"อนุทิน" เปิดคลินิกกัญชาใน สธ. ให้บริการทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน รองรับคนรอบ กทม. ลงทะเบียนเข้ารับบริการยาวถึง มี.ค.ร่วมเกือบ 2 พันคน เร่งจัดส่งยากัญชาถึง รพ.ที่มีคลินิก หลังเจอปัญหายายังขาด ไปไม่ถึง เล็งหารือ อย. กรมการแพทย์ แก้ประกาศปลดล็อก "หมอแผนปัจจุบัน" จ่ายยากัญชาแผนไทยได้ เหตุผ่านการอบรมมาเหมือนกัน จ่อชง คกก.ยาเสพติดให้น้ำมันเดชาเป็นตำรับยากัญชาแผนไทยตัวที่ 17
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่อาคารพิพิธภัณฑ์การสาธารณสุขและการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน ว่า คลินิกนี้จะให้บริการแบบผสมผสาน ทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้าน และแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนรอบกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าถึงการรักษาด้วยตำรับยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของกัญชา เบื้องต้นมี 4 ตำรับ คือ ยาศุขไสยาศน์ ทำลายพระสุเมรุ ยาแก้ลมแก้เส้น และน้ำมันกัญชาสูตร อ.เดชา ศิริภัทร โดยคลินิกนี้จะเป็นต้นแบบของคลินิกกัญชาทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลระดับจังหวัดมีการตั้งคลินิกกัญชารออยู่แล้ว มีการส่งแพทย์ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบันเข้ารับการอบรม แต่ที่ได้ยังติดอยู่คือสารสกัดกัญชายังมีไม่พอ ตัวยายังไปไม่ถึง ขณะนี้ได้อนุมัติให้จัดส่งไปถึงคลินิกกัญชาทั่วประเทศ ก็น่าจะได้รับการตอบรับที่ดี
นายอนุทิน กล่าวว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาผลการรักษาด้วยสารสกัดกัญชาให้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทุเลาอาการเจ็บป่วย ก็จะส่งเสริมให้รักษาได้อย่างแพร่หลายต่อไป โดยจากนี้จะเก็บข้อมูลการรักษาให้มากที่สุด ว่าผลการรักษาเป็นอย่างไร สมมติหยอดแล้วเกินครึ่งหนึ่งได้ผล นอนหลับได้ หมดความเครียด รักษาเรื่องความจำเสื่อมได้ ลมชักได้ ผลออกมามากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือมีนัยยะสำคัญก็สามารถนำไปผลักดัน ซึ่งเราไม่ได้ตั้งกรอบจำกัดตัวเองไว้ ก็ทำทุกวัน ยังเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ยากัญชายังอยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติ การรักษา สธ.จึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เพราะเหมือนกับการศึกษาผลของสารสกัดกัญชาว่า สรรพคุณเป็นไปตามคาดหมายหรือไม่ หากเป็น ก็หาวิธีผลักดันให้อยู่ในบัญชียาหลักฯ ต่อไป เพราะต้นทุนยังไม่มาก ที่ทำอยู่ก็ได้รับของกลางมาจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เราก็ใช้ทุกวิถีทางที่ไม่ใช้งบประมาณมากเกินกว่าจะรับได้ แต่หน้าที่ของ สธ.คือ ต้องรักษาคนป่วย ถ้าได้ผลก็ยินดีจัดสรรงบประมาณมาดูแลภายใต้กฎหมายที่อนุญาตให้เราทำ
