สถาบันบำราศฯ เผยผลตรวจแล็บรอบ 2 ด.ช.ชาวจีน ป่วยหลังมาจากอู่ฮั่น เป็นไข้หวัดใหญ่ อาการดีขึ้นให้กลับบ้านแล้ว ส่วน นศ.หญิงอีก 2 ราย รอผลตรวจรอบ 2 เบื้องต้นเจอไข้หวัดใหญ่และแบคทีเรีย หากผลรอบ 2 ปกติให้กลับบ้านได้เช่นกัน
วันนี้ (7 ม.ค.) นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการไข้หลังเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เพื่อเฝ้าระวังกรณีมีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ว่า ผู้ป่วยทั้ง 3 รายที่อยู่ในห้องแยกโรคของสถาบันบำราศฯ นั้น ในส่วนของผู้ป่วยรายแรกที่เป็นเด็กชายชาวจีนอายุ 3 ขวบ ขณะนี้ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ในครั้งที่ 2 ออกมาแล้ว ให้ผลเหมือนกับผลตรวจครั้งแรก คือ เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H3N2 และไม่ได้มีเชื้อไวรัสอันตรายอะไร ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีไข้ ก็อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว แต่จะยังมีการติดตามสอบถามอาการอย่างต่อเนื่อง
นพ.อภิชาต กล่าวว่า สำหรับรายที่สอง นักศึกษาหญิงอายุ 24 ปี ซึ่งผลตรวจแล็บครั้งแรกออกมาเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C ขณะนี้ยังรอผลตรวจแล็บครั้งที่ 2 อยู่ รายที่สาม นักศึกษาหญิงอายุ 22 ปี ผลตรวจแล็บครั้งแรกออกมาพบว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจมาจากเชื้อแบคทีเรีย และอยู่ระหว่างการรอผลตรวจแล็บครั้งที่ 2 ทั้งนี้ นักศึกษาหญิงทั้งสองรายอาการดีขึ้น ไม่มีภาวะปอดอักเสบ คาดว่าจะรู้ผลในวันที่ 8 ม.ค. 2563 ซึ่งหากผลออกมาไม่ได้มีอะไรผิดปกติก็สามารถให้กลับบ้านได้เช่นกัน ขณะที่ผู้ป่วยรายที่ 4 ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เอกชน จากการสอบถามพบว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้มีการประสานเพื่อส่งตัวมายังสถาบันบำราศฯ แต่อย่างใด
"ระหว่างนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือจากโรงพยาบาลว่ามีการตรวจพบผู้ป่วยที่มาจากเมืองอู๋ฮั่นรายใหม่ ยังคงมีแค่ 4 รายดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ป่วยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเข้าใจถึงระบบการดูแลเฝ้าระวังโรค ส่วนห้องแยกโรคความดันลบทั้ง15 ห้องของทางสถาบันฯก็มีความพร้อมในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนกับห้องพิเศษทุกประการผู้ป่วจึงไม่มีภาวะเครียดใดๆ" นพ.อภิชาตกล่าว