เครือข่ายเยาวชนหิ้วปิ่นโตกินข้าวหน้า สธ. หนุนแบน 3 สารเคมีในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ หลังมีกระแสยืดเวลา 6 เดือน ย้ำขอให้ยึดประโยชน์สาธาณะมากกว่าการค้า วอนปกป้องเด็กและเยาวชนให้เข้าถึงอาหารปลอดภัย หวั่นสารพิษทำลายพัฒนาการ เสี่ยงออทิสติก ช่วยเกษตรกรเดินหน้าทำเกษตรกรรมแบบปลอดภัย
วันนี้ (26 พ.ย.) นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth) พร้อมแกนนำเยาวชนหลายเครือข่าย เช่น เครือข่ายเยาวชนปกป้องสิทธิ เครือข่ายเยาวชนจิตอาสา เครือข่ายเยาวชนนักขับเคลื่อนสังคม เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน เป็นต้น เดินทางมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการแบนสารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้รับหนังสือ นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ยังมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นำปิ่นโตใส่อาหารมารับประทานร่วมกัน เพื่อสื่อถึงความต้องการอาหารที่ปลอดภัยจากสารเคมีให้เด็กเยาวชนเติบโตอย่างปลอดภัย
นายสุรนาถ กล่าวว่า เครือข่ายเราทำงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในหลายประเด็น และพวกเราก็ถือเป็นเยาวชนที่เป็นผู้บริโภคคนหนึ่ง ที่อยากส่งเสียงในฐานะคนที่ต้องกิน บริโภค ซึ่งจากการติดตามการแบนสารเคมี คณะกรรมการวัตถุอันตรายก็มีมติเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาให้แบนสาเคมีทั้ง 3 ชนิด แต่กลับมีการส่งสัญญาณจากบางหน่วยงานว่าจะเสนอให้ยืดระยะเวลาการแบนสารเคมีออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งทางเครือข่ายฯ มองว่า สารเคมีทั้ง 3 ชนิด สร้างผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนมานาน หากปล่อยให้ผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่เหนือสุขภาพความเป็นความตายประชาชนก็จะเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าใจ เพราะมีข้อมูลชัดเจนจากหลายหน่วยงานว่า มีการปนเปื้อนของสารเคมีเกินค่ามาตรฐานตกค้างในพืชผักผลไม้ เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคเนื้อเน่า และที่น่าห่วงคือ ส่งผลต่อการเป็นออทิสติกในเด็ก ปัญหาพัฒนาการทางสมองของเด็ก ซึ่งจะต้องเติบโตเป็นกำลังของชาติในอนาคต รวมถึงกระทบต่อระบบนิเวศ สัตว์ต่างๆ ที่สำคัญ คือ เกษตรกรผู้ใช้สารเคมี
"เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอต่อกรแบน 3 สารเคมีต่อ สธ.และรัฐบาล ดังนี้ 1.ขอสนับสนุนให้รัฐบาลเดินหน้ายกเลิกการใช้ 3 สารพิษอันตราย ภายในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ขอให้ยึดมั่นในจุดยืนเพื่อประโยชน์สาธารณะมากกว่าการค้า 2.สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินทุกวิถีทางเพื่อทำให้เด็ก เยาวชน และพลเมืองทุกคนเข้าถึงอาหารปลอดภัย เติบโตภายใต้บริบทสังคมที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของเด็ก ทั้งอาหารและสิ่งแวดล้อม 3.เครือข่ายฯ ห่วงใยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมี ซึ่งคือญาติพี่น้องพี่ป้าน้าอาของเรา จึงขอสนับสนุนให้ใช้แนวทางเกษตรกรรมและการผลิตอาหารที่ยั่งยืน เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรและผู้บริโภค โดยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ และ 4.ขอชื่นชมจุดยืน สธ.ที่ชัดเจนในการปก้องสุขภาพประชาชน และยินดีเข้ามาร่วมในการเฝ้าระวังให้มีระบบอาหารที่ปลอดภัยและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค" นายสุรนาถ กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า ขอบคุณเครือข่ายฯ ที่เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งตนจะนำเรื่องเรียนต่อรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ สธ.ต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางสธ.ยืนยันในจุดยืนเดิมคือการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด