เชื่อว่าคู่รักทุกคู่ย่อมต้องการให้ความสัมพันธ์ของตัวเองดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุขในทุกคืนวัน ขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นจริงได้เช่นกันว่ามีสุขย่อมต้องมีทุกข์เป็นของคู่กัน บางครั้งความทุกข์จากปัญหาความสัมพันธ์ในหลายๆเรื่องอาจทำให้คนสองคนได้ร่วมฝ่าฟันและรักกันแนบแน่นยิ่งขึ้น แต่เรื่องนี้คงใช้ไม่ได้กับ “การนอกใจ”
ในมุมมองของคู่รัก...การนอกใจเป็นการทำลายความรู้สึกไว้วางใจต่อกันซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตคู่ลงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่นทำให้เป็นเรื่องยากที่จะประคับประคองความสัมพันธ์ให้ดำเนินต่อไปได้ หลายคนได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา บ่อยครั้งที่คำตอบมาจากความพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนการนอกใจและโยนความผิดให้กับอีกฝ่ายเพื่อปกป้องตัวเอง
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คู่รักนอกใจกัน อาจเป็นได้ทั้งจากปัจจัยทางชีวภาพ ความมั่นคงทางอารมณ์และจิตใจ หรือแม้แต่ปัจจัยทางสังคม การรู้ถึงที่มาที่แน่ชัดอาจไม่สามารถลบล้างสิ่งที่เคยเกิดขึ้นได้ แต่ทำให้เราเข้าใจปัญหาและไตร่ตรองถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ได้อย่างถี่ถ้วน โดยสาเหตุที่เป็นแรงผลักให้คู่รักไม่ว่าชายหรือหญิงนอกใจกันมี 8 ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
1.แรงขับตามธรรมชาติ – ความต้องการขยายเผ่าพันธุ์ให้มากที่สุดเป็นพื้นฐานทางชีวภาพในฐานะสิ่งมีชีวิต แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องอยู่ร่วมกันจึงมีการกำหนดระเบียบทางสังคมซึ่งพัฒนาไปสู่ความคิดเรื่องการถือคู่ครองหนึ่งเดียว ดังนั้น การเกิดแรงขับตามธรรมชาติอาจส่งผลให้มีคนจำนวนหนึ่งท้าทายกรอบทางสังคมนี้โดยเปิดโอกาสให้มีบุคคลอื่นเข้ามาในชีวิต
2.แรงดึงดูดทางเพศ – คนบางคนอาจเลือกคู่ครองโดยพิจารณาจากความพอใจในรูปลักษณ์และความสามารถในการดูแลครอบครัวเป็นสำคัญ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนรูปร่างหน้าตาดี มีฐานะหรือมีรายได้สูงจะเป็นที่ดึงดูดให้คนเข้าหาและมีแนวโน้มตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการนอกใจได้มากขึ้น
3.จุดเริ่มความสัมพันธ์ – บางครั้งการสร้างความสัมพันธ์ก็เริ่มจากการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายมีสภาพจิตใจที่เปราะบางจากความเหงา มีความเศร้าเสียใจในบางเรื่อง คนรอบข้างเชียร์ หรือแม้แต่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้จากความสัมพันธ์มาก่อน โดยหวังว่าอยู่ไปจะรักกันได้เอง เมื่อไม่เป็นดังที่คิด จึงหาทางออกด้วยการสร้างรักใหม่ที่พึงพอใจมากกว่าซ้อนทับความสัมพันธ์บนผลประโยชน์ที่มีอยู่
4.ผิดหวังในความสัมพันธ์ – คู่รักหลายคู่ตั้งความหวังถึงความรักที่สวยงามในรูปแบบที่ตัวเองคิดไว้เสมอ โดยไม่เผื่อใจหรือตั้งหลักให้มั่นคงต่อความเป็นจริงที่ว่าชีวิตคู่คือการผ่อนหนักผ่อนเบาเข้าหากัน ทำให้เมื่อเกิดปัญหาไม่เข้าใจกัน ไม่สามารถสร้างสมดุลในชีวิตคู่ที่ตอบสนองและเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ จึงง่ายต่อการหลงคล้อยตามไปกับแรงดึงดูดใหม่ที่แทรกเข้ามาในช่วงที่รู้สึกผิดหวังกับความสัมพันธ์
5.สถานการณ์พาไป – ในหลายกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมักพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอกใจโดยไม่รู้ตัว ทั้งการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างใกล้ชิดและรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆกับบางคนที่อยู่ใกล้ตัวเสมอ ดังคำกล่าวที่ว่ารักแท้แพ้ความใกล้ชิด หรือการอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีมุมมองและพฤติกรรมนอกใจ ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้มองว่าการนอกใจนั้นเป็นเรื่องปกติ
6.ขาดความมั่นคงในรัก – ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คู่รักที่รู้จักและใกล้ชิดกันมานานจะเกิดความรู้สึกเคยชิน ซ้ำซากและน่าเบื่อ แต่แทนที่จะเลือกพัฒนาและสร้างความสดใหม่ในชีวิตคู่เพื่อประคับประคองกันไปอย่างมั่นคง บางคนกลับคิดถึงแต่ตัวเองโดยเลือกทางที่คิดว่าท้าทายและพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง สร้างสีสันให้กับชีวิตรักด้วยการนอกใจไปสร้างสัมพันธ์ใหม่ขึ้นมาแทนที่
7.ไม่ลงรอยกับคนใกล้ชิด – บ่อยครั้งที่คู่รักไม่ทำให้ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน การเปิดประตูให้คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทของแต่ละฝ่ายเข้ามามีอิทธิพลต่อความคิดและการกระทำทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับความสัมพันธ์โดยไม่จำเป็น ความไม่ลงรอยกับคนใกล้ชิดของคู่รักมักทำให้เกิดความรู้สึกถูกผลักไส ด้อยค่าและไม่ได้รับความสำคัญ จึงต้องร้องหาความรักที่สบายใจกว่า
8.เสพติดสื่อสังคมออนไลน์ – ในยุคสมัยนี้คงไม่อาจปฏิเสธอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อความมั่นคงของชีวิตคู่ได้ พื้นที่ดังกล่าวมักถูกใช้เป็นที่ปลดปล่อยตัวเองเพื่อให้ได้รับความสนใจจากคนอื่นหรือแม้กระทั่งเรียกร้องความเห็นใจเป็นพิเศษ จนเป็นช่องทางสานต่อความสัมพันธ์แบบลับๆไปโดยปริยาย อีกทั้งยังมีช่องทางการหาคู่อย่างแพร่หลายที่ช่วยกระตุ้นแรงขับตามธรรมชาติของผู้คนได้เป็นอย่างดี
เมื่อถึงเวลาที่คู่รักต้องเผชิญหน้ากับปัญหาความสัมพันธ์ ก็เป็นสิ่งที่แต่ละฝ่ายต้องพิจารณาและตัดสินใจว่าจะยุติหรือประคับประคองความสัมพันธ์ที่เปราะบางนี้ต่อไปหรือไม่ ปัญหาดังกล่าวจะซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีกหากมีลูกที่ต้องคิดคำนึงถึง จริงที่ว่าการนอกใจนั้นเป็นดั่งการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันจนยากที่จะประสาน แต่ก็ขอให้ใช้สติและเหตุผลในการตัดสินใจเพื่อให้เกิดผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา แม้จะไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นได้ แต่จะช่วยให้เรามีความรักที่สดใสได้อีกในอนาคต