"อนุทิน" ชี้ขึ้นกับมติ คกก.วัตถุอันตรายชุดใหม่ หลังกรมวิชาการเกษตรชงเลื่อนแบน 3 สารพิษออกไป 6 เดือน ยันสัดส่วน สธ.โหวตห้ามใช้ต่อแน่นอน ย้ำส่งผลกระทบสุขภาพจริง ทำป่วยตาย กระทบทั้งเกษตรกรและคนบริโภค ลั่นไม่คำนึงผลกระทบอื่น เพราะ สธ.ดูแลแค่สุขภาพ
วันนี้ (25 พ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกรมวิชาการเกษตร เสนอให้เลื่อนการแบนสารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต จากวันที่ 1 ธ.ค. 2562 ออกไปอีก 6 เดือน หลังทำประชาพิจารณ์พบ 75% สนับสนุนให้ใช้สารเคมีทางการเกษตรต่อไป ว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2562 ให้แบนสารเคมีทั้งสามชนิด ถือว่ามีความชัดเจนและมีผลทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว สภาผู้แทนราษฎรก็เห็นชอบแล้วให้แบนสารพิษ การเลื่อนหรือไม่ต้องขึ้นกับมติคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งสัดส่วนกรรมการจาก สธ. เปลี่ยนจาก 3 คน เหลือ 2 คน คือปลัด สธ.และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ถือโอกาสนี้แสดงจุดยืนอีกครั้งว่า สธ.ยังมีมติที่ไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ใช้สารพิษทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนออกไป 6 เดือนหรือไม่ก็ตาม เพราะเราเป็นห่วงสุขภาพประชาชนเป็นลำดับแรก
นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีไม่ใช่แค่เกษตรกรเท่านั้น เพราะสารเคมีมีการนำไปใช้ในพืชผักผลไม้ ซึมลงไปในดิน แหล่งน้ำ หมายความว่ามีผลกระทบต่อประชาชนทุกคนที่บริโภค ตราบใดที่รับประทานพืชผักผลไม้อยู่ก็มีความเสี่ยงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ผลจะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่ร่างกายของแต่ละคน แต่ชัดเจนว่ามีผลกระทบแน่นอน ดังนั้น การแบนสารพิษเราจึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องผลกระทบอื่นๆ เพราะภารกิจของ สธ.คือ สุขภาพของประชาชน และเห็นจากสภาพของผู้ที่ติดเชื้อ ติดโรคจากการสัมผัสสารพิษเหล่านี้ เป็นอันสรุปได้ว่าบุคคลเหล่านั้น ตนไม่แน่ใจว่าระหว่างการเสียชีวิตกับมีชีวิตแบบนี้อยู่อันไหนจะดีกว่า เพราะเมื่อติดเชื้อโรคลุกลามก็เหมือนตายทั้งเป็น