หมอระบาด ชี้ COVID-19 ในไทยยังเป็นระยะ 2 เหตุระบาดยังไม่เกิน 4 รุ่น สามารถติดตามหยุดแพร่กระจายต่อได้ ย้ำระดับพื้นที่ช่วยกันป้องกัน คนมาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัวเอง 14 วัน แยกตัวแยกสำรับ ต้องจัดการวินัยคนในชาติ ยืดระยะ 3 ออกไปได้ สธ.แจงไม่บอกสถานที่มีผู้ป่วย เพราะเป็นเรื่องพฤติกรรม ไม่เกี่ยวสถานที่ ที่ไหนก็เกิดเหตุได้
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ กรรมการวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และนายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกัน กล่าวว่า จากกรณีพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 กลุ่มก้อนจำนวน 11 คน ทำให้ประชาชนตกใจและเกิดคำถามว่าระบาดระยะ 3 หรือยัง ทั้งนี้ การระบาดระยะ 3 จะพิจารณาที่ 1.การระบาดติดต่อในวงกว้างหลายพื้นที่ ซึ่งไทยยังไม่มี 2.ระบาดติดต่อกันเกิน 4 รุ่น ถ้าไปถึงตรงนั้นจะติดตามยาก แต่ตอนนี้ยังไม่พบการติดต่อถึง 4 รุ่น ส่วนใหญ่หยุดได้ตรงรุ่นที่ 2 ส่วนรุ่นที่ 3 พบประปราย และ 3.เป็นการระบาดติดต่อกันอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ขณะนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำงานกันเกิน 100% อยู่แล้ว แต่ก็อยากขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันหยุดยั้งโรคนี้ไม่ให้กระจายหลายพื้นที่ หลายทอด รวดเร็ว
นพ.พรเทพ กล่าวว่า ดังนั้นขอให้ในระดับพื้นที่มีการตั้งกรรมการในพื้นที่ของตัวเอง คอนโด นิติบุคคล ต้องมีกรรมการมาช่วยดู วัดไข้คนเข้าคอนโดทุกวัน ช่วยกันตรวจว่าใครป่วย ถ้าไม่ช่วยกัน รู้ว่าระดับ 3 ไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องช่วยกันเฝ้าระวังร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในตำบล หมู่บ้าน ต้องช่วยกันทำงานอย่างจริงจัง ขอร้องทุกคนยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศทั้งหมด ขอร้องให้เลิกจัดงานที่มีคนมากกว่า 100 คน คนที่กลับมาจากประเทศเสี่ยงงดกินเลี้ยง สังสรรค์คนหมู่มาก กักตัวเอง 14 วัน แยกตัว แยกสำรับ ส่วนประชาชนที่ไม่ป่วยสวมหน้ากากผ้า พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และที่สำคัญคือช้อนกลาง ทุกคนต้องมีวินัย ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร ควรจัดที่นั่งระยะห่างไม่น้อยกว่า 75 เซนติเมตร ตรวจวัดอุณหภูมิ มีเจลล้างมือด้วย
“อยากให้ประชาชนมีความหวังว่าเราไม่ได้เลวร้ายเลย เพียงแต่เรายังไม่สามารถจัดการวินัยคนในชาติได้ ผมเลิกกิจกรรมพบปะเพื่อนลดความเสี่ยง ถ้าจำเป็นต้องไปก็ขอให้เป็นกลุ่มเล็ก 3-5 คน ในบางประเทศที่มีการระบาดเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ เขาต้องเลือก และไม่ใช่เครื่องนั้นกับคนอายุเกิน 65 ปี ผมมั่นใจว่าประเทศไทยไม่เป็นอย่างนั้น เพราะกระทรวงสาธารณสุขเตรียมไว้มากทั้งเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เตรียมระบบรองรับทุกอย่าง แต่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ ฉากทัศน์ที่จะเกิดความรุนแรงขอให้ยืดไปให้ได้สัก 1 ปี ซึ่งเรายืดได้มา 3 เดือนแล้ว ทุกคนต้องช่วยกัน คนที่เขาต้องกักตัว เป็นเรื่องดีที่ชุมชนต้องช่วยกัน ถ้าไปผลักไสเขา คนเหล่านี้จะหลบอยู่ใต้ดินแล้วเราตามไม่ได้จะเกิดวิบัติใหญ่ จะเกิดการแพร่ระบาดใหญ่อย่างที่เกิดในหลายประเทศที่เกิดขึ้นมา” นพ.พรเทพ กล่าวว่า
เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยสถานที่ที่ผู้ป่วยไป เพื่อให้ประชาชนได้ระวังตัว นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยกลุ่มก้อนที่เกี่ยวข้องกับคนฮ่องกงนั้น สอบสวนเพิ่มเติมพบว่ามีคนร่วมกรุ๊ป 18 คน อย่างไรก็ตาม การรู้ว่าไปพื้นที่ไหนมาบ้างนั้นไม่ได้มีความสำคัญ ความสำคัญมันอยู่ที่คนป่วยไม่ควรออกไปสังสรรค์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของพฤติกรรม ถ้าเขาไม่แยกตัว ไม่ใช่ร้านเอ ก็เป็นร้านบี ซึ่งสถานบันเทิงอากาศเย็น คนมาก เสียงดังต้องตะโกน ก็มีโอกาสที่น้ำมูกน้ำลายออกมา ไม่เกี่ยวว่าร้านใด แต่ป่วยก็ไม่ควรไป แล้วทางสถานที่นั้นๆ เขาก็ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อแล้วก็จบ เรื่องนี้เป็นเรื่องของพฤติกรรม