กลุ่ม Save BCC รวมตัวสวมชุดดำ ไล่บอร์ด ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ-กก.มูลนิธิสภาคริสตจักรฯ หลังไม่พอใจผลสอบสวนปลด ผอ.ร.ร.-ไล่ออกผู้จัดการ ร.ร. อ้างไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมาไม่เคยรับฟังความเห็น ตั้งข้อสงสัยตั้งผู้บริหารใหม่อาจมีเรื่องผลประโยชน์ แฉมีการขอให้ยอมรับความผิด แลกรับตำแหน่งกลับคืน
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กลุ่มองค์กร Save BCC ประกอบด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง และศิษย์เก่า ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ต่างสวมชุดดำเดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อทวงถามความเป็นธรรม กรณีคณะกรรมการสภาคริสตจักรในประเทศไทยมีการสอบสวนและสั่งปลดนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ และไล่ออกนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ พร้อมแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนชุดใหม่ จากปมการจัดซื้อที่ดินและกิจการของ ร.ร.บึงกาฬพิทักษ์ศึกษา หรือโรงเรียนบึงกาฬคริสเตียน ว่าขัดต่อระเบียบข้อบังคับการบริหารหน่วยงานและสถาบันของสภาคริสตจักรในประเทศไทย และมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 2009 และหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างของสภาคริสตจักรในประเทศไทย และมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 2016 เนื่องจากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและผลคำตัดสินไม่มีความเป็นธรรม และผู้บริหารโรงเรียนและสภาคริสตจักรฯ ไม่เคยรับฟังใดๆ และการแต่งตั้งผู้บริหารเข้ามาใหม่อาจมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ นายสุรินทร์ อนุชิราชีวะ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการ ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ ได้ลงมาพบกับกลุ่ม Save BCC เพื่อเชิญกลุ่มเครือข่ายขึ้นไปหารือบนห้องประชุม แต่ทางกลุ่มไม่รับฟัง พร้อมตะโกนขับไล่ให้ออกไป หลังจากนั้นเริ่มมีนักเรียนออกมาร่วมขับไล่ด้วย พร้อมกับชูป้ายข้อความต่างๆ เช่น SaveBCC ไม่เอาคนเลว คนขี้โกง เป็นต้น
นายชัชวีร์ ชีวีวัฒน์ ศิษย์เก่า ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ รุ่น 136 และผู้ปกครองนักเรียนรุ่น 173 กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราเคยออกมาเรียกร้องแล้ว แต่ทางคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ และสภาคริสตจักรฯ ก็ใช้วิธีเดิม คือ เงียบ คิดว่าระยะเวลาจะทำให้กลุ่มคนจำนวนมากทั้งศิษย์เก่าและผู้ปกครองสลายตัวไปเอง แต่วิธีการแบบนี้ดูไม่ค่อยดี และสุดท้ายช่วงปิดเทอมก็มีผลการสอบสวนออกมาวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งการปลดนายศุภกิจ และไล่ออกนายวัชรพงษ์ ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาและผู้ปกครองไว้ใจ เมื่อเราอ่านผลสอบสวนแล้วรู้สึกไม่เป็นธรรม เพราะเราค้านมาตลอด เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งมา เป็นการกล่าวหาเองและสอบสวนเอง เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน ผลการสอบสวนจึงออกมาแบบนี้ วันนี้คงไม่เรียกร้องให้เปลี่ยนคณะกรรมการสอบสวนแล้ว เพราะข้ามขั้นตอนไปสู่ผลการปลดและไล่ออกแล้ว จึงมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้ทั้งบอร์ด ร.ร.และผู้บริหารมูลนิธิสภาคริสตจักรฯ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ
“มีคนเดือดร้อนขนาดนี้ ออกมาประท้วงกันขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการไม่จ่ายค่าเทอม ขณะนี้มีผู้ปกครองจ่ายค่าเทอมไม่ถึง 17% ก็ต้องพิจารณาผลงานตัวเองได้แล้ว โดยขอให้ลาออก ถ้าไม่ลาออกก็ต้องปลด สัปดาห์ที่ผ่านมาเรามีการไปยื่นคัดค้านการแต่งตั้งนายบรรจง ชมภูวงศ์ มาเป็น ผอ.ร.ร.คนใหม่ ต่อสำนักงานคณะกรรมกรส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และยื่นให้กรมการปกครอง ซึ่งเป็นนายทะเบียนมูลนิธิ ให้ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลการใช้เงินผิดประเภท โดยขอให้ตรวจสอบและถอดถอนกรรมการมูลนิธิสภาคริสตจักรฯ ส่วนเรื่องการตรวจสอบการจัดซื้อที่ดินก็ต้องมาว่ากัน อาจต้องตั้งสอบใหม่เพื่อให้ความเป็นธรรมจริงๆ” นายชัชวีร์กล่าว
นายชัชวีร์กล่าวว่า ขณะนี้ออกมาเรียกร้องกันเพียง 40% หากยังไม่จบหรือทำตามข้อเรียกร้องก็จะมีการออกมาชุมนุมกันอีก โดยวันนี้ได้มีการยื่นหนังสือถึง น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.เขตบางรัก ที่เดินทางมารับหนังสือด้วยตัวเอง และจะมีการประสานเดินทางไปยื่นหนังสือถึง ส.ส.ที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนอีก 5 คนในวันที่ 29 ต.ค.ด้วย รวมถึงนัดหมายสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไปยื่นหนังสือจากเด็กทั้ง 12 ชั้นปี และผู้ปกครองที่เดือดร้อน และยื่นหนังสือที่ สช.ที่ดูแลโดยตรง หากวันนี้ไม่ได้คำตอบก็ทำใจไว้แล้วที่ต้องหยุดเรียน
นายสมโภชน์ ทรงพิพัฒน์ ศิษย์เก่า ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนฯ รุ่นที่ 135 กล่าวว่า ทราบว่ามีการเรียกประชุมครู และมีครูวอล์กเอาต์ไปเพราะมีการไปพูดลักษณะข่มขู่ครู ใครเป็นผู้นำแสดงความคิดเห็นจะปลดออกทั้งหมด ถ้าเด็กไม่สามารถเรียนได้ ครูกล้ำกลืนฝืนทนถูกบังคับออกความเห็นแล้วคาดโทษ แบบนี้คงไม่ใช่ ร.ร.สอนให้มีภาวะผู้นำอยู่แล้ว แล้วผู้บริหารที่มาใหม่เคยอยู่โรงเรียนเดิมที่ทำเด็กลดลงจาก 6 พันคน เหลือ 3 พันคน เลยมองว่าการเข้ามายัง ร.ร.แห่งนี้ที่มีมูลค่าสูง มองว่าอาจมาเพื่อผลประโยชน์หรือไม่ ทั้งนี้ นายศุภกิจฝากข้อความมาบอกว่ามีการเสนอให้นายศุภกิจกลับมา ร.ร.ได้ ขอให้ยอมรับความผิด ซึ่นายศุภกิจย้ำว่าไม่มีวันยอมรับความผิดที่ตนไม่ได้ก่อเพื่อแลกกับตำแหน่ง