บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย และสิ่งของต้องห้ามฝากส่งผ่านเส้นทางไปรษณีย์ ตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 หากพบผู้กระทำผิด จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมายหรือยาเสพติดผ่านเส้นทางไปรษณีย์ที่เคร่งครัดมาโดยตลอด หลังมีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวขนส่งเอกชนนำบัตรประชาชนของผู้เสียหายไปลักลอบฝากส่งยาเสพติด โดย 3 มาตรการของไปรษณีย์ไทยมีตั้งแต่การแสดงบัตรประชาชน การติดตั้งกล้องวงจรปิด และการเอ็กซเรย์สิ่งของ
การให้ผู้ใช้บริการแสดงบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งก่อนการฝากส่ง เป็นไปตามตามมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อให้สามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีที่พบการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย และส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่การติดตั้งกล้องวงจรปิด ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ จะสามารถบันทึกภาพขณะที่ผู้ใช้บริการทำการฝากส่งสิ่งของ เพื่อตรวจสอบหาผู้กระทำผิดที่ทำการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย
และการเอ็กซเรย์สิ่งของ ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ จะสามารถป้องกันการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมายไปยังต่างประเทศ
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังกำหนดสิ่งของต้องห้ามฝากส่งตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หากผู้ใช้บริการฝ่าฝืนส่งยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านเส้นทางไปรษณีย์ ไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ และสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปได้อย่างแน่นอน
สำหรับสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. สิ่งลามกอนาจาร 4. วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ 5. วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน 6. ธนบัตร และ 7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์ หากตรวจพบผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่จะสอบถามและตรวจสอบสิ่งของดังกล่าว และส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที