวนทางเลือกอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าเราอาจแก้ปัญหาโดยการกลับไปที่เดิมหรืออาจเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ก็เป็นได้ แม้ว่าบ่อยครั้งจะดูเหมือนเป็นการปลอบใจตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นการผลักดันตัวเองให้คิดถึงสิ่งอื่นบ้าง

6.ให้เวลากับครอบครัว – การทำให้ปัญหาเป็นเรื่องลับๆและเก็บความวิตกกังวลเอาไว้คนเดียวสามารถสร้างบรรยากาศขุ่นมัวและความไม่สบายให้กับคนใกล้ชิดโดยไม่รู้ตัว แทนที่จะสามารถแก้ปัญหาได้กลับสร้างปัญหาใหม่ให้ตัวเองและคนอื่น การพูดคุย ขอคำแนะนำหรือความเห็นใจจากคนใกล้ชิดนอกจากจะเสริมสร้างความเข้าใจและกำลังใจให้กันแล้ว ยังอาจมีคนช่วยคลี่คลายปัญหาให้ได้อย่างคาดไม่ถึง

7.ให้เวลากับตัวเอง – หากคนเรารู้สึกเหนื่อยล้า สับสน จมอยู่กับปัญหาและเต็มไปด้วยความเครียดก็เป็นเรื่องยากที่จะมีแรงกายและแรงใจในการต่อสู้กับปัญหา การดูแลสภาพร่างกายและจิตใจให้รู้สึกผ่อนคลายจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะสามารถผลักดันความคิด ความตั้งใจและการลงมือแก้ไขปัญหาไปได้ตลอดรอดฝั่ง รวมทั้งใช้โอกาสนี้ในการตั้งเป้าหมาย วางแผนและจัดระเบียบการใช้ชีวิตในด้านต่างๆให้เกิดความสมดุล ตลอดจนหลีกเลี่ยงการพึ่งพาอบายมุขทั้งสิ่งเสพติดและการพนันเพื่อไม่เพิ่มปัญหาให้กับตัวเอง

“ทุกปัญหามีทางออก” น่าจะเป็นข้อความที่สรุปได้ดีที่สุด แต่การจะหาทางออกได้นั้นสิ่งสำคัญคือการเสริมสร้างกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหา ซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใด ปัญหาก็จะสามารถคลี่คลายลงได้ในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น