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่สามารถจ่ายยากัญชาของแผนไทยได้ เพราะเรามัวแต่เน้นเรื่องเสรี การผลิตให้มาก ตรงนี้อาจจะหลุดไป อย่างไรก็ตาม ในเมื่อแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกที่ผ่านการอบรมสามารถจ่ายยากัญชาแผนไทยได้ แพทย์แผนปัจจุบันซึ่งรับการอบรมรักษาโรคด้วยสารสกัดกัญชา มีความรู้ความเข้าใจ และรับประกาศนียบัตรไปแล้ว ก็ต้องมีสิทธิที่จะจ่ายยาที่เป็นสารสกัดกัญชาเหมือนแพทย์แผนไทย ก็ต้องไปแก้กฎกระทรวง โดยคงต้องหารือกับเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และอธิบดีกรมการแพทย์
"กัญชาเสรียืนยันว่าเป็นกัญชาเสรีทางการแพทย์ ไม่ใช่เอามาสูบแล้วเกิดอาการไฮ สนุกสนาน ซึ่งขณะนี้ก็ถือว่าเสรีทางการแพทย์แล้วระดับหนึ่ง เช่น ชาวบ้าน เกษตรกร วิสาหกิจชุมชนมาร่วมกับภาครัฐ อย่าง รพ.รัฐ มหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์ เพื่อปลูกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทางการแพทย์เท่านั้น รายได้ก็เข้าวิสาหกิจชุมชน ตรงนี้ต้องค่อยๆ แก้ไขไป พยายามทำให้เกิดขึ้นเดินหน้าโดยเร็วที่สุด เพราะหากจะให้เสรีจัดๆ ก็ต้องออกกฎหมายใหม่ ซึ่งทราบดีว่า การออกกฎหมายใหม่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องใช้เวลานานมาก ก็จะหาวิธีเดินหน้าต่อ ดูระเบียบข้อบังคับใน สธ. อันไหนทำได้ก็เข้าไปทุกซอย อย่างเรื่องสารสกัดจากกัญชงก็อยู่ระหว่างการออกกฎหมายให้สามารถนำมาใช้ได้ ส่วนเรื่อง 6 ต้น กฎหมายเสนอเข้าไปแล้ว ก้ต้องรอไปตามกระบวนการ" นายอนุทินกล่าว
นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ผู้ป่วยที่เข้ามาจะผ่านจุดคัดกรองก่อนเบื้องต้น จากนั้นจึงจะเข้าห้องตรวจ วันนี้มีผู้ลงทะเบียนได้ประมาณ 368 ราย และถึงวันที่ 31 มี.ค.ประมาณ 1,900 กว่าคน สำหรับการเปิดคลินิกแห่งนี้จุดสำคัญ คือ เราต้องการให้กล้าจ่ายยากัญชาแผนไทยมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาได้รับยาน้อย ประมาณ 20% ซึ่งต้องบอกว่าผลข้างเคียงน้อย แต่หลังจากทำความเข้าใจก็มีการจ่ายยามากขึ้นประมาณ 95% ส่วนการกระจายยาไปทั่วประเทศ มีการติดต่อบริษัทที่จะกระจายรับส่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีใบรับรองจำหน่ายถูกต้อง หากแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลอยากได้ประสานมาเราจัดให้หมดเลย สำหรับผู้ป่วยที่รับยาในระบบของเรามีประมาณ 3 พันกว่าราย ส่วนยาที่มีการใช้เยอะสุดคือน้ำมันเดชาและศุขไสยาศน์ อย่างน้ำมันเดชาเรามีมากที่สุด ส่วน 16 ตำรับต้องใช้ของกลางมาผลิต และขณะนี้เพิ่งเริ่มได้จากการปลูกที่สกลนคร สำหรับผู้ป่วยที่มามักเป็นนอนไม่หลับอ่อนเพลีย พาร์กินสัน ไมเกรน มีภาวะเกร็งชัก บางคนกินข้าวไม่ได้ กินยาแผนปัจจุบัน แต่พอใช้น้ำมันเดชา 3 หยดต่อคืน 2 สัปดาห์กินข้าวได้
นพ.มรุต กล่าวว่า ภาพรวมการจ่ายยานั้น น้ำมันเดชาผลข้างเคียงน้อยมาก เพราะมีกัญชาประมาณ 0.2-0.3% เท่านั้น หากมีอาการก็เล็กน้อย ได้ผล 60-80% แล้วแต่อาการ ส่วนทำลายพระสุเมรุก็ได้ผลค่อนข้างดี ส่วนการเสนอน้ำมันเดชาให้เป็นตำรับที่ 17 นั้น ขณะนี้มีผลการศึกษา 3 พันรายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดำเนินการ ก็จะเสนอเข้าสู่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดออกจากการวิจัย และเสนอออกเป็นตำรับที่ 17 ต่อไป เพื่อให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายได้
