xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ยังไม่รู้รายชื่อ “ผีน้อย” แต่กลับจากเกาหลีมีไข้ ส่ง รพ.วินิจฉัยโควิด-19 ตามปกติ วอนโทร.แจ้ง 1422 หากกลับถึงไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เผยไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ สะสมคงเดิม 43 ราย พร้อมออกประกาศเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเชื้อโรคควบคุมกลุ่มที่ 3 ห้องแล็บที่ครอบครองเชื้อต้องขออนุญาต แจงข่าวส่ง ผีน้อย เข้า รพ.เป็นมาตรการปกติ หากกลับจากพื้นที่เสี่ยงแล้วมีไข้ ถือเป็นผู้ป่วยสอบสวนโรค ต้องนำส่ง รพ.วินิจฉัยต่อ แต่ สธ.ไม่รู้เป็นผีน้อยหรือไม่ วอนผีน้อยที่กลับถึงไทยแล้วโทร.แจ้ง 1422 เพื่อติดตามดูแล ส่วนที่ยังอยู่เกาหลีใต้เร่งประสานขอรายชื่อหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมหารือวางแผนการดูแลหากกลับประเทศไทย

วันนี้ (3 มี.ค.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ โดยผู้ป่วยยืนยันสะสม 43 ราย รักษาหายแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาอยู่ใน รพ.11 ราย สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักโดยรายที่มีวัณโรคร่วมด้วยไม่พบเชื้อโควิด-19 นานแล้ว ขณะนี้เป็นการรักษาวัณโรค และภาวะแทรกซ้อน อาการยังทรงตัว ส่วนประเทศที่ควรหลีกเลี่ยงในการเดินทางเพราะมีการระบาด จะมีการอัปเดตสถานการณ์ทางเว็บไซต์กรมควบคุมโรค หน่วยงานใดองค์กรรัฐและเอกชนใดที่จะห้ามบุคลากรเดินทางก้สามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้มี 8 ประเทศ ได้แก่ จีน (ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิตาลี อิหร่าน ฝรั่งเศส และเยอรมนี

นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) มีทั้งหมด 3,519 ราย กลับบ้านแล้ว 2,099 ราย ยังอยู่ใน รพ.1,420 ราย จากการขยายเกณฑ์การคัดกรองมากขึ้นทำให้แต่ละวันที่ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มขึ้นเป็นวันละประมาณ 300 ราย โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องอยู่ในห้องแยกโรค รพ. ส่วนผู้สัมผัสผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เนื่องจากยังไม่เป็นผู้ป่วย ไม่มีอาการ แนะนำให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน นับจากวันสัมผัสสุดท้าย โดยเจ้าหน้าที่ติดตามทุกวัน หากมีไข้เมื่อไหร่ก็จะเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ส่วนผู้กลับจากพื้นที่ระบาดขอให้ลดกิจกรรมทางสังคมลง อย่าไปในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น หากออกไปให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ สังเกตอาการตนเองที่บ้าน 14 วัน หากมีไข้ไอเจ็บคอให้พบแพทย์ทันที แจ้งประวัติเดินทาง หรือโทร.1422 ส่วนกลุ่มที่อยู่ในชุมชนเดียวกับผู้ป่วย และประชาชนทั่วไป ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากเมื่อเข้าที่คนอยู่จำนวนมาก ผู้มีอาการเข้าข่ายไม่ต้องกลัวหรือปกปิด เราดูแลได้ดีพอสมควร สังคมอย่าตีตรา มิเช่นนั้นความร่วมมือจะหายไป

นพ.โอภาสกล่าวว่า ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ลงนามออกประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือศัพท์ตามวิทยาศาสตร์ คือ SARS-CoV2 เป็นเชื้อโรคที่ต้องควบคุมตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ. 2558 โดยออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งการที่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ดังกล่าวเพราะเป็นไวรัสโคโรนากลุ่มเดียวกันกับโรคซาร์ส หรือก็คือซาร์สเวอร์ชัน 2 ที่มีความรุนแรงน้อยกว่าซาร์ส แต่ระบาดติดต่อกันง่ายกว่า การประกาศนี้จะกำหนดให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเชื้อโรคควบคุมกลุ่มที่ 3 เช่นเดียวกับซาร์ส ผู้ใดต้องการครอบครองเพื่อผลิต จำหน่าย ส่งออก ส่งต่อ ต้องขออนุญาต ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมในห้องปฏิบัติการที่มีเชื้อนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเชื้อโรคนี้ในตัวคน หรือในสถานพยาบาลที่วินิจฉัยโรค และประชาชนทั่วไป

เมื่อถามถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมาย (ผีน้อย) ในเกาหลีใต้ที่จะเดินทางกลับมา และมีผีน้อยบางส่วนที่เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว และมีการนำส่ง รพ.แล้ว นพ.โอภาสกล่าวว่า กรณีตรวจพบที่สนามบิน 8 คน ตนยังไม่ทราบข้อมูล แต่ผู้ที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ก็มีการคัดกรองตามปกติ หากมีไข้มีอาการก็จะเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ก็ต้องเข้าห้องแยกโรคและมาวินิจฉัย แต่เราจะไม่รู้ว่าเป็นผีน้อยหรือไม่ ซึ่งการจะรู้ว่าเป็นผีน้อยหรือไม่ ต้องประสานขอข้อมูลรายชื่อจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผีน้อยที่ถึงไทยแล้วและไม่มีอาการ ก็ขอให้โทร.เข้ามาที่ 1422 เพื่อแจ้งข้อมูล ก็จะช่วยประเทศได้เยอะในการติดตาม สำหรับคนที่ทราบว่ามีผีน้อยกลับมา เช่น อาจะอยู่ข้างบ้าน หรือเป็นคนรู้จัก ก็อาจโทร.แจ้งข้อมูล 1422 ได้เช่นกัน ซึ่งเราจะเก็บข้อมูลเป็นความลับและลงไปติดตามดูแล แต่ขอแค่ว่าอย่าแสดงความรังเกียจ เพราะอาจทำให้ผู้ที่กลับมาปกปิดข้อมูล และหากทราบชื่อว่าอยู่ตรงไหน ก็สามารถให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไปติดตามได้

นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับผีน้อยที่เตรียมจะกลับมานั้น สิ่งสำคัญต้องรู้ข้อมูลว่ามีอยู่กี่คน อยู่ที่เมืองใดบ้าง และหากรู้รายชื่อก็ยิ่งดี ขณะนี้กำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอรายชื่อเพื่อนำมาติดตามดูแล และอยู่ระหว่างการหารือเพื่อวางแผนในการดูแลรับคนไทยกลุ่มนี้กลับมาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งอยู่บนพื้นฐานการคำนึงความปลอดภัยของประชาชนในประเทศมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจนบางข่าวก็ว่า 5 พันคน หรืออาจจะมีมากเป็นแสนคน ก็ต้องรอข้อมูลจำนวนคน รายชื่อ และเมืองที่กลับมาก่อน เพื่อกำหนดแนวทางการดูแลได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่โดยหลักเมื่อเข้ามาแล้วเป็นไข้ก็ต้องเข้าห้องแยกโรค แต่ไม่รู้ว่าจะมีกี่คน ก็ต้องเตรียมความพร้อม รพ.ต่างๆ ไว้รองรับ ถ้าไม่มีไข้ก็ต้องกักกัน แต่จะกักแบบไหนต้องดูว่า มาจากเมืองไหนด้วย เพราะไม่ได้ระบาดทั่วประเทศ บางเมืองระบาด บางเมืองไม่มี ดูความเสี่ยงมากน้อย และจำนวนที่เข้ามาด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